เป็นคำพูดที่หลุดออกมาจากปากเขาในที่สุด ก่อนที่จะประทับจูบอันหวานซึ้งที่เรียวปากงามเป็นรูปกระจับนั้น มันเป็นสัมผัสครั้งแรกในชีวิตแรกสาวของเธอ ที่ได้สัมผัสกับจูบอันแสนหวานที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต
เขาดื่มด่ำกับความหอมหวานบนเรียวปากงามของเธออยู่เนิ่นนาน สองแขนนั้นรั้งร่างของเธอเข้ามาแนบชิดกับแผ่นอกที่กว้างและอบอุ่น ทำให้เธอเผลอเอามือโอบกอดด้านหลังของเขาด้วยอาการที่คล้อยตามโดยไม่ได้ขัดขืนอะไร
สัมผัสรสหวานจากลิ้นของผู้ที่มีประสบการณ์ที่ช่ำชองยังคงบรรจงจูบและ ควานหาความหอมหวานจากเรียวปากของสาวน้อย ไม่นานร่างบางระหงก็อ่อนวูบอยู่ในอ้อมกอดเขาเอานั่นเอง สร้างความตกใจให้เขาไม่น้อย
“คุณขิมๆ คุณขิมครับ”
เขารีบช้อนร่างอันไร้สติขึ้นแล้วเดินตรงไปวางบนชุดรับแขกขนาดใหญ่ที่ตั้งไว้มุมห้อง พร้อมทั้งอาการอมยิ้มที่มุมปากออกมาด้วยความเอ็นดู
และนึกไม่ถึงว่าเด็กสาวที่ดูเก่ง และคล่องแคล่วว่องไวไปซะทุกอย่าง จะถึงกับเป็นลมหมดสติไป เพียงเพราะถูกเขาประทับจูบลงไปเมื่อสักครู่นี้ และมันก็พลอยทำให้เขาเผลอคิดไปอีกไม่ได้ว่า สาวน้อยหน้าตาสะสวย ผิวพรรณขาวสะอาด ร่างบางระหง และหน้าตาน่าเอ็นดูคนนี้
ไม่ว่าเธอจะไปปรากฎตัวที่ไหน เขาก็จะได้ยินแต่คำชื่นชมของผู้คนที่พบเห็นเธอ ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและน่ารักจะยังไม่เคยผ่านการจูบจากเพศตรงข้ามมาก่อน มันทำให้หน้าคมสันนั้นยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจในที่สุด ที่เขาได้เป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ฝากรอยจูบแรกให้กับเธอ
เขาจำใจจะต้องผละร่างน้อยๆ ให้นอนทอดร่างไว้ที่โซฟา เพื่อที่จะไปเอาผ้าชุปน้ำมาเช็ดตัวให้เธอฟื้นเร็วขึ้น
“คุณขิมๆ คุณขิมครับ”
เขาจับแขนเธอเขย่าเบาๆ เพื่อเรียกให้ตื่นหลังจากที่เช็ดหน้าและแขนเธอด้วยน้ำอุ่น ไม่นานสาวน้อยก็ขยับเปลือกตาและลืมตาขึ้นในที่สุด
“คุณขิมเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าเรียวงามจนแทบจะชิดแก้มขาวอยู่แล้ว
“เอ่อ! ขิม...”
หญิงสาวเปิดปากพูด แต่พอนึกขึ้นได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ก็พูดไม่ออก หน้าแดง ชาไปทั้งตัวอีกครั้ง ยิ่งเมื่อเขายื่นใบหน้ามาใกล้ๆ เธอเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเองเลย
“ผมขอโทษครับ” เขาเอื้อมไปกุมมือเธอเอาไว้
“ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้คุณขิมตกใจครับ”
เขาบอกด้วยอาการที่จริงใจและรู้สึกผิดให้เธอเห็น จนคนฟังนั้นพูดอะไรไม่ออกอีกครั้ง ได้แต่พยุงตัวเองให้อยู่ในอาการนั่งโดยมีเขาคอยช่วยประคองให้เธอได้ลุกง่ายขึ้น พร้อมทั้งเขาเองก็ขึ้นมานั่งข้างๆ เธอในที่สุด และเอื้อมมือหนานุ่มไปจับมือเรียวบางไว้อีกครั้ง
“คุณขิมจำได้หรือเปล่าครับ ว่าเมื่อกี้ผมบอกอะไรคุณ” เขาถามพร้อมทั้งแสดงแววตาซึ้งและต้องการคำตอบจากเธอ
“เอ่อ! จำไม่ได้ค่ะ”
หญิงสาวแกล้งตอบไปยังงั้น ทั้งๆ ที่ได้ยินคำบอกรักจากเขาเต็มสองรูหู แต่การถูกเขาคุกคามหนักทำให้เธอออกอายและหน้าแดงอีกไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่
“งั้นคุณจะให้ผมบอกและทำเหมือนเมื่อกี้อีกมั้ย คุณขิมจะได้จำได้”
เขาพูดพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ และขยับตัวมาให้ใกล้กว่าเดิมจนร่างเขาแทบจะติดกับร่างอันบอบบางของเธออยู่แล้ว และรั้งร่างนั้นเข้ามากอดไว้แนบอกอีกครั้ง
“อย่าค่ะ! คุณกรณ์ปล่อยค่ะ”
ปากห้ามมือก็ผลักอกกว้างของเขาเอาไว้ แต่ก็ยากที่จะทานไหวเพราะร่างบางเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเขาเรียบร้อยแล้ว และเธอเองก็รู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ร่างกายนั้นยินยอมให้กอดอย่างเต็มใจ
“งั้นขิมกลับแล้วนะคะดึกมากแล้ว”
จึงรีบตัดบท เพราะหากปล่อยไว้นานก็ชักจะไม่แน่ใจตัวเองว่าจะเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขาอีกหรือเปล่า
“งั้นให้ผมไปส่งนะครับ คุณยังไม่หายดีเท่าไหร่เลย” เขาเสนอความคิด
“ไม่เป็นไรค่ะ ขิมขับรถมาคุณกรณ์จำไม่ได้หรือคะ” ร่างบางผลออกจากอ้อมกอดเขาในที่สุด
“ไม่ได้ครับยิ่งคุณเอารถมาผมยิ่งต้องขับไปส่ง นะครับอย่าดื้อนะครับ และอีกอย่างผมขอยืมอินเตอร์เน็ทที่ห้องคุณขิมด้วย ที่นี่ไม่รู้เป็นอะไรต่อไม่ได้เลย พอดีผมจะส่งเอกสารสำคัญให้คุณธรรครับ พยายามทำทั้งบ่ายแล้วแต่ก็ไม่ได้ นะครับผมขอร้อง” เขายกเหตุผลเรื่องงานเอามาอ้าง เพราะรู้ดีว่าเธอจะต้องอนุญาตแน่นอน
“แล้วคุณจะกลับยังไงคะ” เธอถามพร้อมทั้งออกอาการใจอ่อน
“ผมก็ขับรถคุณกลับแล้วพรุ่งนี้เช้าก็ขับไปรับ”
“แล้วขิมก็ต้องขับมาส่งคุณเพราะรถคุณจอดอยู่ที่นี่งั้นใช่มั้ยคะ”
เพราะรู้ทันทำเอาคนถูกดักคอหน้าจ๋อยเพราะโดนจับได้
“นี่ค่ะ! คุณนั่งทำงานของคุณตรงนี้ก็แล้วกันนะคะ” เธอบอกให้เขาไปใช้โต๊ะขนาดเล็กที่ถูกจัดไว้สำหรับทำงานที่ห้องพักหรูของเธอ
“ขอบคุณครับ แล้วคุณขิมจะไปไหนครับ”
เขาพูดพลางเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเอาไว้ก่อนที่ร่างนุ่มจะถูกรั้งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอย่างง่ายดาย
“ปล่อยค่ะ! ขิมจะไปอ่านหนังสือรอคุณอยู่ตรงนั้นค่ะ” หญิงสาวพยายามพาตัวเองออกจากอ้อมกอดเขา แต่ไม่เป็นผล
“คุณยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ” เขายังคงยึดร่างเธอเอาไว้แนบอก
“ตอบอะไรคะ คุณไม่ได้ถามอะไรสักหน่อย” เธอแกล้งพูดทั้งๆ ที่ยังจำถ้อยคำของเขาได้ทุกถ้อยคำ
“ก็ที่ผมบอกอะไรน้า เอ! ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้ว สงสัยต้องทำอีกทีจะได้จำได้ ว่าบอกอะไรคุณไว้บ้าง” เขาแกล้งแหย่เล่น
“ไม่เอาค่ะปล่อยขิมได้แล้วค่ะ” เธอพูดพร้อมพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการถูกพันธนาการ