เรื่องที่ 21 ตัดกำลังนักมวย (1/2)

1980 คำ
การแข่งขันมวยในรายการพิเศษ มีเงินรางวัลไม่มากนัก แต่การเดิมพันนั้นสูงลิ่ว เพราะมันเป็นแมตซ์แข่งขันระหว่าง ‘กอบกู้’ นักมวยชื่อดังในจังหวัดที่ไม่เคยมีประวัติการแพ้ กับ ‘เมอซี่’ นักมวยมือสมัครเล่นชาวต่างชาติที่มาท้าชิง เมอซี่มาพักผ่อนที่จังหวัดแห่งนี้ ทันทีที่มาถึงเขาก็เห็นว่ากอบกู้นั้นมีเรื่องกับชาวต่างชาติอีกคนอยู่จึงเข้าไปห้ามเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายใช้ชั้นเชิงมวยในการเล่นงานกับชายต่างชาติคนนั้นคนสะบักสะบอม แล้วยังเล่นงานต่อทั้งๆ ที่ชายคนนั้นก็ยอมแพ้ไปแล้ว ด้วยความที่ถูกกอบกู้ดูถูกคนต่างชาติทุกคนว่าไม่มีฝีมือในการต่อสู้ มวยก็เป็นมวยสากลที่ใช้แค่หมัดเท่านั้น หากเป็นมวยไทยอย่างไรก็แพ้ตน เมอซี่ที่เป็นนักมวยสมัครเล่นจึงขอท้าชิงกับเขาในตอนนั้น ทำให้กลายเป็นการท้าชิงในรายการพิเศษ โดยมีคนดังระดับจังหวัดวางเดิมพันในส่วนของกอบกู้สูงมาก ยกเว้น ‘สามชาย’ เขาเป็นคนดังในจังหวัดคนเดียวที่เดิมพันข้างเมอซี่ ร่วมกับชาวต่างชาติที่ทุกคนก็ส่งแรงใจวางเดิมพันข้างเมอซี่ในครั้งนี้เช่นกัน “มันไม่มีวันชนะกูหรอก” กอบกู้พูดขึ้นกับพี่เลี้ยงนักมวยของตน ขณะฝึกซ้อมเบาๆ “อย่าประมาทนะ ถึงมันเป็นแค่นักมวยสมัครเล่น แต่มันก็ตัวใหญ่กว่า กล้ามเนื้อแน่นกว่าแบบนั้น โอกาสชนะก็มีอยู่” ศรชัยบอกแก่เขาไม่ให้ประมาท “พี่ก็รู้ว่าผมมีวิธีตัดกำลังคู่แข่งด้วยวิธีไหน จะห่วงไปทำไม ยิ่งไอ้ฝรั่งนั้น เอาผู้หญิงไปรีดพิษก่อนวันแข่งยังไงก็ขาอ่อน อย่าลืมสิว่าเราชนะด้วยวิธีไหนเวลาที่ต้องรับมือกับแมตซ์ยากๆ” กอบกู้พูดแล้วหยุดซ้อมต่อ เขาถอดนวมแล้วกระโดดลงจากสังเวียนซ้อมไป “ไม่ซ้อมก่อนเหรอ อีกสามวันก็จะแข่งแล้วนะ” “ไม่ซ้อมให้เปลืองแรงหรอก จะไปซ้อมเอวหน่อย รีดพิษก่อนสามวันสมองจะได้โล่งๆ อีกอย่างต้องไปเตรียมหาคนไปจัดการไอ้ฝรั่งนั้นด้วย” กอบกู้พูดอย่างไม่ไยดีแล้วเดินไป ศรชัยส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ที่นักมวยที่ตนดูแลอยู่นั้นดื้อรั้น ไม่เชื่อฟัง ที่ผ่านมาเขาเก่งมากก็จริง ชั้นเชิงมวยก็ไม่มีใครเทียบ แต่เพราะกลัวความพ่ายแพ้ช่วงหลังจึงใช้วิธีสกปรกเล่นงานคู่ต่อสู้ โดยการจ้างให้ผู้หญิงไปจัดการ ‘รีดพิษ’ คู่แข่งของตนก่อนวันขึ้นชก “ครั้งนี้ก็ขอให้แกทำสำเร็จก็แล้วกัน” ศรชัยพึมพำราวกับประชดกับเรื่องที่กอบกู้ทำ ********************** กอบกู้ตรงไปยังสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เขาชอบไป ในนั้นเขามองหาเมอซี่เพราะตั้งคู่พบกันครั้งแรกที่นี่ตอนที่เกิดเรื่องชกต่อยกับชาวต่างชาติคนหนึ่ง สาเหตุเพราะอีกฝ่ายเรียกใช้บริการหญิงสาวคู่ขาคนโปรดของตนไป สายตาหลายคู่มองไปยังกอบกู้เพราะเขาเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการมวยที่กำลังก้าวเข้าสู่ระดับประเทศ รวมไปถึงคนต่างชาติที่มองเขา ไม่ใช่รู้จักว่าเป็นนักมวยชื่อดัง แต่เพราะเขาเคยดูถูกคนต่างชาติจนเกิดการท้าชกต่อยกันขึ้น นักมวยหนุ่มเหยียดยิ้มและมองชาวต่างชาติรอบๆ ตัวด้วยความรู้สึกดูถูกและเหยียดหยันว่าพวกนั้นไม่ได้มีความสามารถเทียบเท่าตนเลยสักนิด “ครีมอยู่ไหม” กอบกู้ถามหาคู่ขาของตน “ครีมนั่งอยู่กับลูกค้าคนอื่น สนใจอยากคุยกับสาวๆ คนอื่นก่อนหรือเปล่าคะ” เจ้าของร้านพูดด้วยความสุภาพ “ไปตามครีมมาให้ผม ผมต้องการครีมแค่คนเดียว” กอบกู้ยืนยันวัตถุประสงค์ของเขา เจ้าของร้านไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นเหมือนคราวที่แล้ว ที่มีการแย่งผู้หญิงกันจนเกิดการชกต่อยเป็นเรื่องเป็นราว จึงพาเด็กสาวอีกคนที่ร้านไปให้กับลูกค้าชาวต่างชาติแทน ครีมมาหากอบกู้แล้วยิ้มหวานให้แก่เขา “พี่อยากดื่มอะไรคะวันนี้มีโปรเหล้าด้วย” “ไม่ดื่มจะออกไปข้างนอก” “แต่ครีมยังทำงานอยู่เลยนะคะ” หญิงสาวทำท่าทีบ่ายเบี่ยง กอบกู้จึงดึงแขนเธอไปหาเจ้าของร้านพร้อมกับจ่ายให้สามพันเป็นค่าเสียเวลา เพื่อพาตัวเธอออกไปข้างนอกด้วยกัน เจ้าของร้านเห็นว่าเขามีผู้อิทธิพลหนุนหลังพอสมควรและเห็นว่าให้เงินค่าเสียเวลามาแล้วจึงต้องยอมปล่อยให้เด็กในร้านของตนไปกับเขาเพื่อตัดปัญหา เมื่ออยู่กันสองคนแล้วกอบกู้ก็ยื่นเงินสดจำนวนหนึ่งให้กับเธอ “พี่มีอะไรจะให้ครีมช่วย” “จะให้ครีมช่วยอะไรคะ” หญิงสาวถามทั้งๆ ที่รู้คำตอบในใจอยู่แล้ว “จำไอ้เมอซี่ได้ไหม ที่มันจะท้าต่อยกับพี่” “อีกแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเอือมระอา เพราะรู้ว่าตนต้องไปทำอะไรให้กับเขา “ใช่ อีกสามวันจะมีการชก ดังนั้นก่อนวันชกครีมต้องไปจัดการเรื่องนี้ให้พี่” “แต่ผู้ชายคนนั้นครีมจำได้ว่าเขามาที่ร้านไม่ได้เรียกใครไปนั่งด้วยเลย ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่ชอบผู้หญิงไทยก็ได้” “ไม่ชอบก็หาวิธีทำให้เขาชอบสิ” กอบกู้พูดเสร็จก็เปิดกระเป๋าเงินหยิบซองเล็กๆ ที่ด้านในมียาอะไรบางอย่างมอบให้แก่เธอ “เอาให้มันกินแล้วจัดการมันให้ได้” “คราวนี้ต้องใช้ยาด้วยเหรอพี่” “กันพลาดไว้ก่อน” เขาพูดแล้วยกยิ้มอย่างมีเล่ห์ร้าย ครีมจึงต้องรับยานั้นมากำเอาไว้ในมือ เธอจำเป็นต้องรับงานนี้ เพราะนอกจากว่าเขาจะจ่ายหนักแล้ว ถ้าเธอไม่ทำก็อาจจะเจ็บตัวอีกด้วย ********************** สามชายพาตัวเมอซี่มาซ้อมมวยที่ยิมส่วนตัวของเขา แล้วจ้างให้มีเทรนเนอร์นักมวยชื่อดังมาสอนแม่ไม้มวยไทยให้กับหนุ่มตาน้ำข้าว “แค่สามวันจะพอเหรอครับเสี่ย” “สามวันก็พอแล้ว อย่างน้อยก็ให้เขารู้จักวิธีการหลบหลีกและแนวการเตะต่อยก็เท่านั้น ฉันเชื่อว่าครั้งนี้ต้องมีคนล้มไอ้กอบกู้มันได้” “แต่ว่าเสี่ยอย่าลืมนะครับว่าไอ้หมอนั่นมันมีลูกไม้อะไรบางอย่าง ผมไม่มั่นใจว่ามันทำอะไรแต่ว่าการที่มันไม่เคยแพ้เลยสักยกผมว่ามันแปลก เรื่องเก่งผมก็ยอมรับว่าเก่ง แต่ก็ไม่เคยพลาดสักยกมันก็เป็นไปได้ยากอยู่เหมือนกัน” เทรนเนอร์พูดขึ้นมาอย่างเป็นกังวล “ไม่เป็นไรครับ ผมคิดว่าสามวันก็น่าจะพอ ผมไม่ได้หวังจะเอาชนะเพื่อรางวัลหรอก แต่ผมอยากกู้ศักดิ์ศรีของชาวต่างชาติที่เขาเคยดูถูกเอาไว้ เรื่องมวยผมคิดว่าหมัดของผมก็หนักพอตัวอยู่ ยกเว้นแต่เรื่องเตะที่ผมยังไม่รู้จังหวะเท่าไร” เมอซี่พูดขึ้นมาด้วยภาษาไทยหลังจากที่นั่งฟังอยู่นานแล้ว “พูดไทยได้ของดี ฉันก็นึกว่าพูดไม่ได้ ดีๆ จะได้คุยกันง่าย” “ภรรยาใหม่ของพ่อผมเป็นคนไทยครับ เธอเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กและสอนภาษาไทยให้ผม” เขาพูดแล้วหันไปมองเทรนเนอร์เป็นเชิงว่าให้ซ้อมให้เขาได้แล้ว “ไปซ้อมเถอะ เมอซี่ดูท่าทางจะใจร้อนน่าดู” สามชายพูดแล้วหัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจ เขาคิดว่าดูคนไม่ผิด คนที่มีความตั้งใจอยากจะเอาชนะเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของตนเองนั้นมันเป็นแรงผลักดันที่ดีเลยทีเดียว “ในระหว่างนี้นายก็พักที่บ้านของฉันเลย เพราะเชื่อเถอะว่าไอ้กอบกู้มันต้องใช้วิธีสกปรกอย่างที่ฉันคิดแน่” “วิธีอะไรเหรอครับ” เมอซี่ถามอย่างไม่เข้าใจ “วงการมวยเขาเรียกวิธีนี้ว่าวิธี ‘รีดพิษ’ เป็นการตัดกำลังนักมวยก่อนขึ้นชก” สามชายพูดอย่างที่เขาคาดเดา เทรนเนอร์ที่ยืนฟังอยู่ก็พยักหน้าแล้วคิดตามไปด้วย “มิน่าล่ะ ที่ชนะทุกแมตช์ก็มีแผนอย่างนี้นี่เอง” “ฉันก็ไม่มั่นใจหรอก แต่ฉันคิดว่ามันคงใช้วิธีนี้แหละ เพราะดูจากคู่ต่อสู้ของมันแต่ละคน แล้วจากที่เป็นคนเคยมีจังหวะดีด พอถึงวันกับแข่งขาอ่อน เตะไม่แรง เตะไม่กี่ทีก็ขาสั่นแล้ว แบบนี้ฉันก็พอดูออกว่าเกิดอะไรขึ้น” สามชายที่อยู่ในวงการมวยมานานวิเคราะห์ขึ้นอย่างมีเหตุผล เมอซี่ตอนแรกยังไม่เข้าใจว่ารีดพิษคืออะไร แต่ว่าถ้าพูดถึงเรื่องแข้งขาสั่นแล้วเขาก็ปะติดปะต่อได้ไม่ยากว่าที่สามใช้พูดนั้นหมายถึงอะไร “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอยู่ที่โรงแรมตามเดิมดีแล้ว อีกอย่างหนึ่งผมคิดว่าผมคงไม่หลงกลวิธีกระจอกแบบนั้นแน่” เขาพูดอย่างมั่นใจก่อนที่จะเดินไปซ้อมกับเทรนเนอร์ที่สามชายหามาให้ ********************** ในวันแรกเมอซี่ฝึกซ้อมเป็นอย่างหนัก เขาเตะกระสอบทรายในจังหวะที่ถูกฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี รวมถึงจังหวะการตีการปล่อยหมัดรวมทั้งการหลบการป้องกัน เรียนรู้ทุกอย่างที่เป็นพื้นฐานของมวยไทย “พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว จะซ้อมหนักก็ไม่ได้เพราะว่าอาจจะเสียพละกำลัง ดังนั้นวันนี้คุณต้องซ้อมให้หนักแล้วพรุ่งนี้วอร์มเบาๆ ก็พอ” เทรนเนอร์อธิบายแก่เขา เมอซี่พยักหน้ารับทราบอย่างเข้าใจแล้วซ้อมต่อไปอย่างหนักหน่วง ลูกเตะของเขาหนักพอควรทำให้เทรนเนอร์หันไปมองกับสามชายว่าบางทีเมอซี่มีความเป็นไปได้ว่าจะเอาชนะกอบกู้ได้ วันที่สองก็ซ้อมเบาๆ เป็นการซ้อมวิธีหลบลีกคู่ต่อสู้และการรับหมัด วิธีสวนหมัดขณะถูกรุกเข้ามา ทำให้สามชายรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เดิมเขามีพื้นฐานอยู่แล้วพอได้รับการฝึกฝนเขาก็ดูมีทักษะเพิ่มขึ้นมาอีก ดูพื้นฐานมากกว่าเป็นนักมวยสมัครเล่น “หมัดหนักดีนี่เมอซี่ ทำไมได้เป็นแค่นักมวยมือสมัครเล่นล่ะ ระดับนายเป็นนักมวยอาชีพได้เลยนะ” “ผมแค่ทำเป็นงานอดิเรก ก็เลยไม่ได้จริงจังอะไร” เมอซี่พูดแล้วเตะกระสอบทรายหนักจนคานที่แขวนสะเทือน “พอก่อน พอก่อน ยิมฉันจะพังแล้ว” สามชายพูดทีเล่นทีจริงแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ “ไม่พังแค่ยิมนะครับเสี่ย กระสอบทรายดูเหมือนว่าใกล้จะขาดแล้วด้วย หมัดหนักเท้าหนักขนาดนี้ผมว่าโอกาสสูงที่จะเอาชนะกอบกู้ได้” เทรนเนอร์พูดเอาใจสามชายในสิ่งที่ก็เห็นกันอยู่ “ก็แน่ล่ะสิ ฉันให้คนไปสืบแล้วไอ้นั่นมันไม่ซ้อมเลย คงชะล่าใจและมีแผนที่จะตัดกำลังของเมอซี่ วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะ พรุ่งนี้ก็ต้องขึ้นชก คืนนี้ห้ามออกจากห้องไปไหนเด็ดขาดรู้หรือเปล่า อย่าให้มันทำอะไรนายได้” “ไม่ต้องห่วงหรอกครับผมดูแลตัวเองได้” เมอซี่บอกแล้วเตะกระสอบทรายสุดแรงทำให้กระสอบทรายนั้นปริออกมาแล้วมีทรายร่วงลงมาที่พื้น สามชายปรบมือด้วยความชอบใจ ในขณะที่เทรนเนอร์ยิ้มกว้างอย่างพอใจกับผลงานการสอนของตน **********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม