หลังจบกิจกรรมบนเตียง ทั้งคู่แยกย้ายกันทำความสะอาดร่างกาย ไม่บ่อยนักที่ซินเนียและครินต์จะอาบน้ำพร้อมกันเพราะทั้งคู่ไม่อยากให้เกิดความเคยชิน หากวันใดวันนึงใครอยากจะไป อย่างน้อยไม่ผูกพันธ์อะไรกันย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด
"วันนี้มีตรงไหนที่เธอไม่ชอบหรือไม่พอใจหรือเปล่า?" ครินต์ถามระหว่างที่เธอกำลังดูซีรีส์อย่างใจจดใจจ่อ
"ไม่มี นายก็ทำดีทุกครั้ง" เธอตอบและหันมาอมงหน้าครินต์เหมือนเช่นทุกครั้งที่เขาถาม ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มไม่มั่นใจในเซ็กของตัวเอง แต่เขารู้สึกว่าความสนุกควรเป็นของคนทั้งสองคน
"อีกไม่กี่เดือนก็เข้าปีที่ 4 แล้วนะที่อยู่ด้วยกันมา อยากได้อะไรรึเปล่า?"
"ปีนี้คิดยังไงถึงถาม ปกตินายบอกมันไร้สาระจะจำทำไมไม่ใช่หรือไง?" เธอแปลกใจเล็กน้อย เพราะสามปีที่ผ่านมา ซินเนียเป็นคนบอกครินต์ล่วงหน้าเสมอ หน้าที่นี้ควรเป็นหน้าที่ของเธอ
"ก็ไม่ได้ใช้ความพยายามในการจำ มันจำขึ้นมาเอง"
"งั้นเหรอ แปลกใจเหมือนกันนะ และดีใจที่ฉันเป็นส่วนนึงของความจำนายบ้างแล้ว" ร่างบางพูดและหันไปจดจ้องที่จอสมาร์ททีวีตามเดิม
"ปกติฉันไม่สนใจเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"วันนี้นายไปกินอะไรผิดแปลกมาหรือไงครินต์ ถึงคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้"
"ตอบมาสิ ฉันอยากรู้บ้างว่าความคิดของเธอฉันเป็นแบบไหน มันแปลกมากหรือไง" เขามองเธอด้วยสายตาที่กดดันและรอฟังมันด้วยความตั้งใจ
"เรื่องอื่นนายใส่ใจฉันดีแล้ว มันก็เหมาะกับสถานะของเราสองคน เรื่องพวกนี้นายไม่สนใจมันก็ไม่ได้แปลก ฉันแค่แซวนายไปแบบนั้นไม่ต้องคิดมาก"
"เหรอ รู้ใช่มั้ยว่าทุกครบรอบปีเธอจะต้องไปตรวจร่างกาย" ข้อตกลงอีกข้อที่ซินเนียต้องทำ ทุก ๆ ปีครินต์จะจัดเตรียมคอร์สตรวจสุขภาพราคาแพงไว้ให้ซินเนียทุกปี เธอเข้าใจว่าเขาคงเซฟตัวเองพอสมควรเลยไม่ได้คิดมากอะไรมากมาย อีกอย่างมันก็เป็นความสบายใจทั้งวเขาและเธอด้วย
"สี่ปีแล้ว ยังคิดว่าฉันจะไปนอนกับคนอื่นให้ติดโรคอีกหรือไง" ซินเนียพูดพรางขำเบา ๆ
"ใครบอกว่าฉันให้เธอตรวจเพราะกลัวเรื่องนั้น"
"..."
"ฉันเคยพูดเหรอว่าฉันไล่เธอไปตรวจทุกปีเพราะกลัวโรคทางเพศสัมพันธ์จากเธอ" เธอเม้มปากแน่นเพราะครินต์ตอนนี้ดูเอาจริงเอาจังกับการคุยมากไป
"ฉันจะไปรู้หรือไง ก็นายให้ตรวจตลอด ฉันก็ต้องถามหรือเปล่า"
"ทำไมไม่ถามตั้งแต่ปีแรก ปล่อยให้ตัวเองเข้าใจฉันผิด ๆ มาหลายปีแบบนี้มันใช้ได้แล้วหรือไง"
"เข้าใจผิดอะไรอีก" หน้าของซินเนียเริ่มแสดงออกถึงความหงุดหงิด
"เข้าใจใหม่ซะ ที่ฉันให้เธอตรวจก็เพราะสุขภาพเธอทั้งนั้น อย่างน้อยทุกปีเธอจะได้รู้ว่าตัวเองผิดปกติตรงไหนมั้ย จะได้รักษาให้ทัน ไม่ใช่เพราะกลัวเอ..ส์" เขาพูดจบก็ลุกเดินออกจากห้องไปเลย ท่ามกลางความงงงวยของเธอ
"โกรธอะไร เรื่องแค่นี้เอง" ซินเนียไหวไหล่สบาย ๆ และนอนดูซีรีส์ของตัวเองต่อ
ครืด ครืด สายเรียกเข้าจากมือถือของครินต์ทำให้เธอต้องเบี่ยงความสนใจไปมองชื่อบนหน้าจอ และเมื่อได้เห็นชื่อก็เล่นเอาร่างบางหัวเสียเล็กน้อย
"หึ!" ซินเนียหยิบโทรศัพท์ของเขาและเดินออกไปหาเจ้าของมันที่ยืนสูบนิโคตินเข้าปอดอยู่ที่ระเบียง
"ผู้หญิงของนายโทรมา"
"ปากดีน้อยลงหน่อย ผู้หญิงของฉันมีแค่เธอ" เขาเอื้อมมือมาหยิบมันไปพร้อมพูดเชิงดุเล็กน้อย
"มีอะไร" น้ำเสียงที่ครินต์เอ่ยทักปลายสายดูแข็งกร้าวจนคนที่อยู่มานานอย่างเธอไม่ชิน
"...."
"มารยาทมีมั้ย มันใช่เวลาที่คุณควรโทรมาถามเรื่องงานกับผมหรือไง?" ซินเนียไม่ได้ยินที่ปลายสายพูดมา แต่พอจะเดาได้ไม่ยาก และเดาอีกว่าตอนนี้เธอคนนั่นคงหน้าเสียไปแล้ว
"รอบหน้าคุณจะกดโทรมาหาผม เสียเวลาเงยหน้าไปมองนาฬิกาสักนิด ผมไม่ใช่คนใจดี" ครินต์พูดจบก็กดวางไปเลย โดยไม่สนใจว่าคู่สนทนาต้องการอะไร
"ตอกกลับคนอื่นแบบนี้สินะ ถึงไม่มีเมียสักที"
"จะมีไปทำไม ฉันก็มีเธอแล้ว"
"เมียกับคู่นอนมันคนละคนนะครินต์ วันนึงยังไงซะเราสองคนก็ต้องแยกย้ายไปสร้างครอบครัว เรื่องนี้นายรู้ดีใช่มั้ย?" มาถึงการคุยที่เคร่งเครียดนี้ ครินต์เริ่มอารมณ์หงุดหวิดอีกครั้ง เขายอมรับว่าไม่พอใจเท่าไหร่ที่ซินเนียพูดถึงการสร้างครอบครัว
"ทำไม มีคนที่เธออยากจะสร้างครอบครัวด้วยแล้วหรือไง"
"มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร พ่อฉันก็บ่นเรื่องนี้แล้ว อีกอย่างอายุเท่านี้เหมาะกับการมีใครสักคนมาเป็นคู่คิดแล้ว"
"มีฉันก็คิดได้ อยากให้ช่วยคิดอะไรเธอก็บอกมา"
"คู่คิดในความคิดของฉันคือคนที่อยู่กันด้วยความรักนะครินต์ ไม่ใช่อยู่เพราะแค่เรื่องบนเตียงไปวัน ๆ นึง" สองสายตาสอดผสานกัน ใจของฝ่ายใดฝ่ายนึงเต้นแรงด้วยความกลัว ส่วนอีกฝ่ายเต้นเพราะสายตาของคนที่มองมา
"คนคนนั้นของเธอ"
"ทำไม?" ซินเนียเอียงคอสงสัยเพราะครินต์พูดแค่นั้นแล้วเงียบไป
"ต้องเป็นคนแบบไหน?"
"ถามแบบนี้อยากเอาไปไว้ใช้หาเมียบ้างหรือไง" ซินเนียพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่ครินต์ไม่ขำมันสักนิดเลย ช่วงนี้เขามีเรื่องมากมายที่กำลังถาโถมเข้ามา ไหนจะงานที่ได้รับตำแหน่งจากพ่อมาหมาด ๆ และความรู้สึกของเขาเองที่กำลังตีกันอยู่ และต้นเหตุมันก็มาจาก "เธอ"
"บอกมาเถอะ ว่าผู้ชายหน้าโง่แบบไหนที่เธอต้องการ"
"คนที่รักฉัน รักมากพอที่จะทำให้ฉันรู้สึกและรับรู้ได้" คำตอบของซินเนียมันดูยากไปกับคนที่ไม่เคยรู้สึกกับใครอย่างครินต์ เขาไม่รู้ว่าต้องรักแค่ไหนอีกคนถึงจะรู้สึกได้ว่าเขารัก
"มันอาจจะมีคนที่รักเธอแล้วเธอไม่รับรู้ก็ได้หนิ"
"ถ้าเขารักฉันมากพอ ฉันเชื่อว่าตัวเองจะเห็นมัน" ซินเนียมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา แสงไฟของเมืองตอนกลางคืนมันดเูสวยงามเมื่อเรามองและใช้ความคิดไปกับความสวยงามของมัน
"ฉันขอให้เธอเจอคนนั้นของเธอ ถ้าเจอก็มาบอกฉัน"
"อืม ฉันจะบอก อย่างน้อยก็ต้องล่วงหน้าก่อนฉันจะแน่ใจ นายจะได้มีเวลาทำใจหาคู่นอนคนใหม่ หรือหาเมียเป็นของตัวเองไปเลย"
"ฉันคิดว่าถึงวันนั้นฉันอาจจะไม่ต้องหาเลย เชื่อมั้ยซินเนีย"
"..."
ตั้งแต่วันที่พูดคุยกันถึงเรื่องการสร้างครอบครัว ซินเนียและครินต์ไม่เคยพูดเรื่องนี้กันอีกเลย แต่เหมือนระยะห่างของทั้งคู่เพิ่มมากขึ้น ราวกับว่าเรื่องนี้ทำเอาเขาและเธออยู่ในความคิดตรงนั้นกันมากไป
"วันนี้ฉันไม่ได้มานอนที่คอนโดนะ"
"จะไปไหน?" ครินต์ถามในระหว่างที่เขากำลังยืนติดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้าย
"ไปสังสรรค์ตามสไตล์สาวโสด นายจะไปด้วยมั้ยล่ะ?" ซินเนียเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงกวนมากกว่าถาม
"ไม่ล่ะ อยากไปซื้อชุดใหม่หรืออยากได้อะไรใหม่รึเปล่า"
"ถ้าบอกว่าอยาก นายจะพาไปเหรอ" เธอก็แค่ลองเชิงไปแบบนั้นเพราะรู้ดีว่าครินต์ไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ที่ต้องเดินตามใครช้อปปิ๊ง เขาบอกว่ามันไร้สาระ
"ถ้าบอกว่าอยากให้ฉันไป ฉันก็จะไป" ร่างบางเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินคำตอบที่เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ยินมันจากปากผู้ชายที่เธอร่วมหลับนอนมากว่าสี่ปี
"จริง ๆ ก็น่าสน แต่รอบที่แล้วนายชักสีหน้าจนพนักงานไม่กล้าจะเดินมาดูแลฉัน"
"ครั้งนี้ฉันจะไม่เป็นแบบนั้น ฉันสัญญา"
"รู้สึกว่าพักนี้นายจะสัญญาอะไรกับฉันบ่อย ๆ นะครินต์ นายจำมันได้ทุกอย่างที่นายพูดหรือเปล่า" เธอวางสมาร์ทโฟนที่เล่นอยู่ตอนแรกและนั่งกอดอกมองหน้าของชายหนุ่มแทน
"ฉันยังเหมือนเดิม ยังเป็นครินต์ที่ไม่เคยรับปากอะไรส่ง ๆ ถ้าบอกว่าจะทำ ฉันทำมันได้เสมอ เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอ?"
"อืม งั้นวันนี้นายพาฉันไปช้อปได้รึเปล่า" เธอแค่อยากรู้ก็เท่านั้นว่าเขาจะทำมันอย่างที่พูดได้ตลอดมั้ย เพราะสภาพของชายหนุ่มตอนนี้เหมือนคนที่พร้อมไปทำงานแล้ว
"โอเค ไปอาบน้ำ ฉันจะไปนั่งรอด้านล่าง"
"มันยังไม่ถึงเวลาห้างเปิด รีบมากหรือไง"
"เผื่อเธอลืมว่าฉันรู้จักเจ้าของห้าง อยากเดินก่อนเวลาแบบคนไม่เยอะมั้ย ถ้าอยากก็ไปแต่งตัว เรื่องอื่นฉันจะจัดการให้เอง" ครินต์พูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง และเธอรับรู้ได้ว่าความต้องการแบบนั้นมันจะทำให้อีกหลายคนเดือดร้อนเพื่อเธอ
"ไม่เอาหรอก พนักงานเขาอาจจะ..."
"อย่าคิดแทนคนอื่น ฉันไม่เคยใช้งานใครฟรี ๆ ถ้ามันแลกกับความสุขของคนของฉัน" สุดท้ายเธอก็ได้แต่เดินคอตกเข้าห้องน้ำไปเพราะขี้เกียจจะเถียงกับเขา
"ฮัลโหล" ปลายสายเอ่ยทักหลังจากที่รับโทรศัพท์ของครินต์
"เปิดร้านในห้างก่อนเวลาได้หรือเปล่า"
"จะพาใครมา?" เวทมนต์ ลูกชายของเปลวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ติดแปลกใจเล็กน้อย
"คนของกู จะพาไปช้อป ไม่ชอบคนเยอะ อีกอย่างเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ"
"พิเศษ?"
"ไม่" เขาตอบหน้าตาย แต่ปลายสายกลับไม่รู้สึกแบบนั้นสักนิด
"งั้นก็รอห้างเปิด"
"ไอเวทอย่ากวน" เพราะอายุที่ห่างกันไม่มากเท่าไหร่ สองคนจึงคุยกันราวเพื่อนสนิท
"ปากน่ะอย่าให้มันแข็งมากนัก ระวังเมียหอบลูกหนีเหมือนพ่อกู"
"ไอเด็กเวร เดี๋ยวกูจะฟ้องอาเปลว" ครินต์เริ่มหัวเสียขึ้นมานิด ๆ ที่มีคนมาบอกว่าเขาปากแข็ง
"ฮ่า ๆ โกรธที่กูเปรียบเทียบมึงกับพ่อกู หรือโกรธที่กูรู้ทัน"
"...."
"อย่าทำให้มันเป็นเรื่องยาก ถ้าวันนั้นมาถึงมึงนั่นแหละที่จะเจ็บหนัก ส่วนห้างเดี๋ยวจัดการให้"
"อืม" เขาวางสายเวทมนต์ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เพราะความคิดที่ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์จึงไม่สังเกตว่าซินเนียออกมาจากห้องน้ำแล้ว
"ทำหน้าแบบนั้น มีอะไรหรือเปล่า งานเข้ามาเหรอ เดี๋ยวฉัน..."
"ไปแต่งตัว เลิกพูดมาก" ก็ปากครินต์มันแบบนี้ ใครจะไปทนอยู่หรือรักเขาลง ความอ่อนโยนไม่มี ซินเนียเพียงแค่คิดในใจ
แต่เธอลืมมองไปว่า ครินต์ไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบพูดจาหวานเลี่ยนให้ฟัง แต่เขาจะเป็นคนทำให้ดู ตลอดเวลาที่ผ่านมาครินต์เปรียบเสมือนคนที่หายาให้เรากินเวลาป่วย ไม่ใช่คนที่ไล่ให้ไปกินยา
"ฉันมีอีกอย่างจะขอนายได้หรือเปล่า ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับสี่ปีที่เราร่วมเตียงกันมา"
"อยากได้อะไร"
"อยากให้นายใส่เสื้อสีอื่นที่ฉันเลือกให้ ถ้านายทำฉันยอมอมให้จนแตกเลย" ครินต์หลุดยิ้มมุมปากเมื่อเธอเอาเรื่องเซ้กมาแลกกับเขา ราวกับมันคืออมยิ้มรสโปรด
"ฉันเชื่อว่าเธอพูดแล้วจะทำได้ เพราะแบบนั้นฉันตกลง" ซินเนียยิ้มร้ายเหมือนคนที่พอใจได้ของเล่นยังไงอย่างงั้น เธอไหวไหล่เล็กน้อยและเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดที่ต้องการ
ของในคอนโดที่นี่ไม่ได้มีของใครคนใดคนนึงเป็นหลัก มันดูเหมือนที่อยู่ของคู่รักเสียมากกว่า คอนโดของครินต์ที่เขาเอาไว้อยู่กับซินเนียเป็นคอนโดห้องสูทสุดหรูที่แยกโซนชัดเจน และมีถึงสองชั้นให้เดินขึ้นลง
ราคาที่เขาจ่ายไปไม่ทำให้คนอื่นแปลกใจเท่าไหร่หากเห็นบริเวณความกว้าง แต่ที่น่าแปลกใจคือเขาซื้อมันไว้เพื่ออยู่กับใครในสถานะอะไรมากกว่า
"มานี่สิ ฉันทาครีมให้"
"อารมณ์ไหนของนาย ครีมตัวเองนายยังไม่เคยทา จะให้ฉันไว้ใจให้นายทาครีมเหรอ?" เธอเย้าแหย่อยากจะกวนและให้ความผ่อนคลายบ้าง แม้รู้ส่าครินต์ไม่ใช่ผู้ชายที่มีมุมนั้นก็ตาม
"ลองดูสิ ฉันอาจจะทำมันได้ดี"
"รู้สึกว่าช่วงหลังนายทำตัวแปลก ๆ หลงรักฉันแล้วหรือไง?"
"แล้วถ้าฉันหลงรักเธออย่างที่ว่าจะทำยังไง?" ซินเนียเม้มปากแน่นอีกครั้ง เป็นรอบที่สองของใน 1 ชั่วโมงที่ใจของเธอเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมา
"อย่าพูดเล่นไปหน่อยเลย ลืมหรือไง คฌากรไม่รักใครน่ะ"
"ก็ไม่ได้รักใครไง บางทีมันอาจจะรักแค่เธอ อยู่กันมานานแล้วอะไรก็เกิอดขึ้นได้หนิ"
"นายไม่ใช่ผู้ชายหน้าโง่ครินต์ นายไม่เรียกร้องหาความรักที่ตัวเองไม่ต้องการหรอก" กลายเป็นครินต์เองที่เงียบไป เขาทำเหมือนไม่ใส่ใจให้เธอไม่คิดอะไรมากกว่านี้เพราะตัวเองก็ไปต่อไม่เป็น แต่ในใจและความคิดของชายหนุ่ม มันตีมัวพัวพันไปหมดจนเจ้าของความคิดยังหาคำตอบให้กับตัวเขาเองไม่ได้เลย
"มานั่งสักที จะทาครีมให้ ไม่ถูกใจตรงไหนบอก ฉันจะแก้" ซินเนียยอมมานั่งลงตรงหน้าเขาแต่โดยดี เพราะเธอเองหลังจากที่พูดแบบนั้นไปก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงเหมือนกัน ช่วงนี้ดูเหมือนเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ จะเข้ามาอยู่ในบทสนทนาของสองคนมากเกินความจำเป็น
"ซินเนีย"
"หื้ม?" เธอขานรับแบบไม่ใส่ใจ เพราะเอาแต่มองตามมือหนาที่ลูบไล้ครีมลงบนผิวขาว ๆ ของตัวเอง
"ฉันไม่เคยรักใคร แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะเริ่มรักไม่ได้"
"...."