ในค่ำคืนที่ฝนตกหนัก น้ำหวานเดินตากฝนด้วยตัวที่สั่นเทาไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะกางร่มในมือ เธอเดินช้าๆ ท่ามกลางสายฝนกลบเกลื่อนน้ำตาของตัวเองที่กำลังไหลออกมา
สิ่งที่เห็นก่อนหน้านี้คือคนรักและเพื่อนสนิทกำลังจูบกัน อยู่ในรถของฝ่ายหญิงที่ลานจอดรถ และเธอมั่นใจว่าดูไม่ผิด ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม ไม่ใช่ว่าถูกฝ่ายใดบังคับ มันคือการจูบที่เต็มใจเหมือนคนรักกัน
ก่อนหน้านี้เธอเคยสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ สังเกตว่าแฟนหนุ่มมักกับเพื่อนของตนนั้นสนิทกันทั้งๆ ที่พึ่งรู้จักกันเพราะการแนะนำของเธอเมื่อปีที่แล้ว
คนรักที่คบหากันมาหนึ่งปีกับเพื่อนสนิทที่คบกันแปดปี ตอนนี้ทั้งคู่กำลังร่วมมือกันหักหลังเธออยู่
“คิดว่าฉันจะยอมโง่ให้พวกแกหลอกเหรอ ในเมื่อกล้าทำอย่างนี้กับฉันก็ลองดูก็แล้วกันว่าชีวิตเป็นยังไงต่อไป” น้ำหวานพึมพำท่ามกลางสายฝน
ในตอนนั้นก็มีร่มยื่นมาบังฝนให้เธอ ทั้งๆ ที่เธอตัวเปียกโชกขนาดนี้แล้วแท้ๆ
“ตากฝนแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” เสียงที่คุ้นเคยนั้นทำให้น้ำหวานหันไปมองหน้าเขา
คนรักของเธอกำลังกางร่มให้ เนื้อตัวของเขาก็เริ่มเปียกฝน ภาพที่เขากับปุยนุ่นจูบกันมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดและคับแค้นใจ แต่เขากลับยืนยิ้มให้เธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หญิงสาวกลั้นใจยิ้มให้เขาเหมือนว่าก่อนหน้านี้เธอไม่เห็นอะไร
“ทำไมไม่กางร่มล่ะ”
“มันกางไม่ออกน่ะ” น้ำหวานตอบคนรักออกไปแล้วยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“พึ่งกลับมาถึงเหรอ” เขาถามพลางเดินไปข้างๆ เธอ เพื่อเข้าสู่ตัวอาคารที่พักด้วยกัน
“ใช่ พึ่งนั่งแท็กซี่มาถึง กางร่มไม่ทันเลยเดินตากฝนเข้ามา แล้วกฎล่ะ มาตั้งแต่ตอนไหน”
“มาถึงเมื่อกี้เหมือนกัน รีบขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะเดี๋ยวไม่สบายเอา” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติเหมือนว่าไม่ได้ทำความผิดอะไรมา
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับเสียงเบา ภาพที่เขาจูบกันกับเพื่อนสนิทของเธอยังคงติดตาจนถึงตอนนี้
เมื่อถึงห้องพักของเธอ กรกฏยืนส่งเธอที่หน้าห้องพักไม่ได้เข้าไป เขาทำแบบนี้มาตลอดเพื่อให้เกียรติเธอ หากเธอไม่เชิญชวนหรือไม่อนุญาตเขาก็จะไม่เข้าไปเด็ดขาด
‘ให้เกียรติเหรอ ให้เกียรติฉัน แต่จูบกับเพื่อนฉันอย่างนั้นเหรอ’ หญิงสาวนึกในใจ ยังเจ็บแค้นเขากับปุยนุ่น ไม่อยากจะคิดเลยว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำเรื่องอย่างนั้นได้ลงคอ
“งั้นผมกลับห้องก่อนนะ” เขาบอกเธอเพื่อที่จะกลับห้องของตนเองที่อยู่ห้องตรงข้ามกัน หญิงสาวพยักหน้าแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะปิดประตูไปอย่างไร้เยื่อใย
กรกฏรู้สึกใจคอไม่ดีที่วันนี้คนรักทำตัวผิดแปลกไปจากเดิมเขากลับไปยังห้องของตัวเองเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่แห้งและสะอาดนั่งมองดูโทรศัพท์มือถือด้วยความลังเลใจ
เขากับเธอรู้จักกันเพราะอยู่ห้องพักตรงข้าม หลังจากนั้นก็ตามจีบเธออยู่นานสองเดือน จนได้คบกัน
ตลอดหนึ่งปีที่คบกันกับน้ำหวานเขามีความสุขมาก รักและให้เกียรติเธอมาตลอด แต่ในระหว่างนี้ก็มีเพื่อนของเธอเข้ามาแทรกกลาง เธอแอบโทรหาเขาและมักซื้อของมีค่าให้เสมอ รวมถึงเอาตัวเข้าแลกบอกว่าแค่อยากสนุกกัน ทำให้เขาไม่สามารถหักห้ามใจตนเองได้และเผลอมีสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทของเธอมาสองเดือนแล้ว
วันนี้เขาบอกเลิกกับเธอ ปุยนุ่นจึงขอให้จูบกันเป็นครั้งสุดท้าย และเขาก็ทำตามเพื่อที่จะจบปัญหาทุกอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ตัวเองเคยพลาดนอกใจน้ำหวานไปแล้ว มันคือสิ่งที่เขาไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้
ที่ผ่านมาน้ำหวานดีกับเขาเสมอต้นเสมอปลาย จึงทำให้เขารู้สึกผิดและคิดถอนตัวจากปุยนุ่นหลังจากที่กลัวว่าแฟนสาวจะรู้เรื่องนี้
ท่าทีของน้ำหวานที่แปลกไปในวันนี้ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าบางทีเธออาจจะเห็นตอนที่เขาจูบกับเพื่อนของเธอในรถ เมื่อคิดอย่างนั้นกรกฏก็รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก
ขณะนั้นปุยนุ่นก็โทรเข้ามาที่เบอร์โทรของเขา พอกรกฏรับสายเธอก็เชิญชวนให้เขาลงไปหาเธอที่ลานจอดรถ ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าเธอกลับไปแล้ว
“นุ่นเราเลิกทำแบบนี้เถอะ ไหนคุณบอกผมว่าคุณจะหยุดเพียงเท่านี้ไง”
“ใครจะอยากหยุดกันคะ”
“แล้วคุณให้ผมจูบลาคุณทำไม”
“นุ่นแค่อยากให้คุณรู้ใจตัวเองว่าจริงๆ แล้วคุณรักนุ่น นุ่นไม่อยากเล่นๆ กับคุณแล้ว นุ่นรักคุณนะคะ” เธอทำเสียงเศร้าแล้วบอกว่ารักเขา
จริงๆ แล้วตอนนั้นเธอเห็นว่าน้ำหวานกำลังลงจากแท็กซี่และกำลังเดินเข้ามา จึงพูดออกไปอย่างนั้นเพื่อให้เขาจูบเธอให้น้ำหวานเห็น ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ลึกๆ ในใจแล้วคอยตามอิจฉาน้ำหวานทุกเรื่อง
“นุ่นรักคุณนะ ถ้าคุณไม่ลงมานุ่นจะบอกน้ำหวานเรื่องของเรา” เธอพูดขู่เขาทั้งๆ ที่วันนี้เธอก็ได้ทำสำเร็จไปแล้วนะ
“ผมไม่ไป”
“ลองดูสิคะ ถ้าน้ำหวานรู้เรื่องของเราแล้วเธอจะทำยังไง นุ่นยอมผิดใจกับเพื่อนเพื่อให้ได้คุณมา”
“คุณนี่มันร้ายกาจจริงๆ ทำแบบนี้กับเพื่อนของตัวเองได้ยังไง” กรกฎพูดด้วยความโกรธ ไม่คิดว่าเรื่องจะมาถึงขั้นนี้
“ทีคุณล่ะ คุณยังทรยศน้ำหวานจะมานอนกับฉันได้เลย อย่าทำมาเป็นพูดดีเลย” เธอตอบกลับไปทำให้กรกฎนิ่งอึ้ง
“ฉันรักและยอมคุณทุกอย่าง แต่กับน้ำหวานเธอไม่เคยยอมคุณเลยสักครั้ง แล้วคุณจะทนอยู่กับผู้หญิงที่ไม่ยอมให้คุณแตะเนื้อต้องตัวไปทำไม ฉันสิคนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับคุณ แม้มันจะเป็นวิธีที่ผิดไปบ้าง แต่ว่าทุกอย่างที่ฉันทำก็เพราะว่าฉันรักคุณ” เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ผลปุยนุ่นจึงใช้ไม้อ่อน แกล้งร้องไห้และพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าทำให้กรกฎใจอ่อน
“ผมออกไปไม่ได้ เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน” เขาตัดสินใจพูดกับเธอไปอย่างนั้นทำให้หญิงสาวแอบยิ้มที่ปลายสาย
“นุ่นสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ รอจนคุณรู้ใจตัวเองว่ารักนุ่น แล้วเรามาคบกันนะคะ” เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร
“แล้วถ้ามันไม่มีวันนั้นล่ะ”
“นุ่นก็จะอยู่ในที่มุมเล็กๆ ของนุ่นต่อไปแบบนี้” เธอบอกเขาเหมือนผู้หญิงที่ยอมทุกอย่างเพื่อคนที่รัก
กรกฎกดวางสายไป เอามือกุมศีรษะด้วยความกังวลใจ คิดว่าตัวเองไม่น่าพลาดนอกใจคนรักแบบนี้
**********************
ในวันต่อมาน้ำหวานทำตัวเป็นปกติเธอมาเคาะห้องของกรกฏเพื่อที่จะชวนเขาลงไปทานอาหารข้างล่าง กรกฎยิ้มอย่างดีใจที่คนรักนั้นเป็นปกติแล้ว จึงคิดว่าตนเองคิดมากไปเรื่องที่ว่าเธอรู้เรื่องความลับของเขา
“เห็นหวานลงสตอรี่ว่าอยากไปทานร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ที่หัวมุมฝั่งโน่น งั้นเราไปทานกันไหม” เขาถามคนรักอย่างเอาใจ
“เห็นด้วยเหรอ ไม่เห็นกดใจนึกว่าไม่เห็น” น้ำหวานบอกเสียงใสแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี
ทั้งคู่เดินเท้าไปทานอาหารกันที่ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ใกล้ๆ ที่ห่างออกไปเพียงสองร้อยเมตร ในวันหยุดแบบนี้คนค่อนข้างเยอะ จึงรออาหารนานหน่อย
“สั่งเยอะจัง สี่อย่างจะทานหมดเหรอ”
“ทานหมดสิคะ หวานหิว” หญิงสาวบอกแล้วยิ้มกว้าง
ขณะที่กำลังนั่งรออาหารอยู่ ปุยนุ่นก็เดินเข้ามาหาทั้งคู่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ดีจังเลยที่เจอแกที่นี่ ขอนั่งด้วยคนนะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานแล้วยิ้มให้กับทั้งคู่
“พอดีเลยฉันสั่งอาหารไว้หลายอย่าง งั้นทานด้วยกันนะ” น้ำหวานเชิญชวนเพื่อนสนิทของตนเอง ทำให้ปุยนุ่นงงเล็กน้อยว่าทำไมเธอยังไม่โวยวายออกมากับเรื่องเมื่อวาน
ปุยนุ่นมองดูน้ำหวานนั่งตรงข้ามกับกรกฎ แล้วเลือกนั่งเก้าอี้ข้างเขาแทนที่จะนั่งข้างเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้กรกฎรู้สึกใจคอไม่ดี
ในตอนนั้นเองพายุเพื่อนในกลุ่มของน้ำหวานก็เดินเข้ามาในร้าน น้ำหวานยกมือขึ้นเรียกเขาให้เข้ามานั่งด้วย
พายุเป็นเพื่อนของน้ำหวานและปุยนุ่นที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยมปลาย และเขาแอบชอบน้ำหวานแต่ไม่เคยสารภาพความในใจออกมา แต่เรื่องนั้นน้ำหวานก็ดูออกแต่ทำเป็นไม่รู้เพราะอยากรักษาสถานะเพื่อนเอาไว้
“นั่งด้วยกันก่อนสิพายุ”
“บังเอิญจังเลยนะ” ปุยนุ่นพูดหยอกล้อเพื่อนชายอย่างรู้ทัน แต่น้ำหวานก็แกล้งทำเป็นไม่รู้
“พอดีฉันเห็นเธอลงสตอรี่ว่าวันนี้จะมาทานอาหารร้านนี้ก็เลยตามมาน่ะ ไม่ได้เจอเพื่อนนานอยากเจอหน้า” พายุบอกตามความจริง เขาไม่เคยโกหกเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่แล้ว
“งั้นที่แกตามมาถูกก็เพราะเห็นสตอรี่ฉันเหมือนกันสินะ”น้ำหวานหันไปพูดกับปุยนุ่น แล้วหัวเราะเบาๆ มา
“ฉันบังเอิญผ่านมาพอดีต่างหาก” เธอปฏิเสธออกไป ทั้งๆ ที่ตั้งใจมาเพื่อที่จะแสดงตัวว่าตนเองได้ครอบครองคนรักของเธอแล้ว
พายุนั่งข้างน้ำหวาน เขาอมยิ้มเล็กน้อยที่ดูน้ำหวานส่งยิ้มให้เขาและได้นั่งข้างเธอแบบนี้
เมื่ออาหารมาถึงน้ำหวานก็สั่งข้าวเปล่าเพิ่มให้ทั้งสองคนที่เพิ่งมาแล้วเริ่มทานอาหารกัน
“สั่งเยอะเหมือนรู้ว่าเพื่อนจะมาแน่ะ ทำอย่างกับแอบนัดพายุมา บังเอิ๊ญ บังเอิญ” ปุยนุ่นพูดเหมือนเป็นการหยอกล้อ แต่น้ำหวานรู้แล้วว่าเพื่อนคนนี้ไม่ใช่เพื่อนที่เป็นมิตรจริง จึงได้แต่ยิ้มตอบไม่ได้พูดอะไรออกไป
“แล้วเกี่ยวอะไรกับพายุล่ะ ฉันอาจสั่งเพราะรู้ว่าเธอจะมาก็ได้” น้ำหวานพูดให้ดูเป็นเชิงหยอกล้อ
“ก็พายุแอบชอบเธออยู่ไงล่ะ เธออาจจะรู้ว่าเขาชอบเธอแล้วอยากจับปลาสองมือหรือเปล่า” ปุยนุ่นพูดออกมาทำให้ผู้ชายทั้งสองคนทำหน้าไม่ถูก
“นุ่น” พายุเรียกชื่อเธอกลัวจะทำให้เสียบรรยากาศ
“อ้าว แกชอบฉันเหรอ แล้วทำไมไม่บอกล่ะ” น้ำหวานแทนที่จะรีบออกตัวหรือทำตัวไม่ถูก เธอกลับหันไปพูดกับพายุแล้วยิ้มให้เขา
กรกฎมองภาพคนรักที่ดูสนิทสนมกับเพื่อนชาย เขารู้สึกหึงมาก แต่ในเมื่อน้ำหวานทำเหมือนไม่ได้คิดอะไรก็สงบลง ลึกๆ รู้ว่าปุยนุ่นจงใจพูดให้เขาทะเลาะกับเธอ
“ชอบหรือไม่ชอบ ตอนนี้นายก็ไม่มีสิทธิ์แล้ว เพราะว่าหวานมีแฟนแล้ว นายมาช้าไปหนึ่งก้าว” กรกฎพูดออกแล้วยิ้มให้พายุอย่างเหนือกว่า
“ก็ไม่แน่นะคะ หากกฎทำตัวไม่น่ารัก หวานอาจจะเปลี่ยนใจหันมามองคนใกล้ตัวก็ได้” น้ำหวานพูดออกมา ทำให้กรกฎนิ่งไปเพราะรู้ว่าตัวเองนั้นมีความผิดอยู่
พายุได้แต่อมยิ้มไม่ได้พูดอะไร ในขณะที่ปุยนุ่นคิดว่าน้ำหวานอาจใช้พายุมาทำให้คนรักหึงเพื่อที่จะเอาเขากลับไป มั่นใจว่าเพื่อนสนิทเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแน่
‘คิดเหรอว่าจะสำเร็จ ฉันจะทำให้แกกับกฎเลิกกัน เขาต้องเป็นของฉันเท่านั้น’
**********************
หลังจากแยกกันที่ร้านอาหารกรกฏเดินมากับคนรักแล้วพูดถึงเรื่องที่เธอพูดกับพายุ
“หวานทำไมไปพูดให้ความหวังเพื่อนแบบนั้น ถ้าเขารักหวานขึ้นมาจริงๆ แล้วรอให้เราเลิกกันจะทำยังไง”
“พายุไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกค่ะที่ผ่านมาเขาเสมอต้นเสมอปลายกับหวานตลอดนี่หวานก็เพิ่งรู้นะคะว่าที่เขาทำดีกับหวานมาตลอดเพราะว่าเขาชอบหวานอยู่”
“ไม่เอานะหวานอย่าพูดแบบนี้สิ ผมยิ่งกลัวอยู่ว่าเพื่อนของคุณจะจริงจังแล้วหาทางทำให้เราเลิกกันเพื่อที่จะคบกับคุณ”
“เพื่อนของหวานคนไหนล่ะคะที่จะทำให้เราเลิกกัน พายุหรือว่าปุยนุ่น” เธอพูดแล้วหัวเราะขึ้นมาเหมือนกับว่าพูดไปยังงั้นแต่กลับทำให้กรกฏหน้าเจื่อนลงไป
“หวาน ผมรักคุณนะ อย่าสนิทกับพายุเกินไปได้ไหมผมขอร้อง ผมหึงคุณจริงๆ นะ”
“คุณคิดมากเกินไปไหมคะ พายุก็แค่เพื่อน ทีคุณกับนุ่นก็ยังสนิทกันเลยทั้งๆที่นุ่นเป็นเพื่อนหวาน หวานยังไม่ได้คิดอะไรเลย หวานเชื่อใจคุณนะคะ คุณเองก็ต้องเชื่อใจหวาน” สิ่งที่หญิงสาวพูดนั้นทำให้กรกฏใจคอไม่ดี เขาต้องพูดเรื่องนี้กับปุยนุ่นให้รู้เรื่อง
เมื่อแยกกันที่หน้าห้องแล้วกรกฎก็รีบโทรหาปุยนุ่นทันที
“นุ่นวันนี้คุณตั้งใจที่จะไปหาผมกับหวานใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แล้วไงคะก็นุ่นคิดถึงคุณนี่นา”
“คุณพยายามจะแสดงตัวให้หวานรู้ใช่ไหม”
“กฎคิดมากไปหรือเปล่าคะ นุ่นไม่ได้ทำอย่างนั้นสักหน่อย”
“ผมว่าเราจบกันแค่นี้เถอะ จบแบบจริงๆ จังๆ เสียที”
“ไม่ได้นะ ถ้าคุณบอกเลิกนุ่น นุ่นจะบอกหวาน” เธอขู่เขา
“เอาเลยผมจะได้สารภาพความผิดกับหวาน ถ้าหวานจะเลิกกับผมจริงๆ ผมก็ไม่ไปคบกับคุณอยู่ดี” กรกฏพูดออกมาอย่างเด็ดขาดทำให้ปุยนุ่นโวยวายออกมา แล้วกรีดร้องลั่นจนเขาต้องวางสายไป
**********************