“แต่เดี๋ยว! เธอยังไม่ได้ตอบแทนที่ฉันไม่คิดเงินค่าใช้จ่ายลูกๆ ของเธอย้อนหลังเลยนะเทียมหทัย” เขาลุกขึ้นเรียกเธอขณะที่เธอนั้นกำลังจะเปิดประตูออกไป
“ขอบคุณค่ะที่กรุณา เด็กๆ คงจะตื้นตันกับความกรุณาของคุณไม่น้อยค่ะ แล้วฉันจะไปบอกพวกเขาให้ตอนที่ฉันไปไร่เดือนหน้านะคะ” เธอหันกลับมาพูดประชดเขา
“แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากได้” เขาเดินไปหาเธอ
“งั้นดิฉันก็ไม่มีอะไรให้ค่ะ หรือถ้าคุณติดใจเรื่องค่าใช้จ่ายมาก ก็คิดเงินย้อนหลังก็ได้นะคะ คุณพ่อคงจะเซ็นต์เช็คจ่ายมาคืนฉัน ทันทีที่ฉันไปขอท่าน” เธอตอบกลับแบบกวนอารมณ์เขา
“นี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะได้จากเธอต่างหาก…”
เขาพูดเสร็จก็รั้งร่างบางของเธอเข้ามาระดมจูบที่ริมฝีปากอย่างไม่ปราณี ริมฝีปากของเขาบดขยี้ไปบนเรียวปากบางของเธอ ด้วยความรุนแรง เปรียบประหนึ่งเขาจะถ่ายทอดความเกลียดชังทั้งหมดที่มีต่อเธอลงไปกับรอยจูบของเขา เขาระดมจูบเธออย่างไม่มีความปราณีจนเจ้าของเรียวปากรู้สึกเจ็บ และเขาก็ปล่อยให้เธอเป็นอิสระในที่สุด
“เป็นไงรสจูบฉันกับพ่อฉันต่างกันมั้ย”
เขาพูดเมื่อถอนริมฝีปากออกพร้อมทั้งหัวเราะเยาะเธอด้วยท่าทางที่สะใจไม่น้อย เทียมหทัยนั้นรู้สึกชาไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเขา ได้แต่วิ่งออกจากห้องนั้นให้เร็วที่สุด และต้องรีบปาดน้ำตาให้หมดไปจากใบหน้า
เพราะไม่อยากให้พนักงานและเลขาฯ ที่ทำงานอยู่หน้าห้องของเขาเห็น เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องทำงาน พร้อมทั้งล็อกประตูเอาไว้ แล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ด้วยอาการที่เหนื่อยหน่าย พร้อมทั้งก้มหน้าร้องให้กับโต๊ะทำงานอยู่นานสองนาน
“นี่เธอจะต้องทนรับอารมณ์กับผู้ชายคนนี้ไปอีกนานสักเท่าไหร่กัน ทำไมเธอไปทำอะไรให้เขาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเขาถึงได้จงเกลียดจงชังเธอมากขนาดนี้ แต่ถึงยังไงเธอก็ต้องอดทนนะเทียมหทัย เพราะบุญคุณของคนที่ชุบเลี้ยงเธอมานั้นล้นหัวนัก
นี่ถ้าเธอไม่ได้ถูกพ่อแม่เอาไปทิ้งขว้างเอาไว้ ให้เป็นเด็กกำพร้า เธอก็คงจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขไม่น้อย แล้วนี่ผู้ที่ให้กำเนิดเธอนั้นไปอยู่ที่ไหนเสีย ทำไมถึงได้ปล่อยให้เธอถูกสังคมผู้ดีรังแกเธอได้ถึงเพียงนี้”
ยิ่งคิดเทียมหทัยยิ่งพาลคิดไปถึงความสุขเมื่อครั้งอดีตที่เธอและธรรทรมีด้วยกัน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บแป๊ปที่หัวใจ เมื่อนึกถึงคำพูดของคุณหญิงรสรินทร์ที่ให้เหตุผลที่เธอไม่ยอมรับเธอเป็นลูกสะใภ้
“ใช่สินะเรามันก็แค่คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่โชคดีที่มีคนใจบุญเอามาชุบเลี้ยงก็เท่านั้น แล้วเธอจะไปหวังให้ใครมาให้เกียรติเธอได้ล่ะเทียมหทัย เธอมันก็แค่กาฝากของบ้านเท่านั้น เธอจะต้องเจียมเนื้อเจียมตัวนะ”
เทียมหทัยฉุกคิดขึ้นมาได้เลยตั้งสติปราดน้ำตาที่นองแก้มแล้วก็รีบทำงานที่เขาสั่งให้เสร็จ เพราะไม่เช่นนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะใช้แผนไหนเอามาเล่นงานเธออีก
“ยัยขิมกลับมาแล้วเหรอลูก งานเลี้ยงสนุกมั้ยจ้ะ” พรรณีทักลูกสาว ขณะที่นั่งดูหนังอยู่กับกรรชัยและปลาย
“งานเลี้ยงเหรอคะ”
หญิงสาวทวนคำ เมื่อกลับเข้าบ้านเอาดึกดื่นเพราะนั่งทำงานให้เขาแต่ก็ยังไม่เสร็จดี จนต้องหอบกลับมาทำต่อที่บ้าน
“จ้ะก็พี่เขาบอกว่าขิมไปงานเลี้ยงรุ่นไงจ้ะ สนุกมั้ย ดูท่าทางเหนื่อยๆ นะลูก” พรรณีบอก ซึ่งก็ทำให้เทียมหทัยเข้าใจอะไรดีขึ้นไม่น้อยทีเดียว
“ขิมหิวมั้ยลูก แต่ไม่มีกับข้าวแล้วนะ เพราะขิมไปงานเลี้ยงป้าอรเขาก็เลยไม่ได้เก็บไว้น่ะลูก ถ้าหิวแม่จะไปต้มโจ๊กให้เอามั้ยจ้ะ” พรรณีแสดงท่าทางห่วงใยเธอเป็นพิเศษ
“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณแม่ ขิมอิ่มจากงานเลี้ยงมาแล้วค่ะ งั้นขิมขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีงานค้างยังไม่เสร็จค่ะ”
เธอส่งน้ำเสียงประชดเขาและเดินผละไปในที่สุด ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผิดอะไรเลยสักนิดเดียว แต่ออกจะสะใจด้วยซ้ำ
“สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณย่า ขิมไม่ได้เจอคุณย่ามาตั้งหลายวันแล้วคิดถึงจังเลยค่ะ” เทียมหทัยร้องทักขณะเดินมาสมทบกับทุกคนที่โต๊ะอาหาร
“เป็นไงลูก ย่าก็ไม่เห็นขิมมาหลายวันเหมือนกันจ้ะ แล้วนี่จะไปทำงานเลยหรือลูก กินอะไรก่อนสิ เอาข้าวต้มนะ แค่กาแฟกับขนมปังแผ่นเดียวมันไม่อยู่ท้องหรอกลูก”
“ก็ได้ค่ะ งั้นเช้านี้ขิมเอาข้าวต้มก็แล้วกันค่ะป้าอร”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบและลงไปนั่งเก้าอี้ถัดจากคนที่เธอไม่อยากแม้แต่ที่จะมองหน้าด้วยซ้ำ
“พักนี้ไม่เห็นหนูสามาเที่ยวบ้านเราเลยเจ้าปลาย” กรรชัยถามลูกชายขณะตักอาหารเข้าปาก
“สาเขางานยุ่งครับคุณพ่อ”
“หนูสานี่น่ารักนะตาปลาย เรานี่ตาแหลมจริงๆ เลยรู้มั้ย”
คุณพร้อมเสริม แต่คนฟังนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะระหว่างเขากับวันวิสาข์นั้นแท้ที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเกินกว่าคำว่าเพื่อนเท่าไหร่เลย แต่เขาก็ยอมรับว่าวันวิสาข์เป็นเพื่อนที่รู้ใจเขามากๆ คนหนึ่ง แต่ถ้าจะมีความรู้สึกอะไรที่เลยเถิดไปถึงขั้นนั้นเขาก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไรเลย แต่ก็คงจะอีกนานที่เขาจะคิดเรื่องนี้ เพราะยังไม่อยากต้องเสียความเป็นโสดเร็วเกินไป
“แล้วเจ้าหมอล่ะยัยขิมวันนี้จะมากินข้าวเย็นบ้านเรามั้ย รายนี้ก็หายหน้าไปเหมือนกัน” พรรณีถาม
“ไม่ทราบค่ะ เห็นพี่หมอบอกว่าพักนี้งานยุ่งๆ ค่ะ” เธอตอบ
“อ้าวอิ่มแล้วเหรอลูก” พรรณีถามเทียมหทัยเพราะเห็นตักอาหารเข้าปากไม่กี่คำเลย
“ค่ะขิมรีบค่ะ งั้นเจอกันตอนเย็นนะคะ”
“ไปพร้อมพี่ก็ได้นี่” ปลายรีบพูดดักเธอ
“เอ่อ! นั่นสิจ้ะยัยขิม ทำงานอยู่ที่เดียวกันจะไปหลายคันทำไมจ้ะ ช่วยชาติประหยัดน้ำมันก็ดีนะลูก” คุณพร้อมเห็นด้วย เล่นเอาเทียมหทัยนั้นอ้ำอึ้งเพราะพูดไม่ออก