“ไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะบอกผมว่าจำได้มั้ยที่ผมบอกอะไรไป ไม่งั้นจะโดนทำแบบเมื่อกี้อีกแน่ๆ เลย ไม่เชื่อลองดูสิ!” เขาท่าทางเอาจริงพร้อมทั้งกอดร่างบางให้แน่นกว่าเดิม
“ปล่อยขิมค่ะคุณกรณ์ อย่าค่ะ…”
ไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่ออีก ริมฝีปากนุ่มนิ่มก็ถูกปิดด้วยเรียวปากของเขาอีกครั้ง และครั้งนี้เขาแสดงความเป็นเจ้าของมากกว่าครั้งที่แล้ว เพราะแน่ใจว่าความรู้สึกที่เธอมีให้นั้น ไม่ได้แตกต่างจากเขาเลย
จูบเนิ่นนานที่เขาประทับลงไป ยังความรู้สึกที่วาบหวามมาให้เธอโดยไม่รู้ตัว นี่หรือที่เขาเรียกกันว่าสัมผัสรักแรก นี่เธอรักเขาเข้าแล้วหรือนี่ ให้ตายสิเทียมหทัย ทำไมเธอไม่ขัดขืนเขาเลย เธอปล่อยให้เขาครอบครองร่างกายและริมฝีปากบางเสียเนิ่นนาน
แขนทั้งสองข้างนั้นเผลอยกขึ้นไปโอบหลังเขาไว้อย่างไม่รู้ตัว เป็นการให้สัญญาณกับเขาให้รุกหน้าต่อไป จากริมฝีปากมาที่แก้มขาวเนียนสองข้าง ไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวเนียนส่งกลิ่นหอมของน้ำหอมที่เธอชโลมบางๆ เอาไว้ก่อนที่จะไปหาเขา มือสองข้างของเขาโอบไปข้างหลังเพื่อลูบไล้แผ่นหลังเธอเพื่อหาความนุ่มนวลอยู่เนิ่นนาน
“คุณกรณ์ค่ะ! ปล่อยค่ะ!”
เธอเรียกสติกลับมาได้ และเอื้อมมือมาปราบมือใหญ่หนาหนุ่มของเขาเอาไว้ก่อนที่จะล้ำเส้นไปมากกว่านี้ ทำให้เขาเองก็เรียกสติตัวเองกลับมาเหมือนกัน
“ผมรักคุณ”
เขาบอกเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าชัดถ้อยชัดคำมั่นอกมั่นใจอย่างที่สุด เทียมหทัยอายจนพูดอะไรไม่ออกได้แต่นิ่งอยู่กับอกเขาเท่านั้น
“รักตั้งแต่วันแรกที่ผมพบคุณบนถนนวันนั้น คุณรู้มั้ยว่ามันทรมานแค่ไหนที่ต้องอยู่ใกล้ๆ กับคนที่ตัวเองรัก แต่ไม่มีโอกาสได้บอกกับเธอ”
และต้องการยืนยันการกระทำเมื่อครู่นี้ว่าเขาไม่มีเจตนาจะล่วงเกินเธอเพียงเพราะความต้องการของธรรมชาติของชายชาตรีเท่านั้น แต่ทุกอย่างที่ทำไปนั้นมันออกมาจากความรู้สึกลึกๆ ในใจเขาทั้งหมด
“แล้วทำไมคุณไม่บอกล่ะคะ” เธอพยายามเบี่ยงกายจากอ้อมแขนของเขา แต่ไม่สำเร็จ
“ก็ผมเพิ่งบอกเขาไปเมื่อกี้ไงครับ! และก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับรักผมบ้างหรือเปล่าน้า! ผมมันก็แค่ลูกกำพร้าพ่อที่ทั้งชีวิตต้องคอยพึ่งใบบุญของเจ้านายไปวันๆ ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาจะให้โอกาสให้ผมได้มอบรักให้” เขาพูดหยั่งเชิง
“ถ้าคุณกำพร้าพ่อ งั้นขิมก็แย่กว่าคุณสิคะ ไม่มีทั้งแม่และพ่อเลย”
“แต่คุณก็เป็นลูกสาวคนโปรดของคุณลุงกับคุณป้านะครับ ท่านฐานะร่ำรวย มีทุกอย่างไว้ให้คุณหมดแล้ว แต่คุณขิมดูผมสิ ถ้าไม่นับกับทรัพย์สมบัติที่คุณธรรยกให้ก็แทบจะพูดได้ว่ามีแต่ตัว แล้วใครที่ไหนเขาจะยอมให้ลูกสาวคนโปรดมาใกล้ชิดกับผมได้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำต้อยอีกครั้ง
“และถ้าท่านรู้ว่าคุณกำลังรังแกลูกสาวท่านอยู่ ท่านก็คงจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่ๆ ค่ะ” เธอเหน็บเขาเพราะไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระเสียที
“งั้นคุณตอบผมมาก่อนสิ ว่าคุณคิดเหมือนผมมั้ย”
เขามองหน้าเธอเพื่อหาคำตอบ ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงด้วยความอายที่ถูกเขาตื้อขอรัก
“ปล่อยขิมก่อนสิคะ! ไหนคุณบอกว่าจะมาทำงานไงคะ ไม่เห็นจะทำอะไรเลย” เธอพยายามบ่ายเบี่ยง
“ไม่ตอบเหรอ งั้นจูบนะ” เขาแกล้งก้มหน้าลงมาหาเธออีกครั้ง
“อย่าค่ะ! ปล่อยค่ะ ขิมยอมแล้วค่ะ ปล่อยขิมได้หรือยังคะ”
“ยอมอะไรครับ ยอมให้ผมจูบหรือว่ายอมรับรักผม” เขาพูดพร้อมอมยิ้มแสดงความมีชัยอยู่ในที
“เอ่อ! ขิมไม่เคยรังเกียจคุณและสิ่งที่คุณเป็นค่ะ”
“แต่คุณก็ไม่ได้รักผมเหมือนที่ผมคิดใช่มั้ยล่ะ” เขารีบชิงพูด
“ต้องให้ขิมบอกด้วยหรือคะ”
หญิงสาวเลี่ยงอย่างอายๆ เป็นนัยให้รู้ว่าที่ยอมอยู่ในอ้อมกอดเขานี้ ก็เป็นการแสดงให้เขารู้แล้วว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา
ทำให้เขายิ้มนัยน์ตาหวานซึ้งและเป็นประกาย จนเขาได้รู้และเข้าใจได้ทันทีว่าที่ผ่านๆ มานั้น เทียมหทัยเองก็มีความรู้สึกที่เหมือนกันกับเขา ไม่ใช่แค่เขาคิดไปเองฝ่ายเดียว มันทำให้เขารู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
เพราะนอกจากเขาจะได้ล่วงรู้ความในใจของเธอแล้ว เขาก็ได้รับรู้ว่าผู้หญิงคนนี้รักที่เขาเป็นเขา ไม่ใช่เพราะเขาคือธรรทร ผู้มีฐานะทางการเงินมั่นคง เป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายๆ คน ที่เขาพานพบมา ยิ่งทำให้เขามั่นใจยิ่งขึ้นไปอีกว่า เธอคือผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น ที่เขารักและอยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วยในภายภาคหน้า ไม่มีอะไรที่จะมาขวางกั้นไม่ให้เขาเอาเธอมาแนบครองได้แน่ นอกจากความตาย เขาให้สัญญากับตัวเองอยู่ในใจ
“ทำไมครับทีผมยังบอกคุณเลยนะว่าผมรู้สึกยังไง มันไม่ยุติธรรมเลยนะที่คุณจะรู้ความในใจของผมฝ่ายเดียว” เขาอ้อนวอนเธอ
“แล้วใครใช้ให้บอกล่ะคะ ขิมไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”
เธอพูดพร้อมอาการเขินอาย ขณะที่ร่างบางยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขาโดยที่อีกฝ่ายไม่คิดที่จะปล่อยเธอง่ายๆ เลย
“ขิมง่วงแล้วค่ะปล่อยขิมเถอะนะ ไหนคุณบอกว่าจะมาทำงานส่งคุณธรรไงคะ รู้ยังงี้ขิมไม่ให้มาด้วยหรอกค่ะ” เธอพูดพลางอ้อนวอนเขาอีกครั้ง
“แล้วถ้าผมบอกว่าผมอยากจะมาอยู่ใกล้ๆ คุณ แล้วคุณจะยอมให้ผมมาด้วยหรือครับ” เขาคัดค้านพลางโอบรัดร่างเธอ...ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
“คนเจ้าเล่ห์! ทีหลังจะได้ไม่เชื่อคุณอีกแล้วล่ะ”
“ถ้าคุณไม่ยอมตอบคำถามผม คืนนี้เราก็จะยืนอยู่นี่ทั้งคืนเลยนะ ผมไม่ได้ขู่นะ” เขาขู่เธออีกรอบ
“ก็ได้ค่ะ แต่คุณต้องสัญญานะคะว่าถ้าขิมบอกแล้วคุณจะต้องปล่อยขิม”