ถ้าเธอได้ธรรทรเป็นลูกเขยเธอก็ชื้นใจในระดับหนึ่งเพราะจะหาผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างเขาและเป็นคนดี ไม่สัมมะเลเทเมาที่ไหน วันๆ เอาแต่ทำงานเท่านั้น และเรื่องเจ้าชู้นั้นยิ่งไม่มีข่าวมาเข้าหูเธอเลย
“รถคงจะติดมั้งลูก” เธอพยายามแก้ตัวแทน
“คุณแม่ก็ยังงี้ทุกทีเลยค่ะ พี่ธรรผิดนัดชุมาหลายครั้งแล้วนะคะ ยังจะมาเข้าข้างอีก ชุไม่ยอมหรอกค่ะ” เธอพูดพร้อมออกอาการน้อยใจ
“คุณแม่คะ ชุชักไม่แน่ใจแล้วนะคะว่าชุตัดสินใจรับหมั้นกับพี่ธรรนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือเปล่า ชุรู้สึกว่าพี่ธรรเขาไม่เคยคิดว่าชุเป็นคู่หมั้นเลยค่ะ เขาก็คอยแต่คิดว่าชุเป็นเด็กเหมือนเมื่อสมัยเด็กที่เราเคยเล่นด้วยกันอยู่เรื่อยเลยค่ะ”
เธอพยายามที่จะบอกโอบบุญผู้เป็นแม่อีกครั้ง เพราะเธอเคยบอกเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว แต่โอบบุญก็คอยแต่บอกว่า ถ้าได้ธรรทรเป็นคู่ชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่ดีแล้ว และเธอก็ให้โอกาสธรรทรบ้าง
“เอาอีกแล้วนะลูกชุ พูดแบบนี้อีกแล้วนะ! แม่ว่ามันก็ขึ้นอยู่กับเราด้วยนะลูกถ้าเราทำให้พี่เขาประทับใจและเปลี่ยนมุมมองของเราใหม่ สักวันพี่เค้าก็คงจะเปลี่ยนความคิดเองล่ะลูก พี่ธรรเป็นคนให้โอกาสคนจะตายไป จะทำให้เขารักนั้นไม่ยากหรอกนะลูกถ้าเราเข้าถูกจุด เขาเป็นคนชอบสบายๆ ไม่ชอบให้ใครมาคอยจู้จี้จุกจิกเขา เราก็ไม่ต้องทำ ไม่ต้องคอยตามตรวจเช็คว่าวันนี้เขาไปที่ไหน กับใคร ทำไมไม่มาหาเรา หรือทำไมเขาไม่ทำโน่น ทำนี่ให้เรา อะไรอย่างนี้น่ะลูก สักวันเขาก็จะต้องรักลูกสาวแม่เข้าสักวันล่ะนะ หรือลูกว่าไงจ้ะ! ถ้าลูกรักพี่เค้าลูกก็ต้องทำได้นะลูก และแม่ว่ามันก็ไม่ได้ยากสำหรับลูกเลยจริงมั้ยจ้ะ ลูกสาวแม่คนนี้ออกจะน่ารัก สวย มีชาติตระกูล ถ้าพ่อธรรเขามองไม่เห็นก็โง่เต็มทีแล้วล่ะ”
โอบบุญพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า เหมือนทุกๆ ครั้งที่เคยบอกลูกสาวเอาไว้
“ชุก็พยายามทำอยู่นี่ไงคะ ถึงไม่ได้โทรไปถามว่าอยู่ที่ไหน ยังไง และอีกอย่างนะคะ ถ้าเขาไม่อยากมาชุก็จะไม่ไปกวนเขาค่ะ ถ้าหากเขาไม่รักชุเหมือนที่ชุรักเขา ก็ให้เขามาบอกแม่เองว่าจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นค่ะ” เธอพูดไปตามความรู้สึก
“แล้วพ่อกับแม่ล่ะจ้ะลูก จะทำยังไง ลูกก็รู้ว่าตอนนี้ธุรกิจของเรานั้นไปได้ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะลูก”
โอบบุญให้เหตุผลที่แท้จริงกับชุติมาในที่สุด ซึ่งเหตุผลนี้เธอได้พร่ำบอกชุติมาเรื่อยมา
“ชุขอโทษค่ะคุณแม่ ชุเห็นแก่ตัวมากไปหน่อยค่ะ” เธอพูดพร้อมเข้ามาโอบกอดแม่ในที่สุด
“แม่กับพ่อเองต่างหากลูกที่จะต้องขอโทษลูก ที่จู่ๆ เอาภาระหนักมาทิ้งไว้ที่ลูก แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้มีจุดประสงค์เรื่องธุรกิจของเราอย่างเดียวนะลูก ก็อย่างที่แม่เคยบอกลูกเอาไว้ การที่ได้คุณธรรทรมาเป็นคู่ชีวิตนั้น เป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้วลูก” เธอบอกลูกสาว
“ค่ะคุณแม่ชุจะทำให้พี่ธรรรักชุให้ได้ค่ะ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน จะใช้วิธีไหน ชุก็จะทำให้พี่ธรรรักและเห็นค่าของชุให้ได้ค่ะคุณแม่” ชุติมาตั้งปณิธานเอาไว้
“อ้าวสงสัยมากันแล้วมั้งลูก”
โอบบุญบอกลูกสาวเพราะได้ยินเสียงรถแล่นมาจอดที่คฤหาสน์ ถึงแม้ว่าฐานะการเงินของเธอและสามีจะฝืดเคืองลง แต่ด้วยความมีหน้าตาในสังคม เธอและสามีก็ไม่สามารถให้คนภายนอกรู้ฐานะที่แท้จริงได้ คฤหาสน์หลังนี้จึงจำเป็นจะต้องคงอยู่เพื่อรักษาหน้าตาเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าธนาคารจะมายึดคืนไปได้ทุกเมื่อ เธอก็ได้แต่หวังว่ารสรินทร์กับลูกชายคงจะช่วยได้ ถ้าลูกสาวได้แต่งงานกับเขาแล้ว
“ว่าไงจ้ะแม่ลูก คอยฉันนานมั้ย” รสรินทร์เอ่ยทักเพื่อนรักและว่าที่สะใภ้
“คุณป้าสวัสดีค่ะ ชุเพิ่งเสร็จพอดีค่ะ” ชุติมาไหว้และแกล้งพูดออกไปอย่างนั้น ทั้งๆ ที่เธอนั้นรอมาไม่น้อยกว่าสองชั่วโมงแล้ว
“ว่าไงจ้ะวันนี้จะพาลูกสาวเราไปเที่ยวที่ไหน นั่งก่อนนะ เอาน้ำส้มคั้นเหมือนเดิมนะ” โอบบุญทักเพื่อนรัก
“แหมโอบนี่รู้ใจเราไปทุกเรื่องเลยจริงๆ”
รสรินทร์ชมเพื่อนรัก และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เธอเลือกชุติมาให้มาเป็นคู่ชีวิตของธรรทร ถึงแม้เธอจะรู้อยู่เต็มอกว่าฐานะการเงินของโอบบุญจะเป็นยังไง ถึงแม้โอบบุญจะไม่เคยปริปากบอกก็ตาม แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะเงินแค่นี้เธอสามารถช่วยได้ แต่ที่สำคัญคือทั้งโอบบุญและครอบครัวก็เป็นคนดี เอาใจใส่ดูแลเธอและครอบครัวเมื่อยามต้องการความช่วยเหลือถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องเงินก็ตาม และที่สำคัญแล้วทั้งชาติตระกูล และฐานะทางสังคมนั้นก็ใกล้เคียงกับเธอ นี่คือสิ่งสำคัญ เพราะเธอจะไม่มีวันยอมให้ลูกชายไปคว้าเอาผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาใช้นามสกุลร่วมกับเธอแน่นอน
“แล้วพ่อธรรล่ะจ้ะรสไม่มาหรือ ไหนบอกว่าจะมาด้วยไงจ้ะ” โอบบุญถามทั้งๆ ที่เธอเองก็จะได้คำตอบแบบเดิมๆ จากเพื่อน
“วันนี้ตาธรรมีประชุมด่วนฝากให้ป้าขอโทษหนูชุด้วย ไว้คราวหน้าพี่ธรรเขาจะพาไปเที่ยวเพื่อเป็นการขอโทษนะจ้ะชุ” รสรินทร์จำจะต้องบอกออกไปอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ตั้งแต่เมื่อเช้าเธอไม่เห็นแม้แต่เงาของลูกชายคนโปรดเลยด้วยซ้ำ
“งั้นป้าว่าเราไปเลยดีมั้ยจ้ะชุ” รสรินทร์พูดหลังจากยกแก้วน้ำส้มคั้นที่คนรับใช้เอามาให้จนหมดแก้ว
“ดีค่ะคุณป้าเดี๋ยวคนอื่นจะรอแย่เลย” ชุติมารับคำ
“งั้นฉันไปแล้วนะโอบเอาไว้ว่างๆ เราค่อยนัดทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา”
“จ้ะ แหมเสียดายถ้าวันนี้ไม่ติดธุระก็จะได้ไปด้วย”
“คุณแม่คะชุไปนะคะ แล้วเย็นๆ จะกลับค่ะ” ชุติมาบอกแม่ พร้อมเดินตามรสรินทร์ออกจากห้องรับแขกไป