“มีใครเอาอะไรมาให้กินหรือยัง โทษทีมาช้าไปหน่อย อยากได้อะไรก็เรียกเด็กๆ ได้นะตามสบาย”
“ป้าอรจัดมาให้บ้างแล้วล่ะปลาย แต่แกบอกว่านานหน่อยนะเพราะวันนี้เด็กๆ แกลากลับไปเยี่ยมบ้านหลายคนก็เลยไม่ค่อยมีคนช่วยเท่าไหร่ โน่นป้าอรกับขิมง่วนอยู่ในครัวแน่ะ นี่ฉันว่าจะไปช่วยสักหน่อย! .ว่าแล้วไปเลยดีกว่า” ปัญญาพูดพลางรีบตัดบทและเดินไป
“เดี๋ยวค่ะปัญญารอสาด้วย เดี๋ยวสาช่วยอีกแรง เพราะอยู่ไปก็คุยไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะมีแต่ผู้ชายทั้งนั้นเลย” วันวิสาข์พูดพลางวิ่งตามปัญญาไปในครัว
“เอ้ย! คุณขิมน้องสาวของแกนี่สวยไม่ใช่เล่นเลยหวะ ฉันขอสมัครเป็นน้องเขยจะได้มั้ยวะปลาย แกหวงน้องเหมือนหวงคุณสาแฟนแกหรือเปล่าวะ” รังสรรค์เพื่อนในกลุ่มแซวเขา
“เอ้ย! แฟนเฟินที่ไหน อย่างคุณสาเขาเรียกว่าคนรู้ใจหวะ จริงมั้ยวะปลายฉันพูดถูกมั้ยเพื่อน”
อุเทนห์แซงพูดขึ้น เพราะเขาจำได้ว่าปลายนั้นเคยบอกว่าระหว่างเขากับวันวิสาข์นั้นยังไม่ได้พัฒนาไปถึงขั้นไหนเลย ยังอยู่ในช่วงดูใจกันระหว่างคนทั้งสองเท่านั้น
“แหม..รู้สึกว่าแกจะรู้ใจฉันไปทุกเรื่องเลยจะเจ้าเทนห์” เขาแหย่เพื่อน
“เอ้ยว่าไงวะ หวงหรือเปล่า”
รังสรรค์ถามย้ำอีกทีด้วยน้ำเสียงที่ดีกรีกำลังจะได้ที่
“น้องเนิ้งที่ไหน อย่างแม่นั่นฉันไม่นับเป็นน้องหรอก” เขาบอกพร้อมทั้งยกแก้วดื่ม
“แกหมายความว่ายังไงวะ” รังสรรค์ถามด้วยความสงสัย
“ก็ไอ้ปลายมันบอกว่าคุณขิมน่ะเป็น เอ่อ!..”
อุเทนห์อ้ำอึ้งเพราะไม่กล้าพูดตามที่ปลายเคยไปปรับทุกข์ให้ฟังเมื่อครั้งที่อยู่ในวงเหล้าในสมัยที่อยู่เมืองนอกด้วยกัน
“เป็นนางบำเรอพ่อฉันน่ะเหรอ” เขาพูดแทนในที่สุด
“แกว่าอะไรนะเจ้าปลาย” รังสรรค์อุทานด้วยความตกใจ
“แกฟังไม่ผิดหรอก ใครๆ เขาก็รู้ทั้งนั้นล่ะมีแต่แม่ และย่าฉันนั่นแล่ะที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย นี่แกรู้มั้ยวะ แม่นี่เขารับจ๊อบนอกด้วยนะ แต่ราคาแพงหน่อยนะเพราะค่าสึกหรอไม่ค่อยมีหวะ นานๆ พ่อฉันจะใช้ที”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงชิงชังเธอยิ่งนัก
“แกพูดจริงหรือวะปลาย ฉันเห็นท่าทางเธอเป็นผู้ดีจะตายไป แกอย่าพูดไปนะโว้ยเดี๋ยวน้องแกเขาจะเสียหาย” รังสรรค์พูด
“วะไอ้นี่เดี๋ยวโดนเตะไปกองโน่นเลยนี่ แกเห็นฉันเคยพูดอะไรที่มันไม่จริงบ้างหรือเปล่าวะ ถ้าแกไม่เชื่อฉันก็ลองต่อรองดูสิโน่นเดินมาโน่นแล้ว”
เขาพูดพร้อมหันหน้าไปทางเทียมหทัยที่กำลังยกอาหารมาให้กลุ่มเพื่อนๆ เขาพร้อมกับปัญญา
“อ้าว! ลืมน้ำจิ้มว่ะ” ปัญญาพูดขณะยกของมาตั้งไว้ที่โต๊ะพร้อมกับเทียมหทัย
“งั้นพี่ไปเอาก่อนนะครับขิม”
เขาบอกแล้วเดินจากไป ทิ้งให้เทียมหทัยนั้นยกอาหารเสริฟให้เพื่อนๆ ของเขาอยู่ตามลำพัง
“ไม่ต้องเสริฟอาหารหรอกมั๊งครับ ผมว่าเสริฟอย่างที่คุณเคยเสริฟเลยจะดีกว่า” รังสรรค์พูดพลางเอื้อมไปจับข้อมือเทียมหทัย
“อุ๊ย! นี่อะไรคะปล่อยนะ” เธอสะดุ้งและดึงมือกลับ
“เอ้ย! เล่นตัวด้วยหวะปลาย สงสัยจะโก่งค่าตัวอย่างที่แกว่า”
เขาพูดพร้อมหันไปหาปลาย ซึ่งนั่งมองการกระทำของเพื่อนด้วยความสะใจ
“คุณหมายความว่ายังไงที่พูดแบบนี้ กรุณาให้เกียรติดิฉันด้วยนะคะ”
เธอต่อว่ารังสรรค์ด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ เล่นเอาเพื่อนๆ ในกลุ่มถึงกับเงียบไป
“เอ้ย! พอแล้วสรรค์ ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยแกอย่าไปยุ่งสิวะ”
อุเทนห์ห้ามเพื่อน
“กูไม่ได้เล่นโว้ย กูเอาจริง! ว่าไงเธอ ท่าทางแบบนี้จะว่าเท่าไหร่ล่ะ ฉันมีเงินจ่ายนะ แค่ครั้งเดียวเท่านั้นล่ะ ขี้คร้านจะลืมรสชาติพ่อเจ้าปลายไปเลยล่ะ ฮะฮ่าๆ ” เขาพูดพร้อมหัวเราะเยาะเธอ โดยมีปลายนั้นคอยสมทบด้วย
“นี่สำหรับการดูถูกฉัน พวกคุณเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ดี แต่พวกคุณดูถูกคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง ถึงฉันจะไม่ได้มีชาติตระกูลที่ดีอย่างพวกคุณแต่ฉันก็ไม่เคยมองคนอื่นเป็นผู้ที่ต้อยต่ำกว่า”
เธอพูดพลางฟาดไปที่หน้าของรังสรรค์ เล่นเอาเขาหายเมาไปเลยทีเดียว
“นี่เธอๆ ทำกับเพื่อนฉันได้ยังไง นี่ต่อหน้าฉันเธอยังกล้าทำแบบนี้เหรอ ขอโทษเขาเดี๋ยวนี้นะ” ปลายลุกขึ้นมากระชากเทียมหทัยออกห่างจากรังสรรค์
“ฉันจะขอโทษก็ต่อเมื่อฉันรู้ว่าฉันผิด แต่ถ้าเพื่อนๆ คุณมาเพื่อจะมาดูถูกฉันล่ะก็ ให้ฉันตายเสียดีกว่าที่จะขอโทษ” เธอเถียง
“เอ้ยปลายๆ พอเถอะคุณขิมเขาไม่ได้ตั้งใจ เจ้าสรรค์มันก็พูดไม่ดี มันเมานิดหน่อยน่ะ พอแล้วๆ” อุเทนห์เห็นท่าไม่ดีจึงรีบห้าม
“ฉันบอกให้ขอโทษเพื่อนฉันไงได้ยินมั้ย”
เขาสั่งพร้อมทั้งบีบข้อมือเธอเข้าไปอีก
“โอ้ย! ปล่อยนะฉันเจ็บ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ คุณมันก็ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนๆ คุณหรอกนะ ที่มีแต่ความคิดที่สกปรกๆ อยู่ในหัว เที่ยวดูถูกคนอื่น และตัดสินคนอื่นไปทั่ว ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นอย่างที่คุณกล่าวหาเลย ปล่อยฉันนะ ฉันเกลียดพวกคุณ”
เธอร้องด่าเขา ทันใดนั้นฝ่ามือหนาๆ ของเขาก็ฟาดไปที่ใบหน้าขาวเนียนของเธอ เพราะความโกรธ และเขาก็รู้สึกโกรธตัวเองด้วยที่ทำแบบนั้นลงไป เทียมหทัยนั้นได้แต่เอามือมากุมแก้มขาวที่ถูกมือเขาตบเข้าอย่างจังเมื่อกี้นี้ พร้อมทั้งน้ำตาคลอเบ้า เพราะตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอเข้ามาอาศัยชายคาบ้านหลังนี้ ก็ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับเธอเลย
“อะไรกันน่ะไอ้ปลาย ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”
ปัญญาเข้ามาทันได้เห็นการกระทำของเขาพอดี พร้อมกับบังอรและวันวิสาข์ที่ยกอาหารมาสมทบพอดี
“ขิมเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” ปัญญาเดินมาประคองเธอ
“ไม่เป็นอะไรค่ะพี่หมอ งั้นขิมขอตัวก่อนนะคะ”
เทียมหทัยพูดพลางวิ่งเข้าบ้านไป