EP 31

1094 คำ
ตอนที่ 6   “คุณป้าคะชุรบกวนรอชุแป๊ปหนึ่งนะ เดี๋ยวชุไปเอาของให้คุณแม่ก่อน” ชุติมาบอกรสรินทร์หลังจากที่ให้คนรถจอดรอหน้าร้านตัดเสื้อผ้าชั้นนำ “ไม่เป็นไรจ้ะไม่ต้องรีบก็ได้ ป้าไม่รีบไปไหน” “ค่ะ” ชุติมารับคำแล้วก็วิ่งเข้าไปในร้าน “เอ๊ะนั่นมันรถเจ้าธรรนี่ใช่มั้ยนายใหญ่” รสรินทร์ถามคนขับรถเมื่อเห็นรถธรรทรจอดตรงหน้าร้านดอกไม้ พร้อมกับเห็นลูกชายหอบช่อดอกไม้ช่อโตออกมากับหญิงสาว ซึ่งเธอจำได้ว่าเป็นคนๆ เดียวกับที่ไปบ้านเธอวันนั้น “เอ่อ! ครับๆ ใช่ครับคุณหญิง” นายใหญ่คนขับรถตอบ “แล้วนั่นมาทำอะไรกับแม่นั่นล่ะ ดูสิเขาไม่ยอมมากับหนูชุแต่มากับแม่นี่ พักนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะเจ้าธรรนี่สงสัยจะต้องกำราบสักครั้งแล้ว” เธอบ่นพร้อมกับนั่งดูพฤติกรรมของลูกชายกับเทียมหทัยที่มีท่าทีที่สนิทสนมกันมากเป็นพิเศษเกินความเป็นคนรู้จัก ซึ่งทำให้เธอนึกสงสัยอะไรขึ้นมาได้ทันที แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะธรรทรกำลังขับรถออกไปจากหน้าร้านโดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นว่ากำลังเป็นเป้าสายตาของใคร “เสร็จแล้วค่ะคุณป้า” ชุติมาบอกขณะเข้ามานั่งในรถ “จ้ะ งั้นเราไปกันเลยนะ” รสรินทร์บอกพร้อมอาการโล่งใจที่ชุติมาไม่ทันได้เห็นสิ่งที่เธอเห็นเมื่อสักครู่นี้   “คุณหญิงเรียกผมมามีเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่าครับ” อลงกรณ์เข้ามาหารสรินทร์ด้วยท่าทางไม่สบายใจนัก ซึ่งเธอและแม่ของเขานั่งรอที่โต๊ะในสวนหลังบ้าน  “นั่งก่อนสิพ่อกรณ์ ก็ไม่มีอะไรหรอกฉันแค่อยากจะรู้ว่าตอนนี้ลูกชายของฉันไปมีใครที่ไหนนอกจากหนูชุบ้างหรือเปล่า” เธอบอกพร้อมหยั่งเชิงดูอลงกรณ์ว่าจะรู้เรื่องๆ นี้ด้วยหรือไม่ “เอ่อ! คุณหญิงหมายถึงใครครับ” อลงกรณ์ถามด้วยอาการอ้ำอึ้ง ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับแม่ของเขาที่รู้เรื่องมาโดยตลอด “ฉันหมายถึงว่าคนพิเศษที่เจ้าธรรเขาคบอยู่น่ะ มีมั้ย”  “เอ..ไม่เห็นคุณธรรพูดถึงใครนะครับ”   “แล้วแม่เทียมหทัยลูกเลี้ยงคุณกรรชัยกับแม่พรรณีล่ะ” รสรินทร์รีบเข้าประเด็นเพราะรู้ดีว่าอลงกรณ์จะต้องรู้ดีที่สุด “คุณเทียมหทัยก็เป็นคนที่เราร่วมงานด้วยครับ คุณธรรก็รู้จักพอๆ กับที่ผมรู้จักครับ ไม่มีอะไรพิเศษมากไปกว่านี้ครับคุณหญิง” อลงกรณ์ตอบด้วยอาการนิ่ง เพราะรู้ดีว่าถ้าเขาเผลอไปบอกอะไรรสรินทร์จะต้องเล่นงานธรรทรแน่ๆ เลย “จริงเหรอเจ้ากรณ์ อย่าโกหกฉันนะ เพราะฉันไม่ชอบ” รสรินทร์พูดท่าทางเอาจริง เล่นเอาอลงกรณ์ถึงกับหน้าถอดสี  “งั้นก็ไม่มีอะไรแล้วขอบใจนะ ไปพักเถอะทำงานมาเหนื่อยๆ แล้วเจ้าธรรไปไหนหรือนี่ ฉันไม่เห็นหน้าลูกฉันมาหลายวันแล้วนะ” รสรินทร์นึกได้  “วันนี้โทรมาบอกว่าจะพาลูกค้าไปเลี้ยงข้าวค่ะคุณ เห็นว่าจะกลับดึกไม่ต้องรอทานข้าว” สายชลรีบชิงตอบแทนลูกชาย “จริงหรือสายชล” “จริงค่ะคุณหญิง” “งั้นไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ” “ตามสบายจ้ะพ่อกรณ์ เธอด้วยสายชล วันนี้ช่วยฉันหลายอย่างแล้วไปพักผ่อนกับลูกเถอะ ขอบใจมาก” รสรินทร์บอกเพื่อนรัก “ค่ะขอบคุณค่ะคุณหญิง” สายชลกล่าวด้วยความนอบน้อม แล้วก็เดินผละไป ทิ้งให้รสรินทร์นั่งอยู่คนเดียว และก็กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องที่ได้พบเห็นมาเมื่อวันก่อน ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้จะพอใจนัก แล้วเธอจะทำยังไงกับลูกชายคนนี้ดี ถึงจะทำให้เขาทำอย่างที่เธอตั้งใจเอาไว้ และเธอก็รู้ว่าการใช้วิธีที่รุนแรงกับเขานั้นไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไหร่ จะเหลือก็วิธีเดียวที่เธอยังไม่ได้งัดออกมาใช้   “ไม่ยักรู้นะคะว่านักธุรกิจอย่างคุณธรรนี่จะยอมคุณแก้วทุกเรื่องเลย” เทียมหทัยแซวอลงกรณ์เพราะเห็นยอมให้ดวงแก้วใช้หยิบโน่นนี่อยู่ตลอดตั้งแต่มาถึงจนตั้งเตาบาร์บีคิวเสร็จ เพราะทั้งสี่คนพากันยกขบวนมาพักที่บ้านพักของกรรชัยที่ภูเก็ต โดยเธอใช้เหตุผลกับกรรชัยว่าจะมาประชุม เพราะถ้ากรรชัยรู้ก็คงจะไม่พอใจแน่ๆ เลย ส่วนธรรทรกับพรรคพวกก็หาเรื่องโกหกคุณหญิงได้ไม่ยาก เพราะมีคนรู้เห็นเรื่องนี้หลายคน  “ก็คนเรามันก็ต้องมีจุดอ่อนกันบ้างนะครับคุณขิม ดูอย่างเจ้ากรณ์สิยังยอมคุณขิมไปทุกเรื่องเลย จริงมั้ยกรณ์” อลงกรณ์แซวเจ้านายบ้าง เพราะอาการที่ธรรทรเป็นก็ไม่แตกต่างจากเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะคอยบริการโน่นนี่ให้เทียมหทัย ดูแล้วทำให้เขารู้สึกเห็นใจเจ้านายเขามากๆ เลย เพราะเขารู้ดีว่าคุณหญิงรสรินทร์น่าจะระแคะระคายอะไรบางอย่างแล้ว แต่ยังไม่ทำอะไรให้เด็ดขาดเท่านั้นเอง คิดแล้วพลอยทำให้เขานึกสงสารเทียมหทัยไม่ได้! เพราะเธอไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย “ก็คนมันรักเข้าไปแล้วนี่หว่า จริงมั้ยครับคุณขิม” ธรรทรส่งสายตาหวานเยิ้มไปทางเทียมหทัยซึ่งกำลังง่วนกับการปิ้งๆ ย่างๆ อย่างขวยเขินกับคำบอกรักต่อหน้าเพื่อนๆ ของเขา “อะไรคะ ขิมไม่รู้เรื่องนะใครรักใครกันคะ” เธอออกอาการอาย “อ้าว! พูดอย่างนี้สงสัยต้องการพยานรู้เห็นแน่ๆ เลย งั้นมานี่เลย” เขาพูดพลางเดินเข้ามากอดด้านหลังเธอและหอมเข้าที่แก้มฟอดใหญ่ “อุ๊ย! ปล่อยค่ะ ดูสิอายคุณธรรกับคุณแก้วบ้างสิคะ” “ไม่ต้องอายหรอกครับเราไม่เห็นอะไรนะแก้วนะ” อลงกรณ์แกล้งกลับ “ว้า! สงสัยขิมจะโดนรุมใช่มั้ยคะ” “โถ! ใครจะกล้ารุมคะคุณขิม แก้วว่าน่ารักออกค่ะ ดูคุณสองคนสิคะ หน้าตาสดใสมากๆ เลย นี่แล่ะน้าเขาเรียกว่าคนกำลังมีความรัก โลกทั้งใบมักจะสดใส” “งั้นโลกของเราก็ด้วยใช่มั้ยจ้ะ” อลงกรณ์พูดพลางเดินมากอดดวงแก้วบ้าง ทำให้ทั้งสี่คนหัวเราะด้วยความสุขพร้อมๆ กัน 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม