EP 01 -02 คฌากรไม่เคยรักใคร
"วันนี้จะกลับคอนโดรึเปล่า?" ร่างแกร่งเอ่ยถามคนที่อยู่ด้านข้างของตัวเองเมื่อวันนี้ทั้งคู่อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน
"ไม่รู้ คิดถึงแล้วหรือไง?" คนตัวเล็กยกคิ้วสูงเชิงเอ่ยถามสไตล์คนกวน ๆ แบบเธอ แต่ถึงแบบนั้นการกระทำที่ดูทะเล้นแบบนี้ ไม่เคยได้รับรอยยิ้มจากคนตรงหน้าเลย
"ถ้าจะกลับ ก็บอกแล้วกัน ฉันจะให้การ์ดไปส่ง" ครินต์กวักมือ 1 ครั้งเรียกการ์ดที่ยืนอยู่ออกไปไม่ไกลเพื่อมารับของในมือที่เขาถืออยู่
"นึกว่าจะไปส่งเอง" ซินเนียพูดพลางไหวไหล่สบาย ๆ เธอไม่ได้ซีเรียสหรือมานั่งน้อยใจอะไร แค่อยากจะแขวะเขาทุกครั้งที่มีโอกาสก็เท่านั้น
"อยู่กับฉันมาก็นานมากแล้ว ไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นแบบไหน?"
"เพราะรู้ไง เราถึงยังอยู่ด้วยกัน" ร่างบางโยนแก้วน้ำทิ้งลงถังด้านข้างก่อนจะเงยหน้ามองผู้ชายที่ตัวสูงกว่าเธอ ก่อนจะพบว่าเขามองเธออยู่ก่อนแล้ว
"วันนี้เจอกันที่คอนโด เสร็จงานค่อยมา ฉันไม่รีบ" ครินต์พยักหน้าตอบเบา ๆ และหมุนตัวเดินจากไป
คุณเชื่อคำว่าคนบางคนอยู่มานานโดยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความรักรึเปล่า? แต่เชื่อเถอะ เพราะครินต์และซินเนียทั้งสองอยู่กับแบบนี้มานานกว่าสามปี ในสิ่งที่เรียกว่า "เซ็ก"
อืมไม่ผิดหรอก เซ็กนี่แหละ เจอกันที่อโคจรอยากจะมีความสัมพันธ์กันในแบบที่คืนเดียวจบ แต่ใครจะไปรู้ว่าคืนนั้นทั้งคู่กับเจอคนที่ตอบสนองในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้อย่างดี
ซินเนียเสพติดเซ็กที่ครินต์มอบให้ ส่วนครินต์เสพติดความเจ็บปวดที่เธอรับมันได้ไม่เหมือนคู่นอนคนอื่น เรื่องคืนนั้นมันถึงยืดระยะเวลาออกมานานเกินกว่าใครคนใดคนนึงจะคิดถึงตอนจบของมัน
"คุณซินอยากแวะที่ไหนก่อนมั้ยครับ?" การ์ดคนสนิทของครินต์ถูกมอบหมายให้ดูแลเธอในวันนี้ เขาไม่มีงานอะไรมากมายนักถึงถูกส่งมาดูแลหญิงสาวตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม
"ไม่ ไปส่งฉันที่คอนโด"
"ครับ" ร่างบางเดินออกจากห้างด้วยการ์ดอีกสามคนที่เดินตามหลัง เธอเคยชินกับชีวิตในแบบนี้ไปแล้วเพราะครินต์ ครินต์คนเดียวที่ทำให้ซินเนียไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนปกติเขาทำ
คาสิโน
ร่างแกร่งพลิกเอกสารสองแผ่นไปมา วันนี้มีบางอย่างเข้ามารบกวนความคิดของเขาจนแทบไม่เป็นอันทำงาน แต่เพราะมันคืองานด่วนครินต์ถึงพยายามที่จะเข้าใจมันให้ทันก่อนที่จะจรดปลายปากกาเพื่อเซ็นต์อะไรลงไป
"คิดมากเรื่องอะไรขนาดนั้น?" เสียงทุ่มของบางคนทำเอาเขาต้องเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมเล็กน้อยและเลิกมันขึ้นสูงเชิงสงสัย
"มองแบบนั้นทำไม?" ครามนั่งลงตรงข้ามของลูกชายตัวเองด้วยท่าทีสบาย ๆ
"เข้ามาตั้งแต่ตอนไหนครับ?"
"คาสิโนป๊า ป๊าจะมาตอนไหนก็ได้ มีปัญหาเหรอ?" อาการของลูกชายเขาตอนนี้ มันคล้ายกับตอนที่เขาถูกแม่ของครินต์ปั่นประสาทช่วงจีบไม่ผิด
"ไม่มีครับ แค่ถามดู ปกติป๊าต้องทำหน้าที่เป็นคนถือของให้มี้ ครินต์เลยไม่คิดว่าป๊าจะมีเวลา" ทุกวันนี้ครามยังท่องในใจคำเดิม "ลูกกูเหมือนกู" นั่นทำให้เขาใจเย็นลงได้เสมอกับความกวนของเด็กตรงหน้า
"อายุขนาดนี้แล้วไม่เห็นจะมีเมียมาให้ป๊าสักทีล่ะครินต์" ครามเพียงแค่เกริ่นลองเชิงก็เท่านั้น เขาไม่เคยคิดจะเข้าไปก้าวก่ายหรือวุ่นวายในการสร้างครอบครัวของลูกเลย เพราะรู้ดีว่ามันจะทำให้ลูกของเขาไม่มีความสุขแค่ไหน
"จะรีบไปทำไมครับ เดี๋ยวสัก 28 ค่อยมีก็ได้"
"อีกสามปี?"
"ครับ" ครินต์ตอบสั้น ๆ และจดจ่อที่เอกสารต่อ
"รอมีเมียอีกสามปี รอมีหลานให้ป๊าอุ้มไม่อีกสิบปีเลยหรือไง"
"ได้เป็นคุณปู่ตอน 50 ผมว่าไม่ได้แย่เท่าไหร่นะครับ" อืมผลจากการที่ครามเลี้ยงลูกมาเองกับมือ วันนี้เขาเห็นเวรกรรมอยู่ไม่ไกลแล้ว เอื้อมมือนิดเดียวสามารถฟาดปากเวรกรรมของเขาได้ด้วย
แต่เห็นหยอกกันแรง ๆ แบบนี้ เมื่อไหร่ที่ครอบครัวของเขามีปัญหา เขาสามารถล้มล้างได้ทุกอย่างเพื่อการเอาคืน ความคิดนี้ไม่ใช่เพียงแค่ครามที่มีมัน แต่ครินต์เองก็ด้วย
"ป๊าอยากจะ..."
"ผมรู้ว่าป๊าเหงา แต่ผมขอเวลาสักครู่ครับ เอกสารสองแผ่นของผมพออยู่กับป๊ามันต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ"
"!!!"
3 ทุ่ม รถสปอร์ตคันหรูที่ถูกขับด้วยลูกชายคนเดียวของเจ้าของคาสิโนชื่อดังเลี้ยวเข้ามาจอดในคอนโดที่เขาซื้อไว้ร่วมสามปีเพื่อเป็นที่ส่วนตัวที่เขาเอาไว้ใช้กับบางคน
แกร๊ก! เสียงประตูห้องนอนที่แยกโซนจากห้องรับแขกถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงไม่มีแม้แต่การที่จะเกรงใจว่าเธอที่นอนอยู่ก่อนอาจจะหลับไปแล้ว
"มาเหนื่อย ๆ ไปอาบน้ำไป ฉันซื้อข้าวเอาไว้แล้ว" ครินต์พยักหน้ารับและเดินไปหยิบผ้าก่อนจะเข้าห้องน้ำทำความสะอาดร่างกาย
ซินเนียเขวี่ยงขาลงจากเตียงและเดินตรงออกมาที่ห้องรับแขกด้านนอกเพื่อเตรียมของกินให้กับคนที่ทำงานมาเหนื่อย ๆ เหมือนเช่นทุกครั้งที่เธออยู่
"วันนี้มีอะไรกิน?" ครินต์มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปกปิดส่วนที่ไม่มีใครควรเห็นและเดินเช็ดผมด้วยผ้าอีกผืนตรงเข้ามาถามเธอ
"ไม่ถามสักวันได้มั้ย แค่นั่งรอเอาไปวางก็รู้แล้วว่าคืออะไร"
"เธอนี่นะ" ชายหนุ่มส่ายหัวไปมา ก็เพราะทั้งคู่ไม่ได้อยู่กันด้วยความอ่อนโยนตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้มันถึงกลายเป็นความปกติ
"อะ กินเสร็จแล้วบอกล่ะกัน ฉันจะเข้าไปดูหนังรอ"
"นั่งลง" น้ำเสียงเข้ม ๆ ที่สั่งเธอ หากเป็นคนอื่นคงเชื่อฟังแล้ว แต่เพราะนี่คือซินเนีย นอกจากจะไม่ฟังยังแลบลิ้นใส่เขาอีกต่างหาก ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องที่ออกมาตอนแรก
"เฮ้อ"
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
คนตัวเล็กเห็นว่ามันผิดปกติที่ครินต์ไม่เดินเข้าไปสักทีจึงออกมาตาม เขาไม่เคยกินข้าวนานกว่า 15 นาทีสักครั้ง อยู่กันมาจนรู้ทุกอย่างที่อีกฝ่ายทำจึงไม่แปลก
"ทำไมไม่เข้าไป"
"ทีฉันบอกให้เธอนั่งรอไม่เห็นจะฟังฉันบ้าง" เขาพูดเหมือนไม่ใส่ใจอะไรมากมายเพราะเอาแต่ก้มเล่นโทรศัพท์ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองเธอ
"ทำตัวเหมือนผัวฉันเข้าทุกวันนะ"
"ผัวอะไรของเธอซินเนีย เราสองคนก็แค่..."
"เซ็กที่ดีต่อกัน" ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ร่างบางก็พูดต่อประโยคโดยเดาได้ไม่อยากว่าเขาจะเอ่ยอะไรออกมา
"ฉันรู้ไม่ต้องย้ำ ไม่ได้งี่เง่าเหมือนเด็กของนายที่ผ่านมา และฉันกับนายเราเป็นอะไรฉันรู้ดีกว่าใคร" เธอส่ายหัวเล็กน้อย เพราะพูดเรื่องนี้ทีไรครินต์ชอบมีอาการทุกที
"ที่เราอยู่กันได้นานขนาดนี้ มันเพราะเธอไม่เหมือนใครนี่แหละซินเนีย" ครินต์ดึงเธอมานั่งลงบนตักแกร่ง และวางโทรศัพท์ที่เขาสนใจอยู่ก่อนหน้า
"ใช่ เพราะนายก็ไม่เหมือนใครฉันถึงอยู่ ถ้างี่เง่าทำความเป็นเจ้าของฉันไปนานแล้ว" เธอเองก็ย้ำเขาไม่ต่างกัน
"ฉันไม่ใช่ผู้ชายหน้าโง่พวกนั้น ที่เรียกร้องจะต้องการความรักเฮงซวย" พูดไปมือของเขาก็เลื้อยเข้าไปตามชุดนอนผ้าซาตินของเธอ
"ไม่คิดว่าวันนึงนายจะรักใครบ้างหรือไงครินต์?"
"คนอย่างครินต์ คฌากร ไม่เคยรักใคร!" บทสนทนาจบลงเพียงเท่านั้นเพราะเธอถูกเขาช้อนร่างขึ้นและเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว แทนที่จะเป็นห้องนอนเหมือนคนปกติเขาทำ
"บนนี้?"
"อืม ไม่ได้ทำมานานแล้ว"
"ไปหาผ้ามารองก่อน รอบที่แล้วฉันปวดหลังไปหลายวัน" ครินต์หมุนตัวเดินกลับเข้าไปหาสิ่งที่ต้องการแต่โดยดี แม้ว่าเขาต้องการแค่เซ็ก มันไม่ได้หมายความว่าชายหนุ่มจะสักแต่เอาเหมือนคนทั่วไป เขาทรีตซินเนียมาดีเสมอ เธอถึงเสพติดสิ่งที่เขาทำให้
"อ้าขาหน่อยซินเนีย"
"ไม่ให้เอาข้างหลัง!"
"ย้ำฉันมาสามปีแล้ว เธอจะย้ำจนปีที่ 4 เลยหรือไง?" กฎตายของเธอเขาจำมันได้ดี
"มันชินไปแล้ว"
"เฮ้อ งั้นอ้าขาได้แล้ว ฉันจะได้กระแทกแล้วไปนอนสักที" ครินต์กระชากผ้าที่พันรอบเอวของตัวเองออกอย่างไม่ใยดี กระจกริมระเบียงไม่ได้ถูกดึงม่านมาปิดไว้แต่อย่างใด เพราะบริเวณรอบไม่มีตึกไหนสูงเท่าห้องของเขาแล้ว
"ถ้าจะเอาส่ง ๆ ฉันไม่ให้เอา"
"เคยทำแบบนั้นหรือไง?" เขารู้ว่าเธอไม่ชอบแบบไหน และครินต์ไม่เคยเอาแค่ส่ง ๆ การเล้าโลมและให้ความสุขแก่คนที่รองรับมันสำคัญต่อเขาเสมอ
"รู้ก็ดี"
"รู้ก็จำไว้ด้วย เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ฉันยอมเอาลิ้นไปสัมผัสมัน" เซ็กเร่าร้อนของชายหญิงในห้องดังระงม หากไม่ใช่ห้อง VIP ที่ทั้งชั้นมีเพียงห้องเดียวและอยู่ในชั้นที่สูงที่สุดของตึก ป่านนี้โดนคนเคาะด่าไปแล้ว