EP 09-10 อดอิจฉาไม่ได้

2534 คำ
ทั้งสองพากันออกมาห้างหลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ซินเนียยังเงียบไม่พูดไม่จาตั้งแต่ที่ครินต์พูดเรื่องรักแบบนั้นออกมา เธอไม่รู้ว่าที่เขาพูดจะสื่อถึงอะไร แต่มันกลับทำให้ใจเธอเต้นรัวกลัวมันจะเป็นแบบที่คิด "ทำไมเอาแต่นั่งเงียบแบบนั้น?" ครินต์หันมาถามเมื่อรถกำลังติดไฟแดง วันนี้เขาเลือกที่จะขับรถเองเนื่องจากอยากมีเวลาส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้มีใครคอยตามบ้าง "เปล่า แค่กำลังคิดว่าอยากทำงานน่ะ" "อยากทำอะไรล่ะ" ครินต์ถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เขากำลังทบทวนตัวเองว่าเลี้ยงเธอให้ขาดตกบกพร่องต้องไหน ทำไมเธอต้องไปหางานทำเพิ่ม "ยังไม่รู้เลย" "เงินที่ฉันให้เธอมันไม่พอหรือยังไง?" สุดท้ายเขาก็เลือกจะถามไปตรง ๆ ตามสไตล์ของเขานั่นแหละ "มันเกี่ยวอะไรกับเงินของนาย" "ไม่รู้เหรอ เห็นอยากไปทำงาน" "ไม่ได้ไปหาเงินใช้เพิ่ม ฉันขอพ่อฉันได้ แต่เบื่ออยู่ว่างมาก ๆ มันเบื่อนายเข้าใจมั้ย" ซินเนียเหวี่ยงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ "ฉันให้งบไปช้อปทุกวัน พอจะหายเบื่อได้มั้ย" "ครินต์" น้ำเสียงของซินเนียแบบนั้นเล็กเอาชายหนุ่มใจกระตุกวูบ "งั้นก็ไปหามาว่าอยากทำอะไร ใช้ทุนเท่าไหร่ฉันจะจัดการให้เอง พ่อน่ะไม่ต้องไปขอ เธอมีฉันอยู่ทั้งคน" "อืม" ห้าง เมื่อมาถึงครินต์เดินนำซินเนียเข้าทางด้านประตูของแขก VIP อย่างพวกเจ้าของ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ใช่เวลาที่เปิดห้าง แต่พอเข้ามาด้านในกลับเรียบร้อยราวพร้อมให้บริการ "นายใหญ่ขนาดไหน ถึงทำให้ห้างติดอันดับเปิดก่อนเวลาเพื่อฉันคนเดียวได้" "ซินเนีย มันไม่ได้อยู่ว่าฉันใหญ่หรือไม่ใหญ่ มันสำคัญที่ฉันทุ่มทำมันให้เธอ" เขามองจ้องไปในแววตาที่อ่อนไหวของร่างบางแลฃะกระตุกเธอเข้ามาชิดตัว "ครินต์ อย่าลุ่มล่าม นี่มันข้างนอก เกิดมีคนถะ.." "มันอยากถ่ายก็ให้มันถ่ายไป ฉันไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน" ก็เขามันพร้อมชนกับทุกคน ถึงไม่เข้าใจความเสียหายที่จะตามมา จริงอยู่ที่ซินเนียไม่ได้ห่วงภาพลักษณ์อะไรมากมาย แต่อย่างที่รู้ เธอขี้กเกียจมาตอบคำถามด้วยคำพูดสวยหรู หากความสัมพันธ์บนเตียงของทั้งสองจบลง "เฮ้อ ฉันไม่อยากพูดอะไรกับนายแล้ว หลบไปด้วย รอเดินตามรูดบัตรอย่างเดียวพอ" ครินต์ยอมแต่โดยดี เขาถอยหลังเพื่อให้เธอได้เดินนำไป "มีสินค้าคอลเล็กชั่นไหนที่คุณลูกค้าสนใจเป็นพิเศษมั้ยคะ?" พนักงานเดินเข้ามาบริการซินเนียด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดี "ตอนนี้กระเป๋าที่ซินอยากได้เข้ามารึยังคะ?" "เข้ามาแล้วค่ะ คุณซินเชิญทางด้านในเลยค่ะ" เธอหายเข้าไปกับพนักงานสาว โดยทิ้งให้ชายหนุ่มนั้นนั่งรออยู่ที่ด้านนอก เขามองไปรอบ ๆ แล้วได้ต่คิดในใจว่าทำไมเป็นผู้หญิงมันถึงลำบากอะไรขนาดนี้ "ไง" เสียผู้ชายที่เอ่ยทักจากด้านหลังดึงความสนใจของชายหนุ่มที่เอาแต่เฝ้ารอให้คนร่างบางเดินออกมา "มาตั้งแต่เมื่อไหร่?" ครินต์เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามไอดีลูกชายของหมอภาค "เพิ่งมา ไอเวทมนตร์ขอให้มาดูหน่อยว่าใครที่มึงยอมจ่ายให้มันเปิดห้างตอนนี้" "มาเองไม่ได้ยังดันทุรังส่งคนมาแทน บัดซบจริง ๆ" ครินต์ส่ายหัวไปมาเป็นเชิงหงุดหงิด แต่ก็ทำได้แค่นั้นแหละ เพราะสุดท้ายยังไงเสียไอดีก็ต้องได้เจอหน้าของซินเนียอย่างแน่นอน "เอาหน่า จะปิดไปทำไม ถ้าคิดว่าไม่ได้อะไรจริง ๆ" "ไม่ได้ปิด พวกมึงเคยเจอกันหมดแล้ว" ครินต์ไหวไหล่สบาย ๆ "ใครว่ะ" "ครินต์ รูดบัตรให้หน่อย" ในระหว่างที่ไอดีกำลังทำหน้างงและสงสัย คนที่เขาอยากจะรู้ก็เอ่ยเรียกครินต์พอดี "อืม" ครินต์เดินเข้าไปหาซินเนียด้านใน โดยมีไอดีที่เดินตาม และเมื่อได้เห็นคนคนนั้นที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ที่นี่ ไอดีถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "ซินเนีย? ลูกสาว..." "อืม ซินเนียคือคนของกู" "นานหรือยัง?" เพราะไอดีเห็นเธอวนอยู่รอบตัวของครินต์มานานโดยที่เขาไม่ได้สงสัยอะไรเลย คิดเพียงแค่ว่าสังคมเดียวกันเจอกันบ่อย ๆ ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลก "4 ปี" "ไอครินต์ คบกันนานขนาดนี้ ทำไมอาครามไม่เห็นเล่าให้พ่อหมอกูฟัง" "ไม่ได้คบ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ในขณะที่ไอดีประมวลผลไม่ทัน ครินต์เดินเข้าชิดซินเนียและยื่นบัตรของเขาที่เธอต้องการให้ ก่อนจะเดินมาหยุดที่ด้านหน้าของไอดีตามเดิม "มึงจะบอกว่าอยู่กับมา 4 ปี ไม่ใช่เพราะรักเหรอครินต์" "มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และมึงรู้ดีว่ากูไม่ได้สนใจเรื่องไร้สาระแบบนั้น" "มึงไม่ได้สนใจ หรือมึงพยายามไม่สนใจ คิดทบทวนตัวเองหน่อย" แววตาของคนที่แข็งกร้าวกระตุกเล็กน้อยเมื่อคิดตามที่อีกคนบอก ไอดีตบบ่าครินต์สองสามทีเหมือนปลอบประโลม "ไม่ต้องตอบกู ตอบแค่ใจของมึงก็พอ" "ไปกัน อ้าวคุณไอดี?" ซินเนียเลิกคิ้วสูงสงสัยเล็กน้อย แม้ว่าจะอยู่กับเขามานานแค่ไหน แต่ใช่ว่าเธอจะรู้จักคนรอบตัวของชายหนุ่ม "สวัสดีครับซินเนีย เรียกไอดีก็พอ" เขายิ้มเล็กน้อยและกับเธอ และเธอก็ยิ้มตอบ "ถ้ามาแค่นี้ก็กลับไปได้แล้ว" "ยังไม่กลับ จะไปเดินดูแหวนขอเมียแต่งงาน" ไอดีพูดแบบนั้นทำเอาทั้งสองตกใจเล็กน้อย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเขามีแฟน แต่เห็นว่าไอดียังวัยรุ่นเกินไปที่จะคิดสร้างครอบครัว "รีบไปไหน เมียมึงพร้อมแล้วเหรอ" "แค่อยากให้เขาอยู่ในฐานะภรรยา ไม่รู้ว่าเขาพร้อมมั้ย กูรู้แค่ว่ากูขอเพราะกูพร้อมแล้ว" รอยยิ้มของไอดีเวลาพูดถึงคนรักทำเอาซินเนียยิ้มตาม เธออดอิจฉาผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นไม่ได้ที่มีคนรักเธอมากถึงเพียงนี้ และใช่ว่าผู้ชายอย่างไอดีจะหาได้ง่าย ๆ "ขอให้มึงสมหวัง กูรอการ์ดเชิญ" ไอดีพยักหน้ารับ "ขอให้แฟนตกลงนะคะ" ซินเนียร่วมอวยพรอีกคน เธอที่พดไปยิ้มไปราวกับว่ากำลังยินดี ทำเอาครินต์อดคิดเรื่องของเขาสองคนไม่ได้เลย "ขอบคุณมากนะครับ ยังไงผมขอตัวก่อน" เขาก้มหัวให้เธอหนึ่งครั้งและมองหน้าครินต์ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยและเดินออกไป ท่ามกลางสายตาสองคู่ที่มองตาม "ชอบมันหรือไง มองตามตาละห้อย" "ชอบสิ ผู้ชายที่คลั่งรักแฟนแบบนั้นใครบ้างจะไม่ชอบ" "ฉันก็เป็นได้ คนคลั่งรักแบบมันน่ะ เธออยากเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นมั้ยล่ะ?" ซินเนียหันกลับมามองหน้าครินต์ก่อนยกยิ้มร้าย ๆ "ฉันว่าฉันคงเป็นผู้หญิงที่โชคร้ายที่สุดต่างหาก" "!!" หลังจากที่เธอช้อปจนพอใจ ได้เวลาที่ห้างเปิดพอดี ซินเนียเองก็เริ่มหิว ครินต์ตัดปัญหาในการเดินวนไปวนมาด้วยการตามการ์ดมาขนของไปเก็บ ส่วนเขาพาเธอไปกินข้าวก่อนจะกลับ "ซื้อกลับไปกินที่ห้องได้นะ ฉันรู้ว่านายไม่ชอบความวุ่นวาย" ซินเนียพูดและมองไปรอบตัวที่ตอนนี้เริ่มมีผู้คนเดินเข้ามาบ้างแล้ว "ฉันอยากลองใช้ชีวิตแบบนี้" "แบบไหน?" เธอเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม "แบบปกติ เป็นรคู่รักปกติที่พาคนรักมากินข้าวทั่วไป" ครินต์ตอบและจ้องไปที่แววตาของซินเนีย แทนที่จะพบอาการเคาะเขินเหมือนผู้หญิงคนอื่น แตจ่เปล่าเลย มันเรียบนิ่งจนน่าตกใจ "งั้นเหรอ" รน่างบางพูดเพียงเท่านั้นและเดินนำออกไปยังร้านที่เธอต้องการ ครินต์มีแววตาที่ไหววูบลง เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจทำลงไปเมื่อครู่มันดีพอมั้ย หรือมันกำลังทำให้เขาและเธอเพิ่มระยะห่างกันมากกว่าเดิม "นายจะกินอะไร?" ซินเนียเอ่ยถามหลังจากที่เธอสั่งอาหารของตัวเองเรียบร้อย" "เธอลองเลือกสิ อยู่กับฉันมานาน อยากรู้วส่าเธอจะรู้มั้ยว่าฉันเลือกอะไร" เขายอกย้อนแม้ตอนนี้ไม่ได้อยู่กันสองคนก็ตาม เพราะตอนนี้มีพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ "โพรชูโต 1 ค่ะ" เธอหันไปบอกพนักงานและหันกลับมายักคิ้วเล็กน้อยให้แก่ชายหนุ่ม "เพราะอะไรถึงเลือก?" "นายไม่ชอบทานแป้งเป็นอาหารเช้า โพรชูโตใกล้เคียงกับ Breakfast มากที่สุดเพราะทำมาจากแฮม"ครินต์ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจที่เธอเลือกมันได้อย่างดี แถมเหตุผลของเธอก็ยังดีอีกต่างหาก "สรุป?" "เธอเลือกได้ดี ไม่เคยทำฉันผิดหวังเลยในทุกเรื่อง อยากช้อปเพิ่มอีกหรือเปล่า?" "เบาหน่อยครินต์ เมื่อเช้าฉันว่านายก็หมดไปไม่น้อยนะ" ซินเนียยิ้มกว้างอย่างชอบใจ เธอผลสญเงินเขาได้เยอะกว่าที่คิดเสียอีก "แค่นั้นยังไม่ได้ครึ่งนึงของที่ฉันหาเลยซินเนีย อะไรที่เธออยากได้มากกว่านี้ฉันก็ให้เธอได้" "ในฐานะอะไรล่ะครินต์ บอกฉันหน่อยว่าคู่นอนที่นายเคยมีก่อนหน้า ได้มากเท่าฉันหรือเปล่า" เธอยื่นหน้าเขาหาเขาจนจมูกของทั้งสองแทบจะติดกัน "ฐานะอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ ส่วนก่อนหน้าเธอฉันไม่เคยมีคู่นอนตายตัว ทุกคนแค่ฉาบฉวยก็เท่านั้น" "ฐานะที่ฉันต้องการจากนาย แน่นอนว่าไม่ใช่คนรัก" "...." ครินต์ถึงกับจุกจนแทบพูดไม่ออก "เพราะสำหรับฉันแล้ว สำหรับเราแค่คู่นอนก็มากเกินพอ" ประโยคแรกว่าช้ำใจแล้ว แต่ยังไม่เท่าประโยคถัดมาที่เธอพูดเลย "เธอแน่ใจแล้วเหรอว่ามันมากพอแล้วจริง ๆ" "อืม ถ้าฉันอยากจะได้รักบริสุทธิ์แบบที่เคยบอกไว้ จากนายฉันคงไม่มีทางได้มา" เธอจ้องตาเขากลับแบบไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่นิด "เธอไม่ได้ หรือไม่เปิดรับมัน?" "นายจะบอกว่านายมอบความรักให้ฉันงั้นเหรอ ฉันที่นายเลือกเข้ามาเป็นคู่นอนตั้งแต่แรก" ถ้าจะโทษใครคงโทษฟ้าที่ทำให้ครั้งแรกของการเจอกันมันแย่จนไม่สามารถพัฒนาต่อได้ แต่นั่นมันก็แค่สำหรับคนอื่นเท่านั้น เพราะหากครินต์จะไปมากกว่านั้น ฟ้ากำหนดมาแค่ไหน เขาฝืนมันได้มากกว่า หลังจากออกจากห้าง สองคนไม่ปริปากคุยกันเลย บรรยากาศแบบนี้มันกลับมาอีกแล้ว บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอึดอัด "นายจะออกไปทำงานต่อหรือเปล่า" "ทำไม จะออกไปไหน?" ครินต์หันกลับมาจ้องเธอแและรอฟังคำตอบ "ฉันโตแล้ว จะไปไหนก็ได้" "วันนี้ฉันมีนัดดื่มกับเพื่อน ฉันว่าเพื่อนเธอเองก็ไปด้วย อยากไปด้วยกันมั้ย" ครินต์ยื่นข้อเสนอที่ไม่เคยทำมาก่อน "ต่างคนต่างไปก็ดีอยู่แล้ว" "แยกกันไปทำไม ในเมื่อคนอื่นเขารู้กันหมดแล้วว่าเรา..." "ครินต์ ฉันว่านายแปลกไป มีอะไรต้องการคุยกันมั้ย?" ซินเนียเหนื่อยแล้วที่ต้องเดาไปเองว่าอาการเหล่านี้ที่เขากำลังเป็นมันเกิดจากอะไร "ไม่มีหนิ" "งั้นอย่าพูดอะไรทำนองนี้อีก ฉันอึดอัด ที่เราเป็นมาตลอดมันดีแล้ว นายในเวอร์ชั่นนี้ฉันไม่โอเค" ชายหนุ่มเม้มปากแน่น "ฉันแค่แหย่เธอไปแบบนั้น ไม่ได้คิดจะรักเธอหรอกไม่ต้องห่วง" ความเจ็บปวดที่ครินต์เริ่ม เขาต้องเลียแผลของตัวเอง แม้ว่าวันนี้เขาไม่ได้บอกเธอว่ากำลังคิดอะไร แต่ใช่ว่าเขาจะปล่อยให้เธอไปเริ่มมันกับคนอื่น "ดีแล้ว อย่าเป็นผู้ชายหน้าโง่เลยครินต์ นายเป็นมันได้ไม่นานหรอก" เธอเอนตัวและเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ไม่รู้ว่าอะไรที่ครินต์คิดอยู่ แต่เธอเองก็มีเหตุผลของเธอ ไม่เข้ามาอยู่ในจุดนี้ ไม่มารับฟังคำพูดหรือความคิดที่เขามีตลอดสี่ปี คนอื่นไม่มีวันเข้าใจ "ขึ้นห้องไปก่อนเลย ฉันจะออกไปคาสิโน" "อืม ขับรถดี ๆ" ซินเนียพูดเพียงเท่านั้นและเปิดประตูลงจากรถไปเลย "เฮ้อ" ครินต์ถอนหายใจและถอยรถขับออกมายังสถานที่ที่เขาควรมาทุกวัน "ทำไมหน้าบูดบึ้งมาแบบนั้น" ครามเอ่ยถามลูกชายที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีด้วยความแปลกใจ ตามจริงเขาเข้ามาเพราะครินต์โทรมาขอลางาน แต่ไหงทำไมลูกชายเขาถึงมาโผล่ที่นี่ได้ "เปล่าครับ ป๊ากลับเถอะ เดี๋ยวผมทำเอง" "มีป๊า ไม่ต้องเก็บมันทุกเรื่องนะครินต์ ป๊าสอนแกเสมอว่าอะไรก็ตามที่ไม่สบายใจ โยนมันมาให้ป๊า แกใช้ชีวิตตัวเองไปให้ดี" "ผม...." "ไว้พร้อมแล้วเราค่อยคุยกัน วันนี้งานไม่มีอะไรแล้ว แกพักเถอะ" ครามเดินออกจากห้องไปเพื่อหวังให้เขาได้ทบทวนตัวเองให้ดี ครินต์มีหลายอย่างที่เหมือนป๊าอย่างครามเช่นเรื่องหัวรั้นไม่ฟังใคร และชอบเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว คิดเสมอว่าตัวเองจัดการได้ แบบนี้ครามถึงต้องรอให้เขาเดินเข้ามาบอกเอง มากกว่าการจะไปคาดคั้นเอาคำตอบ "ฉันไม่ดีตรงไหน" เขาถามตัวเองในใจซ้ำไปซ้ำมา ครินต์รู้ว่าตัวเองบอกเสมอว่าไม่เคยต้องการความรักวงี่เง่าพวกนั้นเพราะเวลาที่เห็นเพื่อนเสียอกเสียใจเวลาโดนคนรักนอกใจ มันดูโง่และน่าสมเพส แต่ทำไมวันนี้กลับเป็นเขาที่เรียกร้องอยากจะมีมัน อยากจะมีคนรัก แต่ไม่ใช่ใครก็ได้ เพราะคนที่เขาอยากได้มาเป็นคนรัก คือผู้หญิงที่มีความคิดเช่นเดียวกันกับเขาก่อนหน้า ครินต์ได้แต่คิดทบทวนว่าจะบอกมันให้เธอรับรู้ทำไม ถ้าบอกไปแล้วดูเป็นคนโง่สำหรับเธอ สู้เขารู้สึกมันเงียบ ๆ เพียงคนเดียวแบบนี้ต่อไปดีมั้ย เพราะยังไงเสียซินเนียก็ยังอยู่ตรงนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม