ตอนที่ 10
“ผมต้องขอบคุณ คุณแฟร็งอีกครั้งครับที่ให้โอกาสกับโรงแรมของเราอีกครั้ง”
เขาบอกกับแขกและเพื่อนๆ ของเขา ที่เขานัดมาเลี้ยงในผับสุดหรู เนื่องในโอกาสที่ลูกค้าตกลงเซ็นต์สัญญาจองห้องพักให้กับผู้บริหารที่จะมาพักผ่อนและทำงานตลอดที่มาทำงานในประเทศไทยเลย
“ยินดีครับคุณปลาย ผมต้องขอบคุณคุณขิมด้วยครับที่ให้การดูแลแขกของผมให้เป็นพิเศษทั้งที่ผ่านมาและตลอดไป” แฟร็งพูดพลางหันหน้าไปทางเทียมหทัยด้วยที่จำใจจะต้องมาตามที่เขาสั่ง
“ด้วยความยินดีค่ะง ก็คุณแฟร็งเป็นลูกค้าของเรามาตั้งแต่สมัยคุณพ่อบริหารงานเลยนี่คะ ขิมก็ต้องดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้วค่ะ แล้ววันนี้ไม่เห็นชวนคุณเพ็ญมาด้วยคะ” เทียมหทัยถามถึงภรรยาคนไทยของแฟร็ง
“คุณเพ็ญยุ่งๆ กับการเลี้ยงลูกครับ”
“งั้นคุณแฟร็งกับเพื่อนๆ ตามสบายนะครับ วันนี้เต็มที่ครับ”
เขาตัดบท เพราะเห็นเทียมหทัยนั้นทำคะแนนกับแขกของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
“วันนี้คุณขิมจะร้องเพลงให้ผมฟังเหมือนคราวก่อนมั้ยครับ” แฟร็งถาม
“โอย! เห็นทีจะไม่ไหวล่ะค่ะ ขิมไม่ได้ร้องนานแล้ว”
“ผมยังจำได้เลยคราวก่อนที่คุณขิมร้องเพลงคู่กับเพื่อนชื่อคุณอะไรน้า ตายจริง! ..ผมจำไม่ได้ แต่มันก็นานพอสมควรแล้วนะครับ” เขาทำท่าคิดพร้อมเกาหัวเพราะคิดไม่ออก
“ขิมจำไม่ได้ค่ะ”
เธอพูดเสียงเครือ เพราะในความคิดนั้นสถานที่แห่งนี้เธอเคยได้มีความสุขกับการสื่อภาษารักกับใครบางคน
“ผมนึกว่าเป็นแฟนคุณขิมเสียอีก” แฟร็งบอกโดยที่ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ทำให้คนฟังนั้นพูดอะไรไม่ออกได้แต่ยิ้มให้เขา
“คุณธรรทรหรือเปล่าครับคุณแฟร็ง”
เขาเอ่ยชื่อนี้เพื่อเป็นการช่วยเตือนความจำให้แฟร็ง เพราะคงจะเป็นใครไปไม่ได้ในความคิดของเขา และเขาก็บังเอิญปรายสายตาไปรอบๆ ผับแล้วก็ยิ้มที่มุมปาก เพราะเหลือบไปเห็นคนบางคนโดยบังเอิญ รอยยิ้มเขานั้นมีเลศนัยอย่างยากที่จะคาดเดาได้ และก็หันหน้ามายิ้มให้เทียมหทัยอย่างกวนๆ
“ผมจำชื่อไม่ได้ครับ คนที่ทำกิจการหลายๆ อย่าง และมีสนามกอล์ฟที่ใกล้ๆ ไร่คุณขิมน่ะครับ”
“ใช่ครับ แหมคุณแฟร็งนี่ความจำดีจังเลย” เขายิ้มเยาะเธอในที
“ทำไมคุณปลายรู้ว่าผมหมายถึงใครครับ” แฟร็งไม่เข้าใจเพราะเขาก็ไม่ได้มาด้วยครั้งก่อน
“อ๋อ! ผมรักน้องผมจะตายไปครับ ใครมาทำให้เจ็บช้ำน้ำใจผมก็ต้องจำใส่ใจเอาไว้สิครับ” เขารีบชิงตอบก่อนที่เทียมหทัยจะทันได้พูดอะไรกับแฟร็ง
“ก็พ่อคุณคนนี้ล่ะครับ มาหักอกน้องสาวสุดสวยของผมจนดามไม่ติดตั้งหลายปีครับ และไม่รู้ว่าตอนนี้เอาเฝือกออกหรือยังก็ไม่รู้นะ” เขามองมาที่เธออย่างสะใจ
“ผมเสียใจด้วยครับคุณขิม แต่ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ ท่าทางเขาออกจะเป็นผู้ดีมีสกุลและดูว่าจะรักคุณขิมมากๆ ด้วยครับ” เขาบอกด้วยความจริงใจ
“ก็จะอะไรซะอีกล่ะครับ” เขาชิงเธอพูดอีกครั้ง
“ก็เรื่องชนชั้น ชาติตระกูล ยศถาบรรดาศักดิ์ หรือฐานันดรอะไรพวกนี้ล่ะครับ ไอ้น้องผมก็เดียงสาลืมตัวว่ามาจากไหนดันไปรักกับลูกผู้ดีมีสกุลเข้าน่ะครับ ลูกชายเขารัก แต่แม่เขาไม่รับน้องผมเข้าร่วมชายคาจะให้ทำยังไงได้ล่ะครับ ได้ข่าวว่าแม่เขาต่อต้านมากๆ จนถึงกับตัดแม่ตัดลูกเลยนะครับ ถ้าเอาน้องผมไปเป็นสะใภ้” เขาพูดอย่างสะใจ
“ผมไม่เข้าใจคนไทยเลย นี่ถ้าเป็นที่บ้านผมนะป่านนี้คุณขิมได้แต่งงานมีลูกเต็มบ้านไปแล้วครับ แต่ไม่เป็นไรครับอย่างคุณขิมทั้งสวยทั้งเก่งหาแฟน ดีๆ กว่านั้นได้อย่างสบายมากครับ” แฟร็งบอกเทียมหทัย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแฟร็งเรื่องมันนานมามากแล้วค่ะ แต่ขอบคุณคุณแฟร็งมากนะคะ”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ปวดร้าวเมื่อนึกถึงคำพูดของปลายเมื่อสักครู่ พาลน้ำตาแห่งความอ่อนแอนั้นจะไหลออกมาอีก จนเธอต้องรีบห้ามไม่ให้มันไหลออกมาอีก
“งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ”
ปลายบอกพลางลุกเดินไปจนลับตาของเทียมหทัยและกลุ่มแขก เขาย่องไปหาผู้จัดการผับที่ยืนคอยอำนวยความสะดวกให้แขกอยู่ที่มุมห้องที่มีแสงสลัวๆ พร้อมทั้งคุยบางอย่างโดยที่เทียมหทัยและแขกนั้นไม่ทันได้สังเกตเห็นเลย
“สวัสดีครับแขกท่านผู้มีเกียรติครับ วันนี้เรามีการประมูลเพลงจากแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์ครับ รายได้จากการประมูลนั้นเราจะนำไปบริจาคให้เด็กยากไร้ครับ ก่อนอื่นผมขอเชิญนักร้องกิตติมศักดิ์บนเวทีครับ ขอเชิญคุณเทียมหทัย อภิรัชโยธินครับ ขอเสียงปรบมือครับ”
เสียงพิธีกรกล่าว เล่นเอาเทียมหทัยและเพื่อนร่วมโต๊ะนั้นงงไปตามๆ กันเลย
“อ้าว! ไปสิเขาเชิญเธอแน่ะ เทียมหทัย ปรบมือหน่อยครับคุณแฟร็ง”
เขารีบพูดเมื่อกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะพร้อมทั้งออกอาการคะยั้นคะยอให้เธอขึ้นเวที
“แหม! วันนี้ผมจะได้ดูคุณขิมร้องเพลงอีกครั้งแล้วครับ เอาให้เพราะๆ เหมือนคราวก่อนนะครับ เชิญครับ”
แฟร็งเชิญอีกคน ทำเอาเทียมหทัยนั้นงงทำหน้าไม่ถูก แต่ก็ต้องลุกขึ้นไปเพราะเสียงปรบมือของคนในผับดังเกรียวขึ้น จนทำให้ธรรทรที่มากับลูกค้าถึงกับชะงักพร้อมทั้งหันไปทางเวทีทันทีที่ได้ยินพิธีกรเรียกชื่อเธอ
“ครับตอนนี้ในมือของผมนั้นก็มีท่านผู้ใจบุญยื่นตัวเลขมาแล้วนะครับ โต๊ะคุณปลายให้มาแล้ว หนึ่งแสนบาทครับ สำหรับเพลงนี้ ซึ่งผมยังไม่ทราบว่าคุณเทียมหทัยนั้นเตรียมเพลงอะไรกับนักดนตรีอยู่นะครับ”
พิธีกรออกลวดลาย ส่วนเทียมหทัยนั้นก็รู้ดีว่าปลายต้องการจะเล่นงานเธออีกแล้ว แต่เธอก็จนด้วยปัญญาที่จะแก้ไขสถานการณ์ เพราะในความรู้สึกนั้นมีธรรทรเข้ามามีอำนาจเหนือจิตใจเธออีกครั้ง เพราะคำพูดที่ประชดประชันจากเขานั่นเอง