เรื่องที่ 13 ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง (2/2)

3430 คำ
อัญญาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวนอน พรุ่งนี้ก็คงตื่นมาในช่วงสายๆ แล้วก็ไปตลาดช่วงบ่ายเหมือนอย่างที่เคย การอกหักไม่ได้ทำให้ชีวิตเธอติดขัด ดังนั้นเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตของตัวเองขึ้นไปอยู่ในระดับที่ดีขึ้น เสียงเคาะห้องดังขึ้นในขณะที่เธออาบน้ำอยู่อัญญาจึงรีบล้างตัว แล้วผ้าเช็ดตัวห่อเอาไว้แล้วเดินไปถามที่หน้าประตูโดยที่ยังไม่เปิดให้ “นั่นใคร” เธอถามออกไปเสียงห้วนด้วยความโมโหและหงุดหงิด “ชลัน” เขาพูดขึ้นมาเสียงเรียบ เธอลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอยู่ จึงเปิดประตูแง้มดูเขา ในตอนนั้นเองที่ชลันก็ดันประตูเข้ามาพร้อมกับถุงใส่กล่องข้าวไข่เจียวแล้วกดล็อกห้อง ไม่ได้ทำหน้านิ่งเฉยใส่เธอเหมือนที่เขาทำอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้ดูจริงจังและไม่พอใจอะไรบางอย่าง “มีธุระอะไร” ชลันมองสิ่งที่เธอสวมใส่แล้วรีบหันหลังให้กับเธอ อัญญาก้มมองดูตัวเองขนาดเธอพันผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียวเขาก็ยังรังเกียจเธอจนต้องรีบหันหลังให้ ใครๆ ก็คิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแท้ เขาคงกลัวงูจะโผล่ออกมาละมั้ง “ถ้าไม่มีธุระอะไรก็เชิญออกไป ฉันง่วง ฉันจะนอนแล้ว” เธอบอกเขาแล้วตั้งใจจะเดินไปเปิดประตูให้เขาออกไป แต่ว่าชลันก็ขวางทางเอาไว้เขาไม่ยอมให้เธอทำอย่างนั้น “ทำไมพูดแบบนั้น” เขาถามขึ้นมาเสียงดุอย่างไม่พอใจ “พูดอะไร ก็คนจะนอน นี่ก็ห้องฉัน ฉันจะให้ใครไปก็ได้” “ไม่ใช่ ผมหมายถึงทำไมถึงบอกให้เด็กพวกนั้นมาเอาที่ห้องเป็นบ้าหรือยังไง” “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย ตัวก็ตัวฉัน ฉันจะนอนกับใครก็เรื่องของฉัน” เธอเถียงเขาด้วยความหงุดหงิด ที่เขาควงผู้หญิงคนอื่นเธอยังไม่ได้โวยวายกับเขาสักนิด “เป็นผู้หญิงยิงเรือพูดแบบนี้ได้ยังไง ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวเลยสักนิด” ชลันพูดมากกว่าทุกครั้งและพูดในสิ่งที่ทำให้เธอนั้นต้องนิ่งเงียบไป ‘ผู้หญิงเหรอ เขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงเหรอ’ “เมื่อกี้นายบอกว่าฉันเป็นผู้หญิง นายพูดประชดหรือว่ายังไง” “ก็คุณเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ทำไมผมต้องพูดประชดด้วย” เขายังแสดงอาการหงุดหงิดออกมา “แต่ทุกคนเข้าใจว่าฉันไม่ใช่” “อย่าเมารวมผมกับพวกนั้น ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่อย่างที่คนอื่นเขาคิด ถึงคุณจะทำให้มันเป็นจุดเด่นในการขายไข่เจียวของคุณก็เถอะ แต่ผมรู้ว่าจริงๆ แล้วคุณเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยและนิสัยน่ารักคนหนึ่งเลยทีเดียว” อยู่ๆ น้ำเสียงของชลันก็เปลี่ยนไป เขาหันหน้ามาสบตาของอัญญาต่างคนต่างสบสายตากัน แต่ก่อนที่อัญญาจะเคลิบเคลิ้มกับความรู้สึกดีๆ ตรงหน้า เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเขามีเจ้าของอยู่แล้ว “กลับไปเถอะ เดี๋ยวแฟนนายรอ เข้ามาในนี้เดี๋ยวเขาจะเข้าใจผิดแล้วจะทะเลาะกันเปล่าๆ” “แฟนเหรอ หมายถึงผู้หญิงเมื่อตอนที่ผมพาไปร้านคุณ ใช่ไหม นั่นลูกพี่ลูกน้องผมเอง เธอมาทำธุระที่กรุงเทพ ผมเลยจะพาเธอมาทานไข่เจียวที่ร้านคุณก่อนที่จะไปส่งเธอที่โรงแรม” เขาพูดแล้วยกกล่องข้าวไข่เจียวขึ้นมา “แต่ผมได้ยินคุณพูดแบบนั้นกับพวกวัยรุ่น ผมเลยไปส่งน้องสาวผมก่อน ขากลับก็พาเธอแวะซื้อข้าวไปกินที่ห้องพักของเธอแล้วก็กลับมาที่นี่” เขาอธิบายกับเธอเหมือนกับว่ากลัวเธอจะเข้าใจผิด “แล้วมาบอกฉันทำไม” เธอทำเสียงสั่นทั้งๆ ที่พอจะเดาคำตอบได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง “ก็ผมชอบคุณไง ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิดเหมือนที่เข้าใจผิดอยู่ตอนนี้ก็เท่านั้น” อัญญาเผยยิ้มออกมาทันที อยู่ๆ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมาแล้วโผเข้าไปกอดเขา โดยลืมตัวไปว่าตัวเองนั้นกำลังอยู่ในชุดที่หมิ่นเหม่อยู่ ชลันที่ตอนแรกตั้งใจเข้ามาเพื่อที่จะดุเธอเรื่องคำพูดที่เธอเชิญชวนวัยรุ่นกลุ่มนั้น และจะมาชวนเธอกินข้าวไข่เจียวในมือด้วยกันแต่พอเจอเธอกอดแบบนี้เขาก็ยอมรับว่าตัวเองทนไม่ไหว เขาเชยคางของเธอขึ้นมาแล้วโน้มตัวลงไปจูบปากโดยไม่ต้องขออนุญาต การที่เธอโผกอดเขาอย่างนี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าใจของทั้งคู่นั้นตรงกัน ริมฝีปากร้อนของทั้งคู่บดเบียดกันอย่างเร่าร้อนก่อนที่เขาจะถอดเสื้อของตัวเองออกไปตามด้วยกางเกงของเขา ยังไม่ได้แตะต้องผ้าเช็ดตัวของเธอเพราะมันง่ายเหลือเกิน จะเก็บเอาไว้เป็นชิ้นสุดท้ายที่เขาจะจัดการเอามันออกไปให้พ้นทาง ข้าวไข่เจียวถูกทิ้งไว้ที่พื้นห้องอย่างไม่ไยดีพอๆ กับเสื้อผ้าของเขาในตอนนี้ ชลันดันตัวเธอเดินไปที่เตียงหลังจากที่เขาอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า แล้วกระตุกดึงผ้าเช็ดตัวของเธอออกไปเผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนหน้าอกหน้าใจที่อวบอิ่มเป็นธรรมชาติ แล้วดันตัวเธอลงไปนอนอย่างนุ่มนวล “เดี๋ยวก่อนมีถุงยางไหม” อัญญาถามด้วยความตื่นเต้น “ไม่มี ผมไม่ได้เตรียมมาว่าจะทำแบบนี้” เขาบอกแล้วจูบปิดปากไม่ให้เธอตั้งคำถามใดๆ อีก ฝ่ามือร้อนลูบไล้ไปที่หน้าอกและสะโพกของเธอก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอ คบเม้มเบาๆ อย่างมันเขี้ยวแล้วจึงเลื่อนตัวลงไปบีบหน้าอกขึ้นมาดูดดื่มเม็ดยอดอกด้วยความหลงใหล ร่างของอัญญาสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้นปนสยิว ไม่อยากเชื่อเลยว่าอยู่ๆ ผู้ชายที่เธอแอบชอบจะมาสารภาพว่าเขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับเธอ แล้วกำลังสร้างบทรักกับเธออยู่ในตอนนี้ ชลันใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปรอบๆ เม็ดตุ่มไตสีชมพูอ่อนนั้นอย่างเอร็ดอร่อย แล้วใช้ลิ้นโลมเลียเธอลงไปจนถึงหน้าท้องแบนเรียบในขณะที่จับขาเธอแยกออกเพื่อให้เขาซุกหน้าลงไปตรงเนินอวบอูมด้านล่าง เขาจูบที่เนินอูบอย่างทะนุถนอม เลื่อนปลายจมูกไปกดตรงปุ่มกระสัน สูดดมกลิ่นที่เย้ายวนเขาอยู่ในตอนนี้ “อย่าทำ” เธอร้องห้ามเขาเมื่อเขากำลังจะใช้ปลายลิ้นให้กับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอะไรกัน แต่ชลันไม่สน เขาจูบเธอตั้งแต่โหนกเนินนั้นลงไปจนถึงร่อง ใช้ลิ้นในการตวัดแยกกลีบแคมทั้งสองจากกัน ดูดเลียเม็ดติ่งสีขาวขุ่นนั้นสลับกับเลียดุนลิ้นเข้าไปหนักๆ ทำให้แม่ค้าสาวถึงกับแอ่นสะโพกตอบรับแล้วสูดปากออกมา ไม่นานนักเขาก็ใช้ปลายลิ้นแยงเข้าไปข้างในและใช้หัวแม่มือมาบดขยี้ที่ตรงจุดกระสันแทน ทำให้เธอต้องดึงหมอนมาอุดปากแล้วร้องข้างใส่หมอนด้วยความเสียวที่สุดจะบรรยาย หญิงสาวจิกปลายเท้าเกร็งสะโพกแน่นเมื่อตนเองถึงจุดหมาย ภายในตอดรัดปลายลิ้นของเขาจนชลันรู้สึกได้ เขาผละออกจากเนินอวบอูมนั้นแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนที่จะขยับตัวไปอยู่ตรงระหว่างขา ดึงหมอนออกจากใบหน้าของเธอเพื่อชื่นชมพวงแก้มที่แดงเรื่อนั้น แล้วจับแทงลำกดเข้าไปพรวดเดียวอย่างเต็มแรง โน้มตัวลงไปจูบปากกับเธอเพื่อปลอบประโลมให้เธอรู้สึกมีอารมณ์ร่วม อัญญากอดแผ่นหลังของเขาแน่น จูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่มขณะที่ชลันค่อยๆ ขยับสะโพกไปแล้วสอดไปลิ้นเข้าไปในโพรงปากเธอไปด้วย “อื้อ อื้อ” เสียงครางที่หลุดเล็ดลอดออกมาผ่านจูบของทั้งคู่นั้นดังในระดับหนึ่งซึ่งชลันมั่นใจว่าไม่ดังถึงขั้นที่จะเล็ดลอดออกไปนอกห้องเช่าแห่งนี้ได้ เขาจูบปากแล้วเพิ่มความเร็วขึ้นมาทีละนิด ควงสะโพกซอยกระแทกเธอเข้าไป พอเห็นว่าเธอครางอย่างพอใจจึงโถมแรงเข้าใส่อย่างหนัก สอดใส่ในมุมที่แท่งลำถูไถกับเม็ดกระสันของเธออยากดุเดือด จนในที่สุดแม่ค้าสาวก็ถึงเส้นชัยไปอีกครั้งด้วยความอ่อนประสบการณ์ของเธอ ชลันที่ตอนนี้อดใจไม่ไหวแล้ว เขาจับเธอให้อยู่ในท่านอนตะแคงแล้วคุกเข่าประกบจากด้านหลัง ขยับเข้าไปสอดใส่อย่างเต็มรักทำมุมกับสะโพกอย่างที่ทำให้เธอมีความสุขและรับความเสียวเข้าไปเต็มๆ สักพักเขาเองก็เริ่มทนไม่ไหวจึงถอนแท่งลำนั้นออกมาเพื่อชะลอให้มันยังไม่ถึงเส้นชัยไปง่ายๆ ในตอนนี้ ชายหนุ่มจับเธอนอนหงายแล้วแยกขาออกจากกันอีกครั้ง เขาไปใช้ลิ้นให้ความสุขเธออย่างต่อเนื่อง รอให้แท่งลำของตนนั้นลดความเสียวลงสักนิด พอมันพร้อมแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมองดูใบหน้าของเธอที่กำลังมองเขาด้วยสายตาที่ปรารถนาและเสียดายที่เขานั้นผละออกไปในขณะที่เธอกำลังเสียวอยู่ ชลันตัดสินใจใช้ท่ามาตรฐานในการที่จะปลดปล่อยกับเธอในครั้งแรก เขากดแทงลำร้อนระอุของตัวเองเข้าไปในตัวเธออีกครั้ง โน้มตัวลงไปจูบปากของเธอ มือทั้งสองข้างบีบเคล้นหน้าอกของเธออย่างเบามือและขยี้ยอดอกนั้น ขณะที่ซอยแท่งอุ่นเข้าไปเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง พอเธอเริ่มหายใจหอบถี่ขึ้นเขาก็รู้แล้วว่าหญิงสาวกำลังจะถึงจุดหมาย เขาจึงสอดมือเข้าไปใต้แผ่นหลังเธอซุกหน้าลงที่ซอกคอของหญิงสาวแล้วเร่งความเร็วของสะโพกตอกอัดเข้าไปอย่างหนักหน่วง เลื่อนปากมาประกบจูบเธอเพื่อปิดเสียงครางที่เร่าร้อนของทั้งคู่ในขณะที่ถึงจุดหมายไปพร้อมกัน อัญญารู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่นข้นพวยพุ่งเข้ามาอยู่ข้างในกายเธอ ความโล่งสบายเบาหวิวประกอบกับคำสารภาพรักของเขาทำให้เธอสุขใจและเพลียหลับไปในตอนนั้น เธอได้แต่ภาวนาว่ามันไม่ใช่ความฝันที่ตอนนี้เธอกับเขากำลังมีความสุขด้วยกัน ชลันมองดูอัญญาที่นอนหลับไปแล้ว เขาเผยยิ้มออกมาอย่างสุขใจเมื่อคิดว่าต่อจากนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว “ผมจะไม่ให้ใครมาแซวคุณในทางเสียหายอีกแล้วนะ ที่รัก” ********************** ชลันเป็นฝ่ายย้ายข้าวของของตนเองมาอยู่กับอัญญา เพราะห้องของเธอนั้นดูดีหว่าสภาพห้องของเขา และข้าวของของตนเองก็น้อยกว่า มีเพียงแค่เสื้อผ้ากับของใช้ไม่กี่อย่าง เพื่อนบ้านห้องเช่าข้างๆ ต่างก็พูดนินทาว่าเขานั้นหลงเมียสาวประเภทสองจนโงหัวไม่ขึ้น พูดแดกดันว่าทั้งคู่เป็นคู่รักวิปริตผิดเพศ ทั้งๆ ที่จริงแล้วถึงพวกเขาจะเป็นอย่างนั้นจริง ก็ไม่ควรมีใครใช้คำนี้ดูถูกกันแบบนี้ “คนหนึ่งก็ไรเดอร์ตุ๋ยตูด อีกคนก็กะเทยขายข้าวไข่เจียว คู่นี้นรกชังหรือสวรรค์แกล้งวะ” เพื่อนข้างห้องปากสุนัขร้องขึ้นลอยๆ ในวงเหล้าที่เริ่มดื่มตั้งแต่หัววัน “สมัยนี้ยังมีคนบูลลี่คนอื่นเรื่องเพศและรูปร่างหน้าตาอยู่อีกเหรอ” อัญญาบ่นพึมพำขณะที่กำลังเตรียมของจะออกไปเปิดร้าน “ช่างเถอะอัญ ไปขายของดีกว่า” ชลันบอกคนรักที่ตอนนี้ตกลงใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว “ใช้ยาเสน่ห์จากที่ไหนวะ ถึงเอาผู้ชายไปเป็นผัวได้ น้ำมันพรายจากกะเทยความในป่าช้าวัดถั่วดำเหรอวะ ฮ่าๆ” เขาหัวเราะขึ้นมาอย่างชอบใจ เพื่อนของเขาอีกสองคนในวงเหล้าก็หัวเราะตามอย่างครื้นเครง “ปากแบบนี้ไม่น่าตายเพราะตับแข็งนะพี่ น่าจะตายเพราะปากหมา” อัญญาพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด “อ้าว อีนี่ วอนโดนตีนซะแล้ว” เขาลุกขึ้นยืนแล้วชี้หน้าอย่างมาดร้าย “เออ คำก็กะเทย สองคำก็ตุ๋ยตูด ฉันจะเป็นกะเทยแล้วทำไม กะเทยทุกวันนี้สวยๆ ทำงานเก่งๆ ร่ำรวยๆ มีเยอะแยะ แล้วอีกอย่างนะ ปากแบบน่าจะโดนกะเทยยำตีนให้กินสักจาน” “พอเถอะอัญ อย่าไปแลกกับมันเลย” ชลันดึงแขนคนรักเอาไว้ ขี้เมาสามคนลุกแล้วชี้หน้ามองเธออย่างเอาเรื่อง แววตามาดร้ายจนชลันเริ่มเป็นกังวล เขาคิดว่าห้องเช่าแห่งนี้ไม่ปลอดภัยเสียแล้ว และมีความคิดที่จะชวนเธอไปอยู่ที่อื่นในไม่ช้านี้ “อย่าคิดนะว่าฉันไม่กล้าบอกเมียพี่เรื่องที่พี่เอาเมียน้อยมาเอาที่ห้อง แล้วยังจะเรื่องสร้อยทองเมียพี่ที่หาย เพราะพี่แอบเอาไปขายแล้วเอาเงินไปให้เมียน้อยใช้ ฉันรู้หมดนั่นแหละ” เมื่อเจอคำขู่ของอัญญาไป เพื่อนบ้านที่หัวร้อนก็สงบลง เขาไม่อยากมีเรื่องกับภรรยาจึงยอมยกธงข้าว “เฮ้ย พวกเรา กินเหล่าต่อดีกว่า อีกะเทยมันมีข้อต่อรองว่ะ บังเอิญกูกลัวเมียด้วย ปล่อยมันไปก่อน” ชลันโล่งใจที่ไม่เกิดเรื่อง แต่เขาก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัยของเธออยู่ดี และสภาพแวดล้อมที่นี่ก็ดูไม่น่าจรรโลงใจเลยสักนิด อย่างไรก็ตาม เขาต้องพาเธอไปจากที่นี่ให้ได้ ********************** เวลาผ่านไปนานถึงหกเดือนแล้วที่ชลันและอัญญาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาที่ห้องเช่าแห่งนั้น ทั้งคู่ตกลงที่จะจดทะเบียนสมรสกัน เพื่อแสดงถึงความรักและความพร้อมในการก้าวเดินไปด้วยกันในวันข้างหน้า ชลันอยากเก็บเงินเอาไว้สำหรับแต่งงาน แต่อัญญากลับมองเห็นว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องนำเงินเก็บไปจัดงานแต่งงานให้ฟุ่มเฟือย จึงถ่ายรูปพรีเวดดิ้งในงบแค่หนึ่งหมื่นต้นๆ เพื่อเก็บภาพเอาไว้เป็นความทรงจำสำหรับคนสองคนเท่านั้น ในตอนนี้อัญญากำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้ว เธอมองดูสามีที่แพ็คของใส่ลังเพื่อที่จะขนใส่รถหกล้อที่มาจอดรออยู่หน้าห้องเช่า “กล่องสุดท้ายแล้ว” เขาบอกแล้วยิ้มให้เธอ อัญญามองตามอย่างมีความสุขเธอไม่อยากเชื่อเลยว่าชีวิตของหญิงสาวที่หน้าตาไม่ได้สวยหวานเหมือนอย่างคนอื่นเขา เธอก็ยังมีผู้ชายที่แสนดีอย่างชลันมารักเธอ และทำเพื่อเธอในทุกๆ อย่างรวมถึงเอาเงินเก็บของเขายกให้เธอบริหาร จัดการดาวน์บ้านอยู่ด้วยกันและยังยกให้เป็นชื่อเธอคนเดียวอีกด้วย “กะเทยกับผัวเกย์จะย้ายไปไหนกันล่ะ” ชายข้างห้องขี้เมาพูดขึ้นมายังไม่ทิ้งนิสัยปากเสียใส่ทั้งคู่จนตอนนี้ “จะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ พอดีเพิ่งซื้อบ้านให้เมียกับลูกอยู่” ชลันที่แต่ก่อนไม่ค่อยพูดเพราะอยากรักษาน้ำใจและไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา ตอนนี้เขาไม่เกรงใจใครแล้วเพราะกำลังจะไปจากที่นี่ “ลูกนี้คือขี้เหรอเมียกะเทยท้องลูกก็คงเป็นขี้” ผลัวะ! เสียงหมัดของชลันซัดเข้าที่ใบหน้าของขี้เมาเต็มๆ จนเขาล้มลง “มึงจะว่าอะไรกูมึงก็ว่าไปเลย แต่อย่ามาดูถูกลูกเมียกู เมียกูกำลังท้อง กูไม่อยากให้เขาฟังคำพูดหมาๆ ออกจากปากของมึง” ชลันดูโหดและจริงจังเป็นครั้งแรก อัญญายิ้มกริ่มที่สามีของตนเองนั้นออกโรงปกป้องเธอได้เป็นอย่างดี “ท้องเหรอมึงโม้หรือเปล่าเมียมึงเป็นกะเทยท้องได้ยังไง” “มึงยังจบใช่ไหม” ชลันชี้หน้าถามทำให้หนุ่มข้างห้องเอามือปิดปาก แล้วลุกถอยไปยืนที่หน้าห้องของตนเอง ภรรยาของเขาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงเดินออกมาดูที่หน้าห้องเช่าและเห็นว่าสามีตนเองมีรอยเลือดติดอยู่ที่มุมปาก “นี่มันอะไรกันถึงกับต้องทำร้ายกันเลยเหรอ” “ก็ผัวพี่มาว่าให้ลูกเมียผม อัญยิ่งกำลังท้องกำลังไส้ ผมไม่อยากให้เขาเครียด ที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นก็เพราะปากของผัวพี่นั่นแหละ คำก็ตุ๋ยตูด สองคำก็กะเทย เมียผมท้องขนาดนี้ยังจะมาบอกว่าลูกในท้องเป็นขี้ ถ้าเลือดไม่ออกปากก็คงจะไม่สำนึก” ชลันที่เงียบมาตลอด พอได้โมโหเขาก็ดูน่ากลัวมาก จนครั้งนี้อัญญาเป็นฝ่ายดึงแขนเขาไว้แทน ภรรยาของเขาหันไปมองหน้าสามีแล้วยกตะหลิวในมือชี้หน้าสามี ก่อนจะหันมาหาทั้งคู่ “อย่างนั้นมันก็สมควรได้รับแล้ว ยินดีด้วยนะกี่เดือนแล้วล่ะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความยินดี แต่ในใจนั้นรู้สึกสำนึกผิดแทบไม่ทัน เพราะตนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เข้าใจว่าอัญญาเป็นสาวประเภทสอง “จะห้าเดือนแล้วพี่ ปลายปีนี้ก็คงได้เป็นพ่อคน” เขาบอกเธอแล้วหันไปยิ้มให้อัญญา เธอเริ่มใส่ชุดคลุมท้องได้สองวันแล้ว ตอนที่ขายไข่เจียวลูกค้าหลายคนก็เข้ามาถามแล้วบางคนก็สารภาพตามตรงว่าเข้าใจผิดเรื่องของเธอมาเป็นเวลานานแล้วและเพิ่งรู้ความจริงแล้ววันนี้ทำให้ทุกคนถึงกับไปไม่เป็น โดยเฉพาะพวกวัยรุ่นที่ชอบพูดหยอกเย้าเธอแรงๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพูดด้วยคำสุภาพไม่กล้าพูดคะนองปากเพราะรู้ว่าเธอไม่ใช่สาวประเภทสองแต่เป็นผู้หญิงที่หน้าดุคนหนึ่ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอัญญาก็ไม่ได้ถือสาเอาความอะไร เพราะเธอก็ใช้มันมาเป็นจุดขายให้กับตัวเอง ทั้งสองร่ำลาเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ที่ออกมาแสดงความยินดีและรับคำขอโทษจากเพื่อนบ้านบางคนที่ยืดอกขอโทษที่เข้าใจผิด แล้วพวกเขาจึงนั่งรถแท็กซี่นำรถหกล้อเพื่อขอขนและรถมอเตอร์ไซค์ของทั้งคู่ไปไว้ที่บ้านหลังใหม่ “ขอบคุณนะคะ ที่รักและพวกป้องอัญกับลูก” เธอบอกเขาแล้วเอนศีรษะพิงที่ไหล่ของสามี “รู้ไหมว่าผมรักอัญตอนไหน” เขาถามเธอเสียงนุ่มจนคนขับแท็กซี่อดยิ้มตามไม่ได้ “ตอนไหนคะ” “ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน อัญน่ารักใจดี ใครไม่มีเงินก็ให้กินฟรี พวกวัยรุ่นขอเซ็นก็ยอมให้ ถึงปากแซ่บแต่มีน้ำใจ” “อัญรักคุณตั้งแต่แรกเจอเหมือนกัน ก่อนหน้านี้กลับเองคนเดียวก็ไม่กลัวเท่าไร่หรอก แต่ที่ขอให้มาช่วยขับรถกลับเป็นเพื่อนก็เพราะอยากเจอทุกวัน” ภรรยาสาวสารภาพความใจใจให้แก่เขาฟังเป็นครั้งแรก “ผมว่าแล้ว มันไม่สมเหตุสมผลเลย แต่ก็ชอบแหละ เลยรับปาก” เขาหัวเราะอย่างชอบใจ รถแท็กซี่ที่พวกเขานั่งแล่นไปตามท้องถนน สองสามีภรรยากำลังจะไปเริ่มต้นอยู่ในสังคมใหม่ๆ อย่างที่ชลันวาดฝันเอาไว้แต่แรก และทั้งคู่ตกลงกันว่า จะสอนให้ลูกๆ ของพวกเขารู้จักยอมรับถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ไม่ดูถูกหรือว่ามองคนเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก อย่างที่พ่อของพวกเขามองเห็นความดีของแม่อัญญาคนนี้มาโดยตลอด ---จบ---
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม