Chapter 3 ขึ้นขี่
หวงซูเยี่ยนเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรงก่อนจะกลั้นใจคว้าหมับจับซากหนอนตายเอาไว้เต็มมือ พะอืดพะอมรู้สึกแขยงมือจนแทบจะชักมือกลับ แต่ก็ต้องฝืนทนแล้วค่อยๆ กำมันเอาไว้แล้วรูดมือขึ้นลงไปมาด้วยท่าทางเงอะเงิ่นไม่ประสา
“ใช่แบบนี้หรือเปล่านะ”
นางบ่นพึมพำแผ่วเบา คิ้วสวยขมวดเข้าหากันจนแทบผูกเป็นปม จมูกเชิดรั้นย่นขึ้นน้อยๆ อีกทั้งยังมีเหงื่อเกาะพราวที่บริเวณหน้าผากเป็นวงใหญ่คล้ายจะหยาดหยดลงมาแทบทุกขณะ ฉายชัดว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่นางปรามาสเอาในตอนต้นเลยแม้แต่น้อย
“ดะ...ได้แล้ว”
นางเปล่งเสียงออกมาคล้ายยินดี เมื่อมือเล็กเรียวของนางสามารถปลุกซากหนอนตายให้กลับมามีชีวิต มันค่อยๆ อวบอ้วนขึ้นทีละน้อย ก่อนจะขยายใหญ่กลายเป็นท่อนเอ็นยักษ์เบียดแน่นจนนิ้วมือไม่อาจกำได้รอบ
“ยะ...ใหญ่จัง ละแล้วเจ้าสิ่งนี้ต้องเข้าไปในร่างกายของข้างั้นหรือ”
นักฆ่าสาวที่มือเปื้อนเลือดแต่ไม่เคยเปื้อนน้ำคาวถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นกลัว ยิ่งเห็นท่อนเอ็นสีชมพูระเรื่อพองใหญ่จนเส้นเลือดปูดโปนไปตามลำเอ็น อีกทั้งปลายหัวหยักยังสามารถขยับได้นั่นอีกเล่า
นะ...นี่มันเหมือนปีศาจร้ายชัดๆ ปีศาจที่แปลงกายได้ จากซากหนอนตายกลายเป็นงูยักษ์น่าหวาดหวั่น
“แล้วข้าต้องทำอย่างไรต่อ”
หญิงสาวมีท่าทางกระวนกระวายใจ ก่อนจะกำมันแน่นแล้วรูดขึ้นรูดลงแรงๆ จนคนเมาไม่ได้สติถึงกับส่งเสียงร้อง
“โอ๊ย!”
“อุ๊ย!”
ซูเยี่ยนรีบชักมือกลับถอยหลังกรูดจนแผ่นหลังชิดผนังอีกด้านหนึ่งด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าคนเมาเพียงแค่ละเมอครางออกมาด้วยความเจ็บ ซึ่งเป็นปฏิกิริยากึ่งฝันกึ่งความเป็นจริงที่คนเมาไม่อาจแยกแยะ นางก็ถึงกับเป่าลมออกจากปากแล้วสาวเท้ากลับไปยืนอยู่ข้างเตียงดังเดิม
“ต้องสอดใส่สินะ จะได้จบๆ ไป”
นางพึมพำกับตนเอง ก่อนจะกลั้นใจถลกกระโปรงขึ้นสูงแล้วดึงกางเกงสีขาวชั้นในออกเผยให้เห็นโหนกนูนอวบอัดที่ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน
มันทั้งโหนก ทั้งขาว สองกลีบอวบแน่น มีขนอ่อนเป็นสีน้ำตาลรำไรปกคลุมเนินหนันแห่งสตรีเพศเอาไว้อย่างเย้ายวน ซูเยี่ยนขึ้นไปยืนบนเตียงโดยคร่อมร่างหลับใหลเอาไว้
“เจ้าหนอนหน้าตาน่าเกลียดอ่อนตัวลงแล้ว ต้องทำให้แข็งขึ้นอีกครั้งถึงจะสอดใส่ได้สินะ”
นางก้มลงแล้วใช้มือกุมเอาไว้คล้ายจะแน่นแต่ผ่อนคลายไม่ได้บีบรัดอย่างในตอนแรก แล้วค่อยๆ รูดขึ้นรูดลงอย่างเบามือเป็นจังหวะเนิบช้า ครานี้มันขยายใหญ่กว่าในคราวแรกอย่างเห็นได้ชัด
“พอขยายใหญ่ได้ที่ก็สอดใส่แล้วขย่มให้น้ำแตกออกมา”
นักฆ่าสาวพึมพำราวกับท่องตำรา ก่อนจะค่อยๆ ย่อกายกดสะโพกลงโดยใช้มือจับท่อนเอ็นอุ่นให้ตั้งชี้จ่อมาที่รูสวาท ทันทีที่ปลายหัวหยักจ่อเสียดเบียดเข้ามาในปากทางสตรีที่แสนคับแคบ ซูเยี่ยนก็ถึงกับนิ่วหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด
“อื้อ! จะ! เจ็บ!”
แม้จะเจ็บแต่นางก็พยายามฝืนทน ข่มสะโพกกดลงไปยังแท่งทวน แต่ด้วยความที่รูสวาททั้งฝืดแห้ง ทั้งคับแน่น ท่อนเอ็นจึงไม่สามารถดุนดันเข้าไปได้อย่างที่ควรจะเป็น อีกทั้งความใหญ่ยังทำให้นางเจ็บจนน้ำตาร่วงเผาะ
“มะ...ไม่ไหวแล้ว เจ็บจัง”
นางกระดกก้นยกสูงราวกับท่อนเอ็นเป็นของร้อนที่ควรหลีกหนี ถอยกรูดลงมายืนอยู่ข้างเตียงด้วยท่าทางจนปัญญา ใบหน้าแดงก่ำคล้ายจะร้องไห้อยู่ในที แม้จะล่วงเลยมาจนอายุสิบแปดหนาวแล้วแต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่นางรู้สึกว่าตนเองอับจนปัญญาถึงเพียงนี้
“ทำไมมันยากนักนะ แค่สอดใส่แล้วชักเข้าชักออกมิใช่หรือ แต่พอทำจริงๆ มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เลย หรือว่าข้าทำอะไรผิดไป”
นางเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วโดยวนเวียนอยู่ภายในห้องรับแขกของหญิงคณิกา ก่อนจะคว้าไหสุรายกขึ้นมากรอกใส่ปาก
อึก อึก อึก
เสียงกลืนสุราดังอึกใหญ่ฉายชัดว่านางกำลังใช้สุราย้อมใจ ปลุกความกล้า สร้างความฮึกเหิมให้กับตนเอง
“ลองอีกที เรื่องง่ายๆ แค่นี้มนุษย์หน้าไหนก็ล้วนทำได้ ข้าเป็นถึงศิษย์มือดีอันดับต้นๆ ของพรรคมาร เรื่องแค่นี้ไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรง”
หลังจากพูดปลุกใจ นางก็กระโดดขึ้นไปบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมทับลงบนร่างสูงอีกครั้ง จ่อรูสวาทบดลงไปยังแท่งทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปลายหัวหยักเข้าไปได้เพียงน้อยนิด น้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็ถึงกับไหลพรากออกมาเป็นสาย
“เจ็บ!”
นางจำต้องถอยออกมา สองมือกุมโหนกตัวเองเอาไว้ด้วยความเจ็บและแสบ คุดคู้นั่งลงไปกับพื้นจนตัวงอ รู้สึกสมเพชตัวเองเหลือกำลัง นางค่อยๆ ยืนขึ้นหมายจะดื่มสุราย้อมใจอีกรอบทว่าดวงตาเหลือบไปเห็นห่อกระดาษที่หลิงเสียมอบเอาไว้ให้
‘ข้ารู้ว่าเรื่องแค่นี้ท่านสามารถจัดการได้โดยง่าย แต่ได้โปรดรับสิ่งนี้ไว้เถอะเจ้าค่ะ เพราะมันอาจทำให้ท่านจัดการอะไรๆ ได้ง่ายขึ้นอีกหลายส่วนนัก นำยาลูกกลอนในห่อนี้ยัดใส่ปากชายหนุ่มผู้นั้นเพียงครั้งละหนึ่งเม็ด ทีนี้เรื่องอะไรที่ยากก็จะง่ายขึ้นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ’
คำพูดของหลิงเสียผุดขึ้นมาในห้วงแห่งความคิด หวงซูเยี่ยนยื่นมือไปคว้าห่อยาขึ้นมาแล้วรีบคลี่ห่อยาออก หยิบลูกกลอนสีน้ำตาลเข้มขึ้นเพ่งมองอย่างพินิจพิจารณา
เจ้ายาตัวนี้มันช่วยเรื่องอะไร แล้วจะทำให้เรื่องนี้มันง่ายได้อย่างไร นางก็ไม่ได้ถามหลิงเสียให้กระจ่างชัดเสียด้วย แต่ถ้ามัวแต่สงสัยแล้วไม่รีบจัดการอะไรสักอย่าง โอกาสดีเช่นนี้อาจหลุดลอยไป นางมีเวลาไม่มากนักจำต้องตัดสินใจโดยเร่งด่วนที่สุด
เมื่อคิดได้ดังนั้นนักฆ่าสาวแห่งพรรคมารก็เดินไปบีบริมฝีปากหนาได้รูปของชายหนุ่มให้อ้าออก แล้วจัดการยัดยาลูกกลอนเม็ดสีน้ำตาลลงไปอย่างไม่ลังเล
จากนั้นนางจึงยืนมองด้วยใจลุ้นระทึก สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคนตัวโต เขามีอาการกระสับกระส่ายคล้ายไม่สบายตัว ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นแล้วมองมาที่นางโดยไม่ยอมละสายตา