bc

พรหมลิขิตรักแต้มใจ

book_age16+
124
ติดตาม
1.1K
อ่าน
จบสุข
หวาน
ลึกลับ
เมืองเล็ก
like
intro-logo
คำนิยม

หากพรหมลิขิตขีดไว้ ให้หนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น

ซุปเปอร์เลขาฯ อย่าง พิมพกานต์ ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

มื่อมารดาเสียชีวิต เธอตัดสินใจกลับไปเยือนบ้านเกิด

และนั่นทำให้ต้องพบกับคนที่สร้างความทรงจำแย่ๆ ให้เธอสมัยวัยรุ่น

คือพสวัต หนุ่มหล่อนักเรียนนอก ที่คิดจะทำกิจการล้ง รับซื้อผลผลิตจากชาวสวน

ในราคาตามกลไกของการตลาด จึงมุ่งหน้าไปหาเพื่อนสนิทที่ต่างจังหวัด

เพื่อขอคำแนะนำ เขาได้พบกับสาวสวยสะดุดตาและถูกใจตั้งแต่แรกพบ

เธอเป็นคนคนเดียวกับเด็กสาวผมหยิก ฟันเหยิน

ที่เขาเคยค่อนว่าผอมเหมือนไม้เสียบผี ซึ่งเคยแอบชอบเขาตอนวัยแรกรุ่น

“เกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้น” วันนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่ามันยิ่งกว่าจริงเสียอีก

เพราะเขาเป็นฝ่ายหลงรักเธอเข้าเต็มเปา

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่1 จุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง EP.1
บทที่ ๑ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง “น้องแพง น้องแพง” เสียงอ่อนโยนคุ้นหูที่ได้ยินแว่วๆ ปลุกพิมพกานต์ที่กำลังหลับใหลอย่างเป็นสุขอยู่บนเตียงหนานุ่มปูด้วยผ้าลายดอกไม้สีหวานในห้องนอนที่เย็นฉ่ำด้วยแอร์คอนดิชัน ภายในคอนโดมิเนียมหรูหราย่านใจกลางเมือง ต้องพลันตกใจตื่นก่อนจะหยีตามองไปยังที่มาของเสียง แล้วดวงหน้าสะสวยที่ยังคงงัวเงียก็เผยรอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจปะปนประหลาดใจ เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาคือร่างอวบท้วมของนางพิมพ์พรผู้เป็นแม่ในชุดสีขาวสะอาด ซึ่งเป็นชุดที่เจ้าตัวมักจะแต่งถือศีลในวันพระ ยืนส่งยิ้มให้อยู่ข้างเตียง “แม่...มาได้ยังไงจ๊ะ” คนยังอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นเอ่ยถาม แม้จะยังงุนงงว่าจู่ๆ มารดาที่ควรจะอยู่บ้านสวนที่จังหวัดจันทบุรี เหตุไฉนจึงมายืนอยู่ตรงข้างเตียงของตนเอง แต่อารามดีใจนั้นมีมากกว่า เพราะช่วงนี้เธอไม่ค่อยมีเวลากลับบ้านนัก คนที่ยืนส่งยิ้มให้ไม่ตอบคำถาม แต่กลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนแกมขอร้อง “น้องแพง...กลับไปอยู่บ้านเรานะลูก กลับไปอยู่บ้าน...เรา” “กลับบ้าน! แม่ก็รู้ว่าแพงต้องทำงานนี่จ๊ะ” พิมพกานต์ตอบด้วยความรู้สึกงุนงงที่ทวีขึ้นเป็นลำดับ เพราะเท่าที่ผ่านมาไม่เคยเลยสักครั้งที่มารดาจะพูดกับเธอเช่นนี้ อีกฝ่ายรู้ดีว่าเธอกำลังสนุกและมีความสุขจากหน้าที่การงานที่กำลังไปได้สวยในตำแหน่งเลขานุการของประธานบริษัท แคปิตอล คูล โลจิสติกส์ จำกัด บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์อันดับใหญ่ต้นๆ ของประเทศ ที่เธอสอบเข้าทำงานได้เมื่อสองปีที่แล้ว “กลับไปอยู่บ้านเรานะลูก กลับบ้าน...เรา” น้ำเสียงอ้อนวอนกึ่งขอร้องของมารดาที่พูดตอกย้ำคำเดิมๆ พร้อมกับร่างที่ยืนอยู่ข้างเตียงซึ่งเห็นชัดเจนก่อนหน้าค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตา จนพิมพกานต์ต้องผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกับร้องเรียกเสียงหลง “แม่!” ข้างเตียงที่เมื่อครู่มีร่างอวบท้วมยืนอยู่บัดนี้หลงเหลือเพียงความว่างเปล่า ราวกับเรื่องเมื่อครู่คือความฝันหรือไม่เธอก็ตาฝาดไป หญิงสาวยกมือขึ้นขยี้ตาพลางบ่นพึมพำกับตัวเอง หรือเมื่อกี้เธออาจจะฝันไป แต่ฝันอะไรจะเหมือนจริงถึงเพียงนี้ ครั้นเหลียวมองนาฬิกาหัวเตียง...เพิ่งจะตีห้าครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาตื่นปกติของเธออยู่แล้ว ร่างสูงระหงในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่จึงก้าวลงจากเตียง ไปยืนตรงตำแหน่งที่เมื่อครู่เห็นร่างของมารดายืนอยู่ วูบหนึ่งภาพที่เห็นพลันหวนกลับเข้ามาในความคิดคำนึงจนเธออดวิตกกังวลไม่ได้ แม้จะบอกกับตัวเองว่าตาฝาดหรือเป็นความฝันก็ตามที ความรู้สึกแปลกๆ ระคนหวาดหวั่นบางอย่างแทรกเข้ามาในใจจนขนอ่อนที่แขนพากันลุกชัน ต้องรีบสลัดความรู้สึกดังกล่าวออกไปโดยเร็วก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ซึ่งน้ำเย็นๆ จากฝักบัวช่วยให้สมองของพิมพกานต์รู้สึกปลอดโปร่งขึ้น พลอยทำให้ลืมเรื่องที่กำลังวิตกกังวลไปได้ชั่วขณะ หลังแต่งกายเสร็จเรียบร้อย ร่างสูงสมส่วนในชุดกระโปรงสีขาวลายจุดดำแขนในตัวยาวเหนือเข่า อวดช่วงขาเรียวสวยก็เดินไปทรุดนั่งลงบนสตูลหน้ากระจกเงาบานใหญ่ หยิบตลับแป้งราคาแพงมาแตะแต้มเบาๆ จนทั่วใบหน้า.นับเป็นความโชคดีอย่างยิ่งของหญิงสาวที่แม้จะเกิดเป็นลูกสาวชาวสวน แต่กลับมีผิวหน้าที่เนียนกระจ่างใสจนไม่ต้องใช้ครีมรองพื้นช่วยให้มากเรื่อง จากนั้นก็หยิบลิปสติกสีชมพูอ่อนมาวาดฉับที่ปากแล้วเม้มสองครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น คิ้วเรียวทั้งคู่ที่เรียงตัวสวยอยู่แล้วไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เอาแปรงเล็กๆ ปัดๆ เป็นอันใช้ได้ พิมพกานต์ลุกขึ้นยืน พลางมองตัวเองในกระจกเงาที่กำลังสะท้อนภาพหญิงสาวร่างสูงเพรียวได้สัดส่วน ดวงหน้าเรียวรูปไข่มีเครื่องหน้ารับกันราวปั้นแต่ง ถูกล้อมกรอบด้วยผมยาวหยิกสลวยที่ไม่เคยผ่านการดัดแต่อย่างใด แต่เป็นผมที่หยิกตามธรรมชาติซึ่งใครต่อใครเห็นต่างก็ชื่นชมนักหนา ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ชอบใจเท่าไหร่...เพราะเป็นสิ่งตอกย้ำให้นึกถึงเรื่องราวบางอย่างในอดีต เมื่อนึกถึงตัวเองในวัยแรกรุ่น...รูปร่างผอมสูงมีผมหยิกจนจับตัวเป็นขอด ซ้ำฟันเหยินก็ผุดซ้อนขึ้นมาในมโนภาพ สมัยเรียนมัธยมปีที่สี่เธอขี้ริ้วขี้เหร่จริงๆ ถ้าไม่ตัดสินใจดัดฟันตั้งแต่ตอนนั้น หน้าตาคงไม่เป็นอย่างในปัจจุบันเป็นแน่แท้ แล้วภาพเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นความทรงจำที่เธอไม่เคยลืมเลือนก็วาบเข้ามาราวกับสั่งได้ จนต้องรีบขับไล่ภาพดังกล่าวออกไปโดยเร็ว คว้ากระเป๋ายี่ห้อดังที่แขวนอยู่ขึ้นสะพายที่ไหล่ ก้าวเดินออกไปจากห้องนอนตรงไปยังห้องครัวแบบทันสมัยที่มีอุปกรณ์พร้อมสรรพแต่แทบไม่เคยได้ใช้งาน นอกจากกาน้ำร้อนสำหรับชงกาแฟและเครื่องปิ้งขนมปังเท่านั้น เพราะทั้งสองอย่างคืออาหารเช้าสำหรับเธอ ส่วนมื้อเย็นไม่ค่อยเน้นนักตามแบบฉบับหญิงสาวในยุคนี้ ที่มักจะเน้นรักษาหุ่นกันมากกว่าการรักษาสุขภาพ พิมพกานต์เดินไปชงกาแฟแล้วหยิบขนมปังปิ้งที่ส่งกลิ่นหอมน่ากินใส่จานใบเล็ก แล้วถือไปนั่งยังมุมรับแขกที่มีโซฟานุ่มรูปมือสีแดงสดตัวเก๋ตั้งอยู่ หลังจากได้ดื่มกาแฟหอมกรุ่นเข้าไปอึกใหญ่ ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าก็บังเกิดขึ้น หญิงสาวเกือบจะตัดสินใจหยิบสมาร์ตโฟนในกระเป๋าขึ้นมาแล้วกดโทร. ไปหามารดาที่บ้าน แต่ก็เปลี่ยนใจ คิดว่าถึงที่ทำงานแล้วค่อยโทร. ก็ได้ ตลอดระยะเวลาร่วมสองปีนับตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี กระทั่งโชคดีสอบเข้าทำงานที่บริษัทโลจิสติกส์แห่งนี้ได้ หญิงสาวกลับบ้านไปหามารดาแทบจะนับครั้งได้ เพราะทั้งงานรวมทั้งอะไรอีกหลายสิ่งหลายอย่างดึงเวลาของเธอไปจนหมด คงมีอีกฝ่ายเท่านั้นที่โทร.มาหาอย่างสม่ำเสมอ ใจก็ได้แต่คิดว่าเดี๋ยวค่อยกลับ บ้านอยู่แค่นี้เอง เดี๋ยวค่อยโทร. หา...แต่ไม่เคยได้ทำเลยสักครั้ง แต่เธอตั้งใจไว้แล้วว่าวันหยุดยาวที่จะถึงนี้คงต้องกลับไปบ้านสักครั้งดวงตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ครั้นเห็นว่าถึงเวลาควรเดินทางไปทำงานได้แล้ว เจ้าของร่างสูงเพรียวก็ผุดลุกขึ้น คว้ากุญแจรถที่แขวนอยู่ ออกจากห้องพักตรงไปยังลานจอดรถ แล้วพาเจ้ามินิคูเปอร์สีแดงสดแล่นตะบึงไปยังอาคารแคปิตอลเฮาส์บนถนนรัชดาภิเษกตัดใหม่ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook