ในวันแรกที่เธอหอบเสื้อผ้าตามเจ้าหนี้กลับไปยังบ้านของเขา เธอก็ไม่ประหลาดใจเลยสักนิดที่บ้านของเขาเป็นบ้านสองชั้นราคาไม่น่าจะเกินสิบล้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรรทั่วไป ดูแค่นี้ก็พอดูออกแล้วว่าเขาเป็นคนปล่อยเงินกู้มือใหม่ และมีลูกกระจ๊อกแค่สองคนคือนายเอและนายบีเท่านั้น
พอถึงตอนเย็นที่เอกับบีที่น่าจะเป็นพี่น้องกันก็กลับบ้านด้วยรถออโตเมติกสีหวานนั่น เธอจึงได้โอกาสโชว์ฝีมือปลายจวักทำอาหารเย็นให้แก่เขา ทำให้วิรุตยิ้มที่เขาไม่ต้องกินกับข้าวถุงในมื้อนี้
“ฝีมือดี ไม่แพ้อาหารที่แม่คุณทำเลย”
“ข้าวราดแกงฉันกับแม่ช่วยกันทำ อยากกินอะไรก็บอกนะ ฉันจะทำให้ทาน” เธอบอกเขาเสียงหวาน ผิดกับคนเมื่อกลางวันจนเขาเงยหน้าขึ้นมอง
“คือว่าฉันเห็นว่าคุณไม่ใช่คนใจร้ายอะไร และฉันรู้สึกผิดทีเข้าใจว่าคุณเป็นเซลขายเครื่องกรองน้ำ เลยอยากแก้ตัวใหม่ เพราะไหนๆ เราก็ต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน” เธอพูดเป็นนัยว่าอย่างไรเขาก็ต้องอยู่กับเขายาว
“สามวัน อีกแค่สามวันพ่อคุณก็มา” เขาบอกแล้วทานข้าวต่ออย่างไม่สนใจอะไรกับเธออีก
เช้าวันต่อมาวิราพรที่ปกติแล้วไม่มีเวลาแต่งหน้าแต่งตัวเพราะต้องทำกับข้าวช่วยมารดา แต่พอมาอยู่ที่บ้านเขาเลยขนเครื่องสำอางกับเสื้อผ้าแบบจัดเต็ม
เธอแต่งหน้าและแต่งตัวในชุดเดรสที่ดูสวยหวาน มองตัวเองในกระจกแล้วหมุนตัวด้วยความชื่นชมที่ตนเองดูสวยขึ้น
“คราวนี้ล่ะ ไม่สนใจฉันให้มันรู้ไป” เธอพูดแล้วยิ้มดูตัวเองในกระจกอย่างพอใจแล้วเดินไปเข้าครัวเตรียมอาหารเช้าให้กับเขา โดยเลือกวัตถุดิบเท่าที่มีแล้วรังสรรค์เมนูออกมาได้อย่างน่ากิน
วิรุตแต่งตัวดูดีลงมาจากบ้านของตนแล้วมองกับข้าวตรงหน้าอย่างพอใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มที่เธอแต่งตัวสวย
“จะออกไปไหน แต่งหน้าแต่งตัวขนาดนี้” เขาถามเธอแล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
“ไม่ได้ไปไหนค่ะ พอดีไม่ค่อยมีโอกาสได้แต่งตัว พอดีว่างๆ เลยลองแต่งดู” เธอบอกเขาแล้วยิ้มแย้ม
“แล้วออฟฟิศคุณอยู่ไหนคะ” เธอถามขณะที่นั่งทานอาหารร่วมกับเขา
“ที่นี่ไง” เขาพูดไปพลางทานอาหารที่เธอทำแล้วยิ้มอย่างพอใจ
“ทำงานที่บ้านตัวเอง ต้องแต่งตัวจัดเต็มขนาดนี้เลยเหรอคะ” เธอถามเขาเมื่อดูชุดสูทเต็มตัวขนาดนั้น แต่ทำงานที่บ้านตัวเอง
“คนเราการแต่งตัวมันทำให้น่าเชื่อถือ และแต่ละคนก็มีสไตล์เป็นของตัวเอง” วิรุตพูดแล้วพยายามทำตัวขรึมเมื่อนึกได้ว่าตัวเองต้องคีปลุค
‘เจ้าหนี้ฉัน เฮ้อ...มีสไตล์เป็นของตัวเองดีนะ’
วิราพรทานอาหารแล้วลอบมองเขาเงียบๆ ที่ลูกน้องบอกว่าเขาไม่สนใจเธอท่าทางจะจริง แต่ไม่ใช่เพราะเธอไม่สวยหรอก เป็นเพราะว่าเขาไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยต่างหาก เพราะเท่าที่ดูเขาเป็นผู้ชายที่ ‘แปลก’ เลยทีเดียว
**********************
สองวันแล้วที่วิราพรพยายามจะเข้าหาเขา ทั้งทำอาหาร พูดจาหวานๆ แต่งตัวแต่งหน้าสวยๆ แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวเขาได้เลย
วิรุตไม่ได้ปฏิเสธเธออย่างออกนอกหน้า แต่เขาเหมือนไม่รู้ตัวมากกว่าว่าเธอกำลังให้ท่าเขาอยู่ แล้วยังทำท่าขบขัน ว่าเธอแต่งหน้าอยู่บ้านบ้างล่ะ แต่งตัวเหมือนนางเอกกำลังอยู่ต่อหน้ากล้องที่ต้องเป๊ะตลอดเวลาบ้างล่ะ
‘ไม่ดูตัวเองสักนิด แต่งตัวหล่อปล่อยเงินกู้ที่บ้านเนี่ยนะ’
“พรุ่งนี้ก็วันเกิดแล้ว พ่อคงมาเหมือนทุกปี แต่แม่จะรู้ไหมนะว่าที่พ่อมาทุกครั้งคือมาขอเงินเรา ไม่ใช่เพราะคิดถึงอะไรหรอก” เธอพึมพำ รู้ดีว่าอย่างไรพ่อเธอคงไม่มาที่นี่
เพราะหากรู้ว่าคนที่ตัวเองขอเงินได้ทุกปี เพราะอ้างบุญคุณของคนเป็นพ่อ มาอยู่กับเจ้าหนี้ที่ตามหาตนเอง ใครล่ะจะยอมมาเจอง่ายๆ แต่เธอไม่บอกมารดาและวิรุต เพราะอยากมาอยู่กับเขา เผื่อเขาจะรวบหัวรวบหางเธอให้เป็นเมียเจ้าหนี้เหมือนในนิยาย
“แต่สงสัยอ่านนิยายมาเฟียทวงหนี้มากไป เฮ้อ สภาพ เสียเวลาทำมาหากินตั้งสามวัน” เธอบ่นออกมาอย่างเซ็งในอารมณ์ เธอคงหมดหวังที่จะเข้าถึงตัวเขาแล้ว
วิราพรสวมชุดนอนลายการ์ตูนรูปเป็ดน้อยลงไปหาของกินในครัวยามดึก เธอเขียนใบรายการอาหารให้เอกับบีซื้อของมาเต็มตู้เย็นจนวิรุตบ่นว่าเขาไม่น่าพาเธอมาอยู่ด้วยเพราะเธอทำอาหารอร่อยจนเขาน้ำหนักขึ้น
หญิงสาวฮัมเพลงเบาๆ แล้วทำแพนเค้กกล้วยง่ายๆ โดยใช้แค่ไข่กับกล้วยหอมบดและคนให้เข้ากัน นำไปวางบนกระทะเคลือบ แล้วนำออกมาราดนมข้นหวานทานเท่านั้น
“ใจทรามยามดึก น้ำหนักขึ้นนิดๆ หน่อยๆ พรุ่งนี้ค่อยลด” เธอพึมพำไปนั่งโยกตัวเบาๆ ไป ขณะที่ใช้ส้อมตักทานแพนเค้กกล้วยหอมตรงหน้า
“ทำอะไรกินดึกๆ นอนไม่หลับเหรอ พรุ่งนี้ก็จะได้กลับแล้วนี่” วิรุตพูดขึ้นมาจากด้านหลัง ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปมองเขาโดนที่ยังคาบอาหารไว้ในปาก ก่อนจะรีบสูดเข้าไปในปากแล้วเคี้ยวอย่างรวดเร็วเพื่อคุยกับเขา
“อืม ตื่นเต้นที่พ่อจะมารับพรุ่งนี้” เธอเออออไปกับเขา แล้วรีบทานอาหารว่างยามดึกของตนเองให้หมด
ในจังหวะนั้นเธอแล้วแอบหาวเบาๆ ตอนที่เขาไม่สังเกตเห็น และมีน้ำตาซึมออกมาตอนที่หาวนิดหน่อย
วิรุตเห็นน้ำตาที่ซึมอยู่ที่หัวตาของเธอเขาก็อดใจหายไม่ได้ เขาแพ้น้ำตาผู้หญิง มันเป็นอะไรที่ทำให้เขาหวั่นไหวมากๆ
“อย่าร้องเลยนะคุณ ผมเชื่อว่าพ่อคุณต้องมา ท่านรักคุณมากขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นไม่มาหาคุณทุกปีหรอก” เขาปลอบใจเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
วิราพรลอบยิ้ม เธอรู้จุดอ่อนของเขาแล้ว พรุ่งนี้ตอนที่พ่อของเธอไม่มา..เขาเสร็จเธอแน่
“แล้วถ้าพรุ่งนี้พ่อฉันไม่มา ฉันคง..” เธอแกล้งทำเสียงเครือ ทำให้วิรุตใจหาย
“ขอตัวก่อนนะคะ” เธอแกล้งเศร้าแล้วเบี่ยงตัวเดินผ่านเขาไป ลอบยิ้มอย่างพอใจที่มีแผนใช้มารยาหญิงในหัวแล้ว
**********************
วิรุตมองดูวิราพรที่นั่งทำหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้ เพราะตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามกว่าแล้ว แต่บิดาของเธอก็ยังไม่มีวี่แววจะโผล่มา
“คุณอย่าเศร้าไปเลยนะ” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล สีหน้าดูเป็นกังวลใจแทนเธอ
“ช่างมันเถอะค่ะ เขาคงรู้ทันแผนคุณเลยไม่มา ขอตัวไปทำอาหารเย็นนะคะ ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆ ให้ตัวเองคิดมาก” เธอแกล้งพูดเสียงสั่นแล้วเดินเข้าไปเตรียมอาหารเย็นในครัว
มื้อเย็นผ่านไป ทั้งสองนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นจนถึงสองทุ่ม วิรุตมองหน้าวิราพรที่ตาแดงเหมือนจะร้องไห้ ใจเขารู้สึกว่าตัวเองผิดเองที่พาเธอมาเพื่อล่อให้พ่อเธอมาที่นี่ และเมื่อเขาไม่มา ก็เป็นการเปิดเผยให้เธอรู้ว่าระหว่างเงินกับลูกสาว เขากลัวเสียเงินมากกว่าจึงไม่ยอมมา ละทำให้เธอเสียใจ
“เขาอาจจะติดธุระก็ได้” เขารีบปลอบเธอ
วิราพรที่รอจังหวะอยู่แล้วปล่อยโฮออกมา เธอกุมหน้าร้องไห้จนตัวโยน ทำให้วิรุตทำตัวไม่ถูกเพราะเลยขับไปนั่งข้างเธอแล้วตบหลังเธอเบาๆ เพื่อปลอบใจ
เธอหันไปกอดเขา ร้องไห้สะอื้นที่แผงอกนั้น แล้วลอบยิ้มอย่างพอใจที่ตอนนี้เขาเชื่อสนิทว่าเธอกำลังเศร้า แล้วเอาแต่ร้องไห้ไม่พูดจาตอบโต้อะไรออกมาเพราะกลัวหลุด มันยิ่งทำให้เขาเป็นห่วง
เขาจับเธอดันออกจากตัวเขา พยายามสบตาที่ชื้นไปด้วยน้ำตา “อย่าเสียใจไปเลยนะ”
“จูบปลอบใจฉันหน่อยนะ” วิราพรใช้จังหวะนี้สบตาเขาอ้อนวอนเขา
เมื่อเห็นว่าเขาไม่กล้าเธอจึงเป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้าไปหาเขาก่อน แววตาที่เหมือนว่ากำลังต้องการใครสักคนของเธอทำให้เขาไม่กล้าปฏิเสธ จึงนั่งนิ่งให้วิราพรจุมพิตที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา และคิดว่ามันคงหยุดแค่นั้น
แต่ว่าเธอเหมือนจะขอกำลังใจจากเขามากไปแล้ว เพราะตอนนี้มือเธอคลำไปที่ต้นขาของเขาแล้วลูบไล้จนไปถึงเป้ากางเกง
ความสงสารที่มีต่อเธอประกอบกับความรู้สึกผิด และการเล้าโลมที่ปลุกเร้าอารมณ์ของเขาทำให้วิรุตจูบเธอกลับไปแล้วดันร่างเธอนอนลงไปกับโซฟา เปลี่ยนจากฝ่ายถึงรุกเป็นฝ่ายรุกแทน
วิราพรตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น เขาจูบซุกไซ้จนมาถึงที่ลำคอระหงของเธอแล้วเลื่อนจมูกไปที่เนินอก แล้วถอดเสื้อผ้าที่เป็นสิ่งกีดขวางออกไปทีละชิ้นสลับกับของตัวเอง จนร่างกายขาวเนียนของเธอปรากฏตรงหน้า ในขณะที่เขาก็ไร้ซึ่งสิ่งปิดบังร่างกาย
เขาจับขาเธอแยกออกจากกันแล้วใช้นิ้วทำให้มันฉ่ำน้ำ ก่อนจะทำการกดแท่งลำสอดใส่เข้าไป
“อื้อเจ็บ” เธอบอกเขาเมื่อมันถูกกดจนมิดด้ามในครั้งเดียว
วิรุตค่อนข้างตกใจ การที่เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเขาคิดว่าเธอคงเคยมีประสบการณ์มาแล้ว แต่พอเขาล่วงล้ำเข้าไปเท่านั้นถึงรู้ว่าเขาเป็นคนแรกของเธอ
เขาอุ้มตัวเธอขึ้นมาจากโซฟาทั้งๆ ที่แท่งลำนั้นคาอยู่ แล้วอุ้มเธอขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านโดยมีวิราพรตัวสั่นนิ่วหน้า กอดคล้องคอแล้วซบอยู่ที่ไหล่ของเขา
“ผมขอโทษที่ไม่รู้ ให้ผมแก้ตัวนะ”
เธอพยักหน้าหงึกๆ ที่คิดว่าจะยั่วเขา พอสำเร็จทำไมเป็นตัวเองที่เสียเปรียบเขาเสียเอง
เขาพาเธอไปยังห้องนอนของเขา เปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำโดยยังไม่วางเธอลง ทำให้เธอเขินอยู่ไม่น้อย
“ผมขอโทษที่ฉวยโอกาสตอนที่คุณอ่อนแอแบบนี้ ถึงครั้งแรกไม่ใช่ความรัก แต่ว่าผมก็สัญญาว่าจะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำลงไป” เขาบอกเธอขณะที่วางลงบนเตียงแล้วคร่อมทับเอาไว้หลวมๆ แล้วถอนแท่งลำออกไปอย่างช้าๆ
วิรุตเริ่มต้นพรมจูบไปทั่วร่างของเธอแล้วลูบไล้ปลุกเร้าเธอไปทั่วร่างกาย
เขาเคยมีคนรักมาแล้วหลายคน แต่ละคนคบกันไม่ถึงเดือนก็เลิกราเพราะเข้ากันไม่ได้ เขาจึงคิดว่าเขาเหมาะกับการอยู่ตัวคนเดียวมากกว่าการมีคู่จึงไม่เปิดใจรับใครเข้ามาอีกเป็นเวลาสองปีกว่าแล้ว
ความสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นโดยไร้ซึ่งความรัก แต่ว่าเขาก็ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อมัน และวิราพรเองก็ไม่เลวเลยทีเดียว ทำให้เขาไม่ติดหากจะลองคบหากับเธอต่อจากนี้
หญิงสาวที่ตอนแรกคิดหาสารพัดวิธีเข้าหาเขา พอถึงตอนที่ตนเองถูกเขาเล้าโลมก็ถึงกับไปไม่เป็น ครางในลำคออื้ออึงและบิดตัวไปมาเพราะความสยิวที่แล่นไปทั่วร่าง
เขาเลื่อนลงไปใช้ลิ้นมอบความสุขให้เธอ ตวัดชิมความหวานจากร่องหลืบที่นุ่มน่าสัมผัสนั้น ดื่มด่ำในกลิ่นที่ยั่วอารมณ์ทางเพศที่ติดปลายจมูกในขณะที่เกร็งลิ้นรุกล้ำเข้าไปข้างในแล้วฉกลิ้นสร้างความกระสันเสียวจนสายธารใสไหลออกมาเปรอะที่ริมฝีปากของเขา
วิรุตรีบลุกขึ้นคุกเข่าจับแท่งลำถูกไถที่ร่องฉ่ำน้ำเพื่อให้นำใสๆ เคลือบปลายหัวแล้วจับมันกดเข้าไปอย่างช้าๆ มองดูใบหน้าที่บิดเบ้ของเธอแล้วทำอย่างระมัดระวัง
“อื้อ เสียว” เธอบอกเขาเมื่อมันเข้าไปจนสุดแล้ว และวิรุตก็เริ่มขยับสะโพกอย่างช้าๆ มองดูเธอกัดริมฝีปากและสูดปากครางด้วยความเสียวซ่านอย่างพอใจ
“แรงอีกนะ” เขาบอกเธอแล้วจับขาเธอพาดไว้ที่แขนของเขาทั้งสองข้าง ขยับเข้าหาถี่ๆ ด้วยความเร็วที่ต่อเรื่องจนเธอครางเสียงสั่น หน้าอกกระเพื่อมตามแรงกระทำที่ดุดันนั้น
เสียงของเนื้อกระทบกันโดยมีของเหลวเป็นตัวกลางทำให้เกิดเสียงแจะๆ กระตุ้นให้ทั้งคู่ยิ่งเกิดความตื่นเต้นและเพิ่มความหนักหน่วงขึ้น
วิรุตก้มหน้าลงไปจูบปากแลกลิ้นจูบกันอย่างดูดดื่มแล้วโถมแรงสะโพกตอกอัดลงไปถี่ๆ เสียงครางของเธอลอดผ่านจูบออกมาเร่าๆ แล้วครางเสียงยามปลายเท้าจิกเกร็ง เมื่อถึงเส้นชัยแล้ว
เขากระแทกเข้าไปแล้วปลดปล่อยข้างในจนคราบน้ำสีขาวขุ่นไหลย้อนออกมาขณะที่เขายังคงซอยแท่งลำนั้นต่อไปทั้งๆ ที่ถึงเส้นชัยพร้อมเธอแล้ว วิราพรกอดแผ่นหลังเขาไว้แน่นเมื่อเขายังคงกระแทกเข้ามารัวๆ อย่างต่อเนื่อง เสียงกระแทกที่สัมผัสกับคราบน้ำต่างๆ ทำให้เธอเกิดความต้องการขึ้นมาอีกหน
เขาเร่งเร้าสะโพกเข้าไปจนพอใจแล้วถอนแท่งลำออกมา ลุกไปคว้ากระดาษทิชชูมาเช็ดคราบออกจากปลายแท่งลำและร่องตรงหน้าของเธอ โยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดีแล้วจับแท่งลำกดเข้าไปอีกครั้งโดยจับเธอตะแคงข้างแล้วคุกเข่างัดขาเข้าไปกระแทกเธออย่างถี่ยิบ
“คุณวิรุต อ๊ะ คุณรุต อื้อ” วิราพรครางกระเส่าแล้วเรียกชื่อเขาเสียงเครือ
“อื้ม ต่อเนื่องนะ ทนหน่อย ผมลงยาก อ๊ะ อื้ม” เขาบอกเธอแล้วกระแทกเข้าไปอย่างไม่ปรานีเพราะอารมณ์ปรารถนาที่รุนแรงของเขา
สักพักเขาก็ขยับไปนอนประกบเธอจากด้านหลัง สอดใส่แท่งลำเข้าไปในท่านอนตะแคงยกขาทำเหมือนแมงมุมกำลังขยุ้มเข้าหากัน
ถึงท่านี้จะเอาแท่งลำเข้าไปได้ไม่สุด แต่ปลายหัวหยักที่ครูดเกาะกับจุดกระสันทำให้วิราพรครางลั่นแล้วครางถี่ๆ เมื่อปิ่มว่าจะถึงเส้นชัย ทำให้วิรุตเร่งขยับแท่งลำเข้าไปอย่างดุดัน แล้วทำให้เธอถึงเส้นชัยเป็นครั้งที่สอง
เขาจับเธอให้คลานคุกเข่าหันหลังให้กับเขาแล้วคุกเข่าประกบจากด้านหลัง สอดใส่แท่งลำลงไป ล็อกสะโพกตอกอัดเข้าไปเต็มแรงจนเธอร้องเสียงหลง ทั้งๆ ที่พึ่งถึงจุดหมายไปแต่เขาก็สามารถทำให้เธอเกิดความต้องการและทำให้ความเสียวแล่นไปทั่วท้องน้อย ต้องการที่จะตัวเบาพร้อมกับเขาในรอบที่สาม
เขากระแทกไปขย้ำสะโพกเธอไปอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะดึงไหล่เธอแล้วคว้าเอาข้อมือของเธอมาดึงไปด้านหลัง ให้เธอเอนตัวไปข้างหน้า ดึงแขนเธอเข้าหาตัวแล้วกระแทกรัวๆ ในท่านั้นจนเกิดเสียงเนื้อตีกันดังกว่าเสียงครางของทั้งคู่
“ไม่ไหวแล้ว อื้อ” เธอครางบอกเขาเสียงสั่นตามแรงกระแทก แล้วครางออกมาเสียงดัง รู้สึกถึงความผ่อนคลายที่ได้รับและน้ำอุ่นข้นที่กระตุกพ่นเข้ามาในร่างกายของเธอในจังหวะที่เธอเกร็งสะโพกตอดรัดมัน
เขาผละออกจากเธอ บนเตียงเต็มไปด้วยคราบของน้ำกามที่เปรอะจนแทบนอนไม่ได้
“คืนนี้เราคงตั้งไปนอนห้องคุณ” เขาบอกเธอแล้วดึงมากอดเอาไว้
“งั้นฉันกลับไปที่ห้องนะคะ” เธอบอกเขาด้วยความเขินอายหลังจากทุกอย่างจบลง
“ยังก่อนสิ ไหนๆ เตียงก็เปื้อนแล้ว ให้มันเปื้อนแค่ห้องนี้แล้วกัน” เขาบอกเธอเสียงพร่าทำให้เธอใจเต้นแรง
เมื่อเขาได้เริ่มแล้วมันก็ยากที่จะจบไปเพียงแค่ไม่กี่รอบ
**********************
ในช่วงสายวันถัดมา รถของวิรุตมาจอดที่หน้าบ้านของอรชร เธอรีบออกมารับลูกสาวของตนเองทันที
วิรุตยกมือไหว้เธอแล้วเริ่มพูดธุระของเขาทันที
“คือผมจะขอรับผิดชอบชื่อเสียงของวิ ตามที่ตกลงไว้” เขาบอกอรชรด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
“ยังไงล่ะ” อรชรถาม ในใจนั้นหวังเงินสักก้อน หรือไม่ก็ให้เขาตัดเธอออกจากการเป็นผู้ค้ำประกันของอดีตสามีที่เอาแต่สร้างปัญหา
“ผมจะคบหากับวิลองดู เราสองคนจะค่อยๆ เรียนรู้กันไป ในฐานะคนรักครับ”
“วิทิ้งของไว้ที่นั่นบางส่วนจ๊ะแม่ วันปกติก็ช่วยแม่อยู่ที่นี่ วันเสาร์อาทิตย์ก็จะไป..นอนบ้านแฟน” เธอบอกมารดาตามที่ตกลงกันเอาไว้กับวิรุต
อรชรมองหน้าสองคนสลับกันไปมาแล้วถอนหายใจ เธอผ่านโลกมามากแล้ว จึงไม่อยากเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้ ถ้าวิราพรพูดแบบนี้ ลูกสาวเธอก็คง ‘โดน’ ไปแล้ว
“อืม แล้วแต่ก็แล้วกัน ยี่สิบหกแล้วนี่ไม่ใช่เด็กๆ” อรชรบอกแล้วยิ้มให้ทั้งคู่
วิรุตหันไปยิ้มให้วิราพร ตอนแรกทั้งสองคนยังเขินกันอยู่มากกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ในตอนเช้าที่นอนกอดกันบนเตียงจึงได้กระชับความสัมพันธ์กันไปอีกรอบ แล้วคุยตกลงกันถึงสถานะและการทดลองคบหาของพวกเขาทั้งคู่
“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีนัดลูกค้าเอาไว้เข้ามา” เขาบอกอรชรอย่างสุภาพแล้วหันไปบอกวิราพรต่อ “ผมกลับนะ วันเสาร์หน้าจะมารับ”
“ค่ะ แล้วอย่าพึ่งปล่อยกู้ใครง่ายๆ อีกล่ะ ให้พี่เอพี่บีตามสืบที่อยู่เขาก่อนว่ามีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ทะเบียนรถอย่ารับค้ำมันตามยาก รับแต่โฉนดที่ดินก็พอ” เธอเตือนเขาด้วยความหวังดี ทำให้วิรุตยิ้มออกมา
เธอมองเขาขึ้นรถขับออกไป ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม
เรื่องราวที่เกิดจากความเพ้อฝันและคิดจะเป็นนางเอกนิยายเจ้าหนี้ลูกหนี้ของเธอประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง ตอนนี้เจ้าหนี้หนุ่มกำลังจะกลายเป็นเจ้าของดวงใจของเธอแล้ว
“หลังจากนี้ไป ฉันจะทำให้เรื่องราวระหว่างเรา มันกลายเป็นความรักให้ได้ ฉันเชื่อว่าคุณต้องมีใจให้ฉันในสักวัน เหมือนตอนนี้ที่ฉันกำลังมีคุณเข้ามาอยู่ในหัวใจ” วิราพรยิ้มกว้างอย่างมั่นใจ
ทุกอย่างระหว่างทั้งคู่มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เชื่อเถอะว่าเธอทำให้เขาเป็นของเธอแล้ว หัวใจเขาก็คงได้มาไม่ยากเช่นกัน
---จบ---