EP 54

1181 คำ
“มีอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะคุณหมอ มาก็ดีแล้วค่ะ ช่วยพยุงคุณขิมไปนั่งตรงโน้นก่อนนะคะ” บังอรบอก “ป้าให้ใครก็ได้ไปเอากระเป๋ายาผมที่รถด้วยนะครับนี่กุญแจครับ” ปัญญาบอกด้วยความตกใจ พร้อมทั้งเอามือล้วงเอากุญแจในกระเป๋ากางเกงออกมาให้ “ขิมเดินไหวมั้ยครับ” “ไหวค่ะขิมไม่เป็นอะไรมากค่ะ” เธอบอกแต่เข่าอ่อนด้วยความมึนงง จนในที่สุดปัญญาก็ช้อนร่างเธอขึ้นและพาไปนั่งที่ชุดรับแขก ทิ้งให้ปลายนั้นยืนดูด้วยความรู้สึกผิด และก็เดินผละไปในที่สุด เพราะเห็นว่ามีปัญญาเข้ามาช่วยแล้ว และอีกอย่างหนึ่งเขาก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกที่ห่วงใยเทียมหทัยขึ้นมาในที “ไม่เป็นอะไรแล้วครับ พี่ทำแผลให้แล้ว แต่ขิมต้องระวังอย่าให้โดนน้ำนะครับ สักสองสามวัน แผลก็คงจะหาย และก็ทานยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบไปด้วยครับ” ปัญญาบอกขณะที่ทำแผลให้เทียมหทัยเสร็จ ทำให้บังอรที่นั่งดูอยู่ด้วยนั้นมีท่าทางที่โล่งอก “แล้วไปเดินยังไงครับถึงได้เอาหัวไปพิสูจน์ความแข็งกับขอบบันไดได้ครับ” ปัญญาถามอย่างอารมณ์ขัน หลังจากรู้สาเหตุจากการบอกเล่าของเทียมหทัยที่บอกว่าอยู่ดีๆ ก็ฟุบลงไปเองเขาก็เลยไม่ทันได้รู้เรื่องราวที่แท้จริง จะมีก็แต่บังอรเท่านั้น เพราะรู้ดีว่าต้นเหตุที่แท้จริงนั้นคืออะไร และเธอก็ได้แต่ถอนหายใจกับผู้ชายที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ก็ไม่นึกว่าเขาจะกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ “งั้นพี่ว่าขิมขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะครับอีกหน่อยยาแก้ปวดที่พี่ให้ก็คงจะออกฤทธิ์ เดี๋ยวพี่จะกินข้าวกับเจ้าปลายสองคนก็ได้ เอาไว้วันหลังเราค่อยนัดกันใหม่”   “ป้าเห็นด้วยค่ะ เดี๋ยวป้าจะทำข้าวต้มให้เด็กยกไปให้นะคะ” บังอรสมทบ และเทียมหทัยก็ทำตามอย่างว่าง่ายพยุงตัวเองจะลุกขึ้น แต่พอเดินได้ไม่กี่ก้าวเข่าก็อ่อนลงจนปัญญานั้นรีบไปประคองร่างบางไว้ได้ทันเวลา “ป้าว่าคุณขิมคงเดินไม่ไหวหรอกค่ะคุณหมออุ้มเลยดีกว่าค่ะ” ปัญญาก็ไม่กล้าเสนอความคิดเพราะกลัวว่าจะเป็นการไม่สมควรแต่เมื่อบังอรอนุญาตเขาก็ไม่รอช้า “ไม่เป็นไรค่ะขิมเดินไหวค่ะพี่หมอ” เทียมหทัยแย้ง แต่ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว เพราะร่างของเธอนั้นถูกเขาอุ้มขึ้นบันไดไปอย่างง่ายดาย โดยมีบังอรตามขึ้นไปติดๆ ซึ่งทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในสายตาของปลายตลอดเวลา และเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นเพราะรู้สึกผิด หรือเพราะห่วงเธอกันแน่ และคำถามเหล่านั้นมันก็วนอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา “ค่อยยังชั่วหรือยังครับขิม ถ้ายังไงก็ทานข้าวและก็พักผ่อนนะครับ” ปัญญาบอกเธอหลังจากที่วางเธอลงบนเตียงและมีบังอรห่มผ้าให้เธอ “ขอบคุณค่ะพี่หมอ” “งั้นพักผ่อนนะครับพี่ขอตัวก่อน” เขาบอกทั้งๆ ที่ใจจริงๆ แล้วอยากจะอยู่ดูแลเธอไม่ให้ห่างสายตาด้วยซ้ำ ยิ่งนับวันความรักที่เขามีให้เธอนั้นก็จะทวีคูณขึ้นทุกวันๆ แต่เขาก็อ่อนใจกับคนที่อยู่ในใจของเทียมหทัยเหลือเกิน ที่นับวันก็ไม่มีแม้แต่วี่แววที่เธอจะลืมเขาได้ “เดี๋ยวป้าดูแลเองค่ะคุณหมอขอบคุณมากๆ นะคะ” บังอรกล่าว หลังจากที่เดินตามปัญญาไปปิดประตูห้อง พร้อมกับมานั่งที่ข้างๆ เตียงของเทียมหทัย และมองหน้าเธอด้วยความสงสาร แต่เทียมหทัยก็ใจแข็งไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้เธอเห็นเลยแม้แต่น้อย และก็ไม่อยากให้บังอรกังวลมากเกินไป ก็เลยข่มตาให้หลับไป ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคงทำให้เธอหลับไม่ลงไปอีกหลายวัน ! บังอรมองหน้าที่หลับสนิทแล้วก็ได้แต่ครุ่นคิด!   “โถ! แม่คุณ ตัวก็แค่นี้แต่จิตใจนั้นเข้มแข็งซะเหลือเกิน แล้วนี่จะให้ปลายคอยรังแกอยู่ได้อีกนานสักเท่าไหร่กัน” บังอรคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจและก็เดินออกไปนอกห้อง ทิ้งให้เทียมหทัยได้พักผ่อนเธอลืมตาขึ้นมาด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า เพราะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับโชคชะตาตัวเองยิ่งนัก “นี่เราเข้ามาเป็นมารคอยขวางกั้นความสุขของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน !  แล้วเมื่อไหร่เรากับเขาจะเป็นเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ บ้าง เมื่อไหร่ทุกคนจะได้มีความสุขที่ได้เห็นทั้ง เราและเขารักกัน ห่วงใยกัน และคอยดูแลโอบอุ้มกันไปในอนาคตข้างหน้าได้กันนี่  แล้วนี่เราจะต้องทนให้เขารังแกได้ตามใจชอบไปนานแค่ไหน !  ยิ่งนับวันเขาก็ยิ่งจะคอยมุ่งเอาแต่จะทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจเราไปทุกวัน เขาคงเกลียดเรามากๆ ถึงได้ยอมทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เราต้องช้ำใจ” เทียมหทัยเฝ้าครุ่นคิดเรื่องต่างๆ นานาอยู่นานจนหลับไปเพราะฤทธิ์ยาในที่สุด   “พี่หมอ! สวัสดีค่ะ ทำไมวันนี้มาเร็วจังเลยคะ” เทียมหทัยทักเมื่อเห็นปัญญาเดินเข้ามาในเรือนคุณพร้อม และมีกระเป๋าอุปกรณ์การแพทย์คู่ชีพมาด้วย “วันนี้พี่มีคนไข้ไม่เยอะครับก็เลยมาเร็วได้ วันนี้อาการคุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ” เขาถามคุณพร้อมเหมือนกับทุกๆ ครั้งที่มาตรวจเช็คร่างกายให้เธอ “โอย! สบายมากจ้ะ ย่ายังเตะปี๊บดังอยู่เลยนะตาหมอ” คุณพร้อมพูดขณะนั่งดูเทียมหทัยร้อยพวงมาลัยให้ ที่ชานเรือนริมบึง ซึ่งเป็นมุมโปรดของทั้งสองคน “คุณย่านี่ อารมณ์ดีตลอดเวลานะครับ ดีมากๆ เลยครับ” เขาบอกขณะที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เทียมหทัย ซึ่งทำให้คุณพร้อมแอบยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย “ขิม! พี่เอายามาให้ ทาตรงแผลที่หัวนะ จะได้ไม่เป็นแผลเป็นจ้ะ” เขาบอกเธอด้วยความอ่อนโยน “ขอบคุณค่ะพี่หมอ” เธอตอบเขากลับแล้วก็ยิ้มบางๆ ให้ “อย่าลืมทานะยัยขิม เดี๋ยวมีแผลเป็นที่หน้าผากแล้วหาแฟนไม่ได้ย่าไม่รู้ด้วยนะ” คุณพร้อมแซวเธอ “นี่ไม่รู้ไปเดินอีท่าไหน ถึงได้ฟุปจนต้องหัวแตกขนาดนี้ ทีหลังต้องเดินระวังๆ นะ” คุณพร้อมสอนอีก “ค่ะคุณย่า” เธอรับคำแค่นั้นแล้วก็เงียบไป เพราะในความรู้สึกนั้น ค่อนข้างจะไม่พอใจกับเจ้าของสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้เลย 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม