และเธอเองก็รู้แล้วว่าเธอคิดผิด เพราะดูการกระทำของทั้งสองคนแล้วท่าทางไม่น่าจะไปได้ด้วยดี เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าบทสนทนาทั้งสองนั้นคืออะไร เพราะระยะนั้นอยู่ไกลเกินที่เธอจะได้ยิน
ประตูห้องถูกเปิดและปิดเข้าเร็วเท่ากันเทียมหทัยนั้นวิ่งไปฟุปหน้าร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวกับคำพูดเขาเหลือเกิน นี่เธอกำลังเจออยู่กับอะไรกันนี่ เธอเคยคิดว่าตัวเองนั้นโชคดีมากแค่ไหนที่ได้มาอยู่บ้านหลังนี้ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเอาไว้เลย หญิงสาวได้แต่นอนร้องไห้เพราะความเสียใจกับคำพูดของเขาจนหลับไปในที่สุด
“คุณแม่! ดูแม่นั่นสิคะ ทำตัวยังกับเป็นเจ้าของบ้านยังไงยังงั้นล่ะคะ สุ! .ชักจะหมั่นไส้มันขึ้นทุกวันๆ แล้วนะคะ พี่ปลายดูสิคะ มันจงใจจะแต่งตัวมายั่วผู้ชายชัดๆ เลย”
สุชาดาพูดด้วยน้ำเสียงชิงชัง ขณะที่นั่งร่วมวงกันที่โต๊ะในงานเลี้ยงต้อนรับของปลาย เขาหันไปดูคนที่สุชาดาพูดถึง พร้อมกับตะลึงกับภาพที่เขาเห็น เพราะเทียมหทัยนั้นอยู่ในชุดราตรีสีครีมยาวถึงข้อเท้า
ชุดของเธอสวยเข้ารูป ด้านหลังเปิดกว้างเพื่อเผยให้เห็นแผ่นหลังที่สง่างาม เอวกิ่วรับกับสะโพกเข้ารูป ผิวขาวเนียนนวลรับกับชุดที่เธอใส่ยิ่งนัก แต่เขาก็ต้องเปลี่ยนแววตาจากชื่นชมมาเป็นเกลียดชังอีกครั้ง
เพราะภาพที่เขาเห็นนั้น เป็นภาพที่เธอกำลังตรวจดูความเรียบร้อยของงานโดยมีปัญญาเพื่อนรักของเขาคอยเดินเคียงข้างเธอเป็นเงาตามตัว เขาเองก็รู้มาจากพรรณีว่าปัญญานั้นแสดงความจำนงต่อแม่เขาว่าสนใจเทียมหทัย และขออนุญาตพรรณีเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเทียมหทัยให้มากขึ้น เผื่อว่าสักวันเธอจะเห็นใจเขาบ้าง
ซึ่งพรรณีเองนั้นก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะปัญญาก็เป็นคนดี ทั้งกรรชัย และคุณพร้อมเองก็รู้สึกถูกชะตากับเขา และเธอเองจะดีใจมากๆ เลย หากปัญญาทำให้เทียมหทัยรักและลืมความหลังที่เจ็บปวดได้ เพราะเธออยากจะได้เทียมหทัยคนเดิมกลับมาเต็มที
“ผมขอตัวนะครับ”
ปลายพูดตัดบทและลุกเดินตรงรี่ไปหาร่างระหงที่ถูกพูดถึง
“ปลายคะรอสาด้วย” เสียงวันวิสาข์เรียกตามพร้อมทั้งลุกเดินตามเขาไป
“อ้าว! ว่าไงเจ้าปลายทักทายแขกที่มาครบหรือยังวะ งานใหญ่นะแกนี่” ปัญญาทักเพื่อนที่เดินตรงมาหา
“แล้วแกล่ะปัญญาไม่เห็นจะไปเข้ากลุ่มเพื่อนๆ ของเราเลยพวกนั้นมันถามหาอยู่ทางโน้นแน่ะ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ สายตานั้นมองเทียมหทัยกวาดตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาไม่นึกแปลกในเลยว่าทำไมเพื่อนเขาคนนี้ถึงไม่ยอมห่างจากหล่อนเสียที มัน ทำให้เขาไม่เข้าใจว่า จากรูปร่างที่ได้ส่วนสัด บวกกับหน้าตาที่ดีสะสวยของเธอ
ทำไมถึงจะต้องมายอมกินน้ำใต้ศอกแม่ของเขาด้วย ถ้าเรื่องที่เขาคิดมันเป็นความจริง แต่เขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อซะทีเดียว แต่จะมีอะไรที่ไม่จริงอีก ก็ในเมื่อเจ้าตัวนั้นยอมรับกับเขาเมื่อไม่กี่วันมานี่ หลังจากที่ได้ต่อปากต่อคำกันเป็นครั้งแรก
หญิงสาวรู้สึกไม่ชอบใจในสายตาเขาที่มองเธอเอาเสียเลย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่อยากให้ปัญญารู้ว่าระหว่างเขากับเธอนั้นเป็นยังไง
“แหม! เพื่อนๆ ฉันก็ไปทักพวกมันกันครบแล้วนะ พอดีอยากจะช่วยงานขิมเขาน่ะ เห็นวุ่นๆ อยู่ จริงมั้ยครับขิม” เขาพูดพลางหันไปหาเทียมหทัย
“ไม่เป็นไรค่ะพี่หมอ ขิมดูแลเองได้ พี่หมอไปสนุกกับเพื่อนๆ เถอะค่ะ นานๆ จะมาเจอกันสักที”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกนั้นไว้นัดกันดื่มวันหลังก็ได้ เจอกันทุกวัน จริงมั้ยวะปลาย จริงมั้ยครับคุณสา”
ปัญญาพูดพร้อมมองไปหากลุ่มเพื่อนๆ ผู้มีอันจะกินของเขาที่นั่งตั้งหน้าตั้งตาดื่มและสรวลเสเฮฮาอยู่ที่โต๊ะจัดเลี้ยง และสนุกกับการแสดงต่างๆ บนเวทีอยู่
“สาก็ว่าอย่างนั้นล่ะค่ะปลาย ดูคุณขิมสิเตรียมงานตั้งแต่เช้าแล้วนะคะมีปัญญาคอยช่วยอีกคนจะได้ไม่เหนื่อย จริงมั้ยคะคุณขิม”
วันวิสาข์พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรกับเธอ เพราะเธอเองก็รู้สึกถูกชะตากับเทียมหทัยตั้งแต่แรกเห็นแล้ว
“ก็ตามใจแกสิ มานั่งที่บ้านก็ได้นะ แต่ต้องมาก่อนที่ฉันจะเข้าไปรับงานจากคุณพ่อนะ เพราะถ้ามาหลังจากนั้นฉันไม่ว่างหวะ เพราะต้องรีบสะสางงานต่อจากพ่อไม่มีเวลามาให้พวกแกแน่ ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ฉันยังไม่รู้หรือเปล่าก็ไม่รู้ที่บริษัท”
เขาบอกพลางสายตากวาดมองมาที่เทียมหทัยเพื่อหาพิรุธ แต่ก็พบแต่ใบหน้าสวยเรียวงาม ที่ถูกแต่งไว้ด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ แต่พองามแทน
“สาก็เหมือนกันค่ะตอนนี้เริ่มไปช่วยงานคุณพ่อบ้างแล้วยุ่งน่าดูเลย”
“พี่ปลายคะดูสิคะว่าใครมา”
สุชาดาเดินมาเกาะแขนพี่ชายให้มองไปที่แขกที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในงาน ทำให้สายตาของทุกคู่มองไปที่จุดเดียวกัน และมันก็ทำให้เทียมหทัยนั้นถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกและพูดอะไรไม่ออกกับแขกคนนี้ เท่าที่เธอจำได้เขาไม่ได้อยู่ในรายชื่อเลย
ภาพที่เธอเห็นนั้นก็คือธรรทรและชุติมาพร้อมกับลูกชายวัย สองขวบหน้าตาน่ารักกำลังเดินมาในงาน พร้อมทั้งอลงกรณ์และดวงแก้วก็มาด้วย ! นี่นับเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้ว! .ที่เธอไม่ได้พบเขา ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็เมื่อเธอไปพบกับเขาโดยบังเอิญที่สนามกอล์ฟ และทั้งสองก็พูดคุยกันฉันท์พี่น้องเหมือนกับที่ตกลงกันไว้ ว่าความทรงจำของทั้งสองนั้นจะเก็บเอาไว้ในหัวใจ
ส่วนทางด้านสังคมภายนอกแล้ว เขาจะเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอ จะคอยปกป้องและเคียงข้างเธอเมื่อเธอมีปัญหา แต่เธอเองก็รับรู้ถึงแววตาที่เจ็บปวดของเขาเมื่อครั้งที่พบกันคราวนั้น ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากเธอเลย