พิมพกานต์กดลิฟต์ขึ้นมายังชั้นเก้าซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ทันทีที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่คุ้นเคยกันดีเห็นเธอ ก็บอกเธอด้วยสีหน้าตื่นๆ
“คุณแพงคะ มีผู้หญิงชื่อพรเพ็ญโทร. มาบอกให้โทร. กลับไปหาด่วนค่ะ”
“ให้แพงโทร. กลับด่วนหรือคะ” พิมพกานต์เอ่ยถามน้ำเสียงงงๆ
พรเพ็ญที่ถูกเอ่ยถึงเป็นน้องสาวของมารดาซึ่งเป็นน้าสาวของเธอ แต่หญิงสาวสงสัยว่าทำไมเจ้าตัวไม่โทร. เข้ามือถือ เหตุใดจึงโทร. เข้าบริษัท ทว่าความสงสัยดังกล่าวก็มีอันต้องพับเก็บไว้ก่อน เมื่อเหลือบเห็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีในชุดสูทหรูเรียบกริบสีดำเดินฉีกยิ้มกว้างเข้ามา มีลิลลี่สีชมพูช่อใหญ่อยู่ในอ้อมแขน
“สวัสดีครับ ผมแวะเอาดอกไม้สวยๆ มาให้คนสวยๆ อย่างคุณแพงครับ”
คนได้ดอกไม้ช่องามแต่เช้ายิ้มนิดๆ “ขอบคุณมากค่ะคุณนนท์ ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาเลยค่ะ”
“ไม่ลำบากหรอกครับ ผมไม่ชอบฝากใครเอามาส่งเหมือนคนอื่น อยากเอามาให้ด้วยตัวเองมากกว่า คุณแพงจะได้นึกถึงผมเป็นคนแรกแต่เช้าไงล่ะครับ”
นนทวัชร...นักธุรกิจหนุ่มด้านนำเข้ารถยนต์พูดพลางคลี่ยิ้มหวาน พร้อมส่งสายตาสื่อความหมายเป็นนัยๆ ไปให้สาวสวยตรงหน้าที่เขากำลังสนใจจากการพบกันในงานเลี้ยง ความสวยบวกกับท่าทางฉลาดเฉลียวของอีกฝ่ายเข้าตาผู้ชายอย่างเขาเข้าอย่างจัง เพราะผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งฉลาดนั้นหาได้ยากเต็มทีในสมัยนี้
คนที่ได้รับสายตาสื่อความนัยอย่างพิมพกานต์ชำเลืองมองหน้าคนพูดแล้วยิ้มหยันในใจ ผู้ชาย...เวลาอยากได้อะไรมักจะทุ่มเทเช่นนี้เสมอ ดอกไม้ราคาแพงหลากหลายชนิด รวมทั้งของขวัญเลอค่าต่างๆ ที่ชายหนุ่มผู้นี้สรรหามาให้ แม้จะรู้สึกปลื้มปริ่มตามประสาผู้หญิง ยามได้รับสิ่งของจากนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่กำลังมีชื่อเสียงอย่างนนทวัชร ทว่าใช่จะไม่รู้ว่าคงไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวกระมังที่ได้รับ คาดว่าหญิงสาวคนอื่นก็คงได้รับเหมือนเธอด้วยเช่นกัน เพราะเดี๋ยวนี้ข่าวคราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวลับเฉพาะหรือข่าววงในแค่ไหนก็ตาม ต่างขุดคุ้ยออกมาแฉให้รู้กันในแวดวงโซเซียลเน็ตเวิร์กแทบทั้งสิ้น
เหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งที่หญิงสาวยังไม่ตกลงปลงใจกับใครในตอนนี้ ทั้งที่มีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาขายขนมจีบ ก็เพราะเธอมีบิดาเป็นคนเจ้าชู้ ที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้แก่มารดาจนถึงขั้นต้องหย่าขาดจากกัน เธอยอมรับว่าเกลียดคนเจ้าชู้เป็นที่สุด
“แบบนี้คงมีสาวๆ นึกถึงหน้าคุณนนท์กันหลายคนแน่เลยค่ะ” พิมพกานต์แกล้งพูดแหย่
“สาวคนไหนคงไม่ทำให้ผมนึกถึงได้เท่ากับคุณพิมพกานต์หรอกครับ” นนทวัชรพูดหยอดกลับทันควัน “แต่ตอนนี้ผมคงต้องของตัวเข้าออฟฟิศก่อน ถ้าไม่ติดว่าจะต้องเข้าประชุมเรื่องงานสำคัญ คงจะต้องอยู่ต่อขอดื่มกาแฟกับคุณแพงแล้วละครับ”
“เชิญค่ะ”
หลังจากรอจนนนทวัชรผละไปแล้ว พิมพกานต์คิดจะเดินออกไปซื้อเค้กเจ้าอร่อยที่ร้านกาแฟชื่อดังซึ่งอยู่ชั้นล่างของตัวอาคารมากินเสียหน่อย เพราะขนมปังปิ้งที่กินมาจากคอนโดที่พักไม่อยู่ท้องสักเท่าไหร่ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดิน เสียงเตือนของประชาสัมพันธ์สาวที่เคาน์เตอร์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“คุณแพงอย่าลืมโทร. กลับที่บ้านด้วยนะคะ”
คำพูดดังกล่าวเปลี่ยนความตั้งใจของหญิงสาวในทันที เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องด่วนที่ว่านั้นคืออะไร เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงหยิบสมาร์ตโฟนจากในกระเป๋าขึ้นมา แล้วถึงรู้สาเหตุว่าทำไมผู้เป็นน้าสาวถึงโทร. เข้าบริษัทแทนที่จะโทร. เข้ามือถือเธอโดยตรง เพราะหน้าจอที่ว่างเปล่าบ่งบอกให้รู้ว่าแบตเตอรี่หมดนั่นเอง
หญิงสาวรีบเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่อยู่หน้าห้องของผู้เป็นเจ้านาย ชาร์จสมาร์ตโฟนก่อนจะเปิดโทรศัพท์ สิ่งที่ปรากฏชัดแก่สายตาคือเบอร์ที่ไม่ได้รับสายเป็นสิบๆ สายจากผู้เป็นน้าสาว ทำให้ต้องรีบกดกลับไปหาทันที และดูเหมือนว่าคนในสายจะเฝ้ารออยู่เพราะกดรับทันทีที่สัญญาณดังขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว
“น้องแพง”
“น้าเพ็ญ ให้แพงโทร. กลับด่วนมีเรื่องอะไรหรือจ๊ะ” หลานสาวเอ่ยถามน้ำเสียงร้อนรน
คนในสายหยุดไปชั่วเสี้ยววินาที ตามมาด้วยคำพูดน้ำเสียงสั่นๆ
“พี่พิมพ์ไม่สบายมากจ้ะ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัด น้าโทร. เข้ามือถือไม่ติด โทร. เข้าบ้านไม่มีคนรับสาย เลยตัดสินใจโทร. เข้าบริษัท”
“ไม่สบายมาก!” พิมพกานต์อุทานน้ำเสียงตกใจ หวนนึกถึงความฝันตอนเช้าตรู่ขึ้นมาในทันใด “แล้วแม่เป็นอะไรไปหรือจ๊ะ”
“ท้องเสียจ้ะ น้องแพงรีบกลับมาได้ไหม นั่งเครื่องมาลงที่สนามบินตราด เดี๋ยวน้าขับรถไปรับเอง”
เมื่อได้ฟังอาการของมารดาว่าแค่ท้องเสีย หญิงสาวก็เบาใจลงว่าคงไม่ได้เป็นอะไรมากอย่างที่นึกกังวล ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พูดอะไรกับคนในสายอีก เสียงอินเตอร์คอมบนก็ดังกังวานขึ้นมาเสียก่อน
“คุณแพง เข้ามาหาผมในห้องหน่อยครับ”
หญิงสาวละล้าละลังขึ้นมาทันที
“ว่าไงน้องแพง”
น้ำเสียงร้อนรนของผู้เป็นน้าทำให้พิมพกานต์ต้องตอบออกไปก่อนว่า “เดี๋ยวแพงขอเข้าไปหาเจ้านายก่อนนะจ๊ะน้าเพ็ญ”
พูดจบพิมพกานต์ก็กดวางสาย แล้วคว้าสมุดโน้ตเดินเข้าไปในห้องของเจ้านายในทันที
“ว่าไงคุณแพง ได้ข่าวว่ามีหนุ่มเอาดอกไม้มาให้แต่เช้าเลยหรือครับ”