เช้า
นารีหอบหิ้วกระเป๋าลงมาด้านล่างอย่างทุลักทุเล จนคนรถที่คุณหญิงรัศมีให้มารับเด็กสาวต้องรีบมาช่วยเธออีกแรง
“สวัสดีค่ะคุณลุง ขอบคุณที่ช่วยนารีนะคะ” ความอ่อนน้อมความมีมารยาททำให้ลุงคมนึกเอ็นดูเด็กสาวรุ่นลูกรุ่นหลานด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไรครับคุณหนู ไม่ต้องขอบคุณลุงหรอกครับ”
“ได้ยังไงละคะคุณลุงมาช่วยนารี นารีก็ต้องขอบคุณสิคะ” เท้าเล็กๆ ก้าวเข้าไปนั่งด้านในตัวรถที่เบาะด้านหลัง โดยมีลุงคมเป็นคนเปิดประตูให้ ตลอดทางนารีคุยกับลุงคมอย่างเจื้อยแจ้วด้วยความสดใส เธอเบนหน้ามองวิวข้างๆทางที่มีรถสวนกันไปมาจนลายตาไปหมด เธอจึงเอนศีรษะพักสายตาแล้วผล็อยหลับไปในที่สุด
บ้านประดิษฐ์พิชัยสงคราม
รถยนต์คันหรูจอดเทียบที่ตัวมุขหน้าบ้านที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามสมกับฐานะของคุณท่านรุจ คุณหญิงรัศมี ทุกคนยืนรอต้อนรับเธออยู่หน้าบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กสาวก้าวลงจากรถด้วยความประหม่า แต่ความรู้สึกที่ประหม่านั้นก็กลับมาอยู่ในช่วงอารมณ์ที่ปกติ เพราะมีมืออุ่นนุ่มของคุณหญิงรัศมีส่งยืนจับมือเล็กอย่างให้ความรัก
“สวัสดีดีค่ะคุณท่านรุจ สวัสดีค่ะคุณหญิงรัศมี” เด็กสาวรีบยกมือไหว้อย่างมีมารยาท ส่งยิ้มเผื่อแผ่ให้กับคนรอบข้างอย่างเป็นมิตร คุณหญิงรัศมีโอบกอดสาวน้อยอีกครั้งด้วยความรักและเอ็นดู
“ไปค่ะเดี๋ยวเข้าไปกราบคุณปู่คุณย่า ไปฝากเนื้อฝากตัวกับท่านที่เรือนหลังเล็กกัน”
“มากันแล้วหรอลูก” คุณย่าพุ่มที่นั่งจิบน้ำชาเคียงข้างกับคุณปู่โรจน์ที่ศาลาริมน้ำ ท่านทั้งสองชอบมานั่งที่นี่เป็นประจำในช่วงสายๆ เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพลางกวักมือเรียกให้ทุกคนรีบเดินเข้ามา
นารีย่อตัวลงที่พื้นคลานเข่าเข้าไปหาท่านทั้งสอง มือทั้งสองข้างประสานยกขึ้นถึงกลางอกก้มกราบเท้าท่านทั้งสองที่เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของบ้านอย่างฝากเนื้อฝากตัว
“ไหว้พระเถอะลูกหลานย่า” คุณย่าพุ่มส่งมืออุ่นลูบหัวทุยอย่างเอ็นดู ที่เด็กสาวตรงหน้ารู้จักฝากเนื้อฝากตัวอย่างนอบน้อม นารีช้อนตาเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานให้คุณย่าพุ่มด้วยความไร้เดียงสาจนคุณอดยิ้มส่งกลับให้ไม่ได้
“ตาถึงมากแม่รัศมีพ่อรุจเหมาะสม” คุณย่าพุ่มพินิจพิจารณาใบหน้าหวานอย่างถี่ถ้วน เอ่ยปากชมเปาะจนคุณหญิงรัศมียิ้มไม่หุบ ส่วนคนปู่โรจน์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยเช่นกัน
“ลุกขึ้นมานั่งข้างบนกับย่ามะลูก”
“ขอบคุณค่ะคุณย่า” นารีพยุงตัวลุกขึ้นหย่อนก้นลงนั่งข้างๆ คุณย่าพุ่มโดยมีคุณหญิงรัศมีนั่งขนาบข้างด้านซ้าย
“แล้วเจ้าพยัคฆ์ไปไหนไม่เห็นหัวตั้งแต่เช้า”
“ยังไม่ตื่นเลยครับคุณพ่อ อ้อนั้นไงครับเดินมาพอดี” คุณรุจพูดยังไม่ทันขาดคำเจ้าเสือร้ายประจำบ้านก็เดินมาพอดี ตายยากสะจริงไอ้ลูกคนนี้ คุณรุจได้แต่ยิ้มคิดในใจเมื่อเห็นลูกชายกำลังเดินตรงมาหา