EP 70

1160 คำ
“ขิม..เอ่อ! ถ้าทุกคนคิดว่าดี ขิมก็แล้วแต่ทุกคนค่ะ ถ้าคุณลุงภุชงค์และคุณป้าวิมลไม่รังเกียจที่ขิมเป็นแค่ เอ่อ...” เธอพูดได้แค่นั้นก็พูดไม่ออกอีก “พ่อมั่นใจว่าเพื่อนพ่อไม่มีวันคิดแบบนั้นแน่นอนนะยัยขิม” กรรชัยรีบบอก “งั้นขิมก็แล้วแต่ทุกคนค่ะ ขิมยังไงก็ได้” เธอตอบตกลงไปในที่สุด “จริงหรือยัยขิม ย่าดีใจจริงๆ เลยลูก มาให้ย่ากอดหน่อยสิลูก” คุณพร้อมเรียกเธอเข้าไปใกล้ๆ แล้วก็โอบกอดด้วยความรัก และกับคำตอบของเธอนั้น มันก็ทำให้ปลายจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อดึงเธอออกห่างจากเพื่อนรัก “แล้วทุกคนอยากจะฟังเรื่องของผมกับสาบ้างหรือเปล่าครับ” เขาตัดสินใจบอกในที่สุด “เราหมายความว่ายังไงปลาย” พรรณีถามด้วยความสงสัย “คือผมกับสาตกลงจะหมั้นกันในเร็วๆ นี้ครับคุณแม่ แต่ก็ให้เจ้าหมอก่อนก็ได้ครับ ผมเมื่อไหร่ก็ได้” เขาบอกออกไปด้วยความไม่แน่ใจ แต่ก็เป็นวิธีเดียวที่เขาจะยับยั้งไม่ให้เพื่อนรักของเขาต้องมาเสียรู้เทียมหทัยเพื่อเป็นการยืดเวลาออกไปอีกระยะหนึ่ง และอีกอย่างทั้งเขาและวันวิสาข์ก็คบกันมานานมากแล้ว เขามั่นใจว่าวันวิสาข์จะเป็นคู่ชีวิตที่ดีให้เขาได้ถ้าเขาจำเป็นที่จะต้องลงเอยกับเธอ “จริงหรือลูกแม่ดีใจจังเลย คุณคะได้ยินมั้ยคะ ลูกเราจะหมั้นค่ะ” พรรณีพูดด้วยใบหน้าที่แสดงความดีใจอย่างเปี่ยมล้น จนลืมเรื่องของเทียมทัยอยู่ไปเลย “ปลายคะ สาไม่เข้าใจค่ะ” วันวิสาข์นั้นงงกับคำบอกเล่าของเขาเป็นที่สุด เพราะเท่าที่เธอรู้เขาไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากพูดถึงเรื่องนี้เลย แต่กลับมาประกาศให้ทุกคนรู้โดยที่เขาไม่เคยขอเธอเลยแม้แต่น้อย “สาเราคบกันมานานแล้ว ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่ผมจะทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวสักที รับหมั้นผมนะ” เขาขอเธอต่อหน้าทุกคน “เอ่อ! ค่ะสารับหมั้นปลายค่ะ” เธอตอบรับเขาในที่สุด ทั้งๆ ที่ไม่แน่ใจในตัวเขานัก แต่เธอก็รักเขาไม่ใช่หรือ แล้วจะมีอะไรมาขวางกั้นระหว่างเธอกับเขาไว้ได้ในเมื่อเขาเป็นคนเอ่ยปากขอ “งั้นบ้านเราก็จะมีงานมงคลในเร็วๆ นี้สินะตาปลาย”คุณพร้อมถาม “ว่าไงยัยขิมจะจัดพร้อมพี่เขามั้ย” คุณพร้อมถามออกไปแต่ก็เหมือนไม่ต้องการคำตอบอีกต่อไปแล้ว ซึ่งก็ทำให้เทียมหทัยนั้นโล่งใจที่ไม่ต้องตอบคำถาม แต่นัยน์ตาก็แฝงความรู้สึกบางอย่างลึกๆ เอาไว้ไม่ให้ใครรู้ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่นำข่าวดีมาบอกเรื่องงานมงคล แววตาของเขานั้นแสดงถึงความไม่แน่ใจในการตัดสินใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่ไม่มีใครได้สังเกตเห็นเท่านั้นเอง   ตอนที่ 12   งานหมั้นของปลายและวันวิสาข์จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บ้านของกรรชัย และเชิญเฉพาะแขกผู้ใหญ่และคนสนิทเท่านั้น โดยที่ทั้งเทียมหทัยและปัญญานั้นให้เขากับวันวิสาข์จัดงานก่อนเพราะมีศักดิ์เป็นพี่ และอีกอย่างเธอเองก็จะได้เลื่อนเวลาทำใจให้รักปัญญาไปอีกระยะหนึ่งด้วย ดังนั้นทุกอย่างจึงลงตัวเฉพาะคู่ของเขา ส่วนงานแต่งงานนั้นปลายบอกว่ายังจัดสรรงานที่ออฟฟิศไม่ลงเท่าไหร่เลย ก็เลยขอยึดเอาฤกษ์สะดวกเอาไว้ก่อนแต่ก็คงอีกหลายเดือน เขาจึงยังไม่ได้กำหนดขึ้นมา บรรยากาศในงานนั้นเป็นไปด้วยความเรียบง่าย โดยมีเทียมหทัยนั้นเป็นคนคอยจัดแจงเรื่องพิธีการต่างๆ โดยได้ชาญชัยและอาหารรับรองแขกจากโรงแรมนั่นเองมาเป็นผู้ช่วย และก็มีปัญญาที่ตั้งแต่ที่เทียมหทัยรับหมั้นเขาด้วยวาจาแล้ว เขาก็ทำตัวเป็นเงาตามตัวเทียมหทัยไม่เคยห่าง ไม่ว่าจะไปคอยรับส่งจากที่ทำงานในวันที่เขาว่าง หรือแม้กระทั่งผูกขาดอาหารมื้อเย็นไว้ที่บ้านของกรรชัยแทบจะเป็นการถาวรถ้าเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำธุระที่ไหน แต่กระนั้นเทียมหทัยเองก็ยังไม่ได้มีอาการที่สดชื่นเหมือนกับคนที่กำลังจะมีงานมงคลเลยแม้แต่น้อย ซึ่งก็สร้างความกังวลใจให้คุณพร้อม กรรชัย และพรรณีไม่น้อย ก็ได้แต่หวังว่าสักวันปัญญาจะต้องเอาความดีของเขาชนะใจเธอได้ในที่สุด และเธอก็ขอกับปัญญาไว้ว่าอยากจะสวมแหวนของธรรทรเอาไว้จนกว่าจะถึงวันหมั้นจริง ซึ่งปัญญาเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเขานั้นรู้สึกเจ็บปวดใจที่ไม่สามารถเอาชนะใจเธอได้สักที แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เขาก็จะรออย่างที่ได้เคยบอกเธอเอาไว้ “ว่าไงวะว่าที่เจ้าบ่าว วันนี้หล่อไม่เบานะ” ปัญญาและเพื่อนๆ กลุ่มเดิมของเขาเย้าแหย่ปลายที่เดินมาทักเพื่อนด้วยชุดพระราชทานสีขาวซึ่งทำให้เขาดูดีไปอีกแบบ “แต่เอ ฉันไม่เห็นว่าแกจะร่าเริงเหมือนกับคนที่กำลังจะแต่งงานเลยนี่หว่า มีใครเอาปืนจ่อให้แกหมั้นกับคุณสาหรือเปล่าวะ” อุเทนห์เพื่อนของเขาแหย่ ขณะที่เขานั่งลงร่วมวงกับเพื่อนๆ โดยที่วันวิสาข์นั้นก็ดูแลเพื่อนๆ ของเธออีกโต๊ะหนึ่ง “แกนี่ไปแหย่มันเดี๋ยวก็ชะตาขาดหรอก ไอ้ปลายมันก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ว่ามันจะดีใจเสียใจฉันก็เห็นมันทำหน้าอย่างนี้มาตั้งแต่ฉันรู้จักมันแล้ว” รังสรรค์ล้อเพื่อน “ฉันเห็นด้วยกับเจ้าสรรค์มันหวะอุเทนห์” ปัญญาเสริมด้วยอารมณ์ขันเพื่อน “ใครจะไปหน้าบานเป็นจานเชิงอย่างนายล่ะ นี่ขนาดยังไม่ได้จัดงานหมั้นเหมือนไอ้ปลายนะเว้ย นายนี่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของคุณขิมยังกะจงอางหวงไข่แน่ะ พวกนายว่าไงวะ” อุเทนห์แหย่เขาซึ่งเรียกเสียงหัวเราะในวงได้อย่างครื้นเครงจนผู้ใหญ่ที่โต๊ะอื่นๆ หันมาดูเป็นตาเดียวกัน “ว่าแต่พูดถึงคุณขิมขึ้นมานะ ฉันนี่ยังเสียวสันหลังไม่หายเลยหวะตั้งแต่คราวโน้นแล้ว นี่ก็ผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้วยัง เข้าหน้าเธอไม่ติดเลยหวะ ต้องขอโทษนายด้วยนะปัญญา” รังสรรค์พูดขึ้น 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม