ตอนที่ 2 พลาสเตอร์สีหวาน
ฉันพยายามชะเง้อมองดูเหตุการณ์ด้านนอกกระจก แต่ทว่าเริ่มมีไทยมุงเข้ามามุงดูเป็นจำนวนมากทำให้ฉันมองหน้าผู้ชายที่เป็นฮีโร่คนนั้นไม่ถนัด เสียงฮือฮาจากคนรอบข้างที่บอกว่าเด็กชายไม่เป็นอะไร ทำให้ฉันถึงกับถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งอกเมื่อรู้ว่าทั้งชายปริศนาและเด็กน้อยคนนั้นปลอดภัย
เมื่อสถานการณ์กลับมาสู่สภาวะปกติไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ รถเริ่มสัญจรไปมาตามปกติ พอ ๆ กับที่ฉันทำผมเสร็จพอดีฉันเลยรีบข้อตัวออกจากร้านเพราะน่าจะใกล้ถึงเวลานัดพอดิบพอดี
หวังว่าหมอนั่น หมายถึงคู่นัดบอดของฉันน่ะ อย่างน้อยเขาควรมาก่อนเวลานัด
ฉันสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองก่อนผลักประตูร้านเข้าไป
ผิดคาด...ในขณะที่ฉันมาถึงเวลานัดพอดิบพอดี แต่หมอนั่นกลับยังมาไม่ถึง นี่มันอะไรกันพระเจ้า! ฉันเดินมานั่งโต๊ะที่ถูกจองเอาไว้ด้วยความรู้สึกหงุดหงิด คือ...ฉันเข้าใจได้แหละ ว่าหมอนั่นก็คงโดนบังคับและคงไม่อยากมานัดบอดในครั้งนี้ แต่ก็นะ...ในเมื่อมีการนัดหมายกันแล้ว อย่างน้อยตามมารยาทเขาก็ควรต้องมาเป็นพิธี หรืออย่างน้อยถ้าเขาตกลงว่าจะมาดูตัวกับฉันแล้ว เขาก็ควรต้องมาก่อนเวลานัดสิ นี่มันอะไรกัน!
นาทีนี้เป็นฉันเองที่ไม่ประทับใจการนัดบอดครั้งนี้ ซึ่งความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้พอใจตั้งแต่แรกที่คุณพ่อคุณแม่บอกนะแหละ แต่เมื่อมองนาฬิกาเหมือนจะเลยเวลาเกือบสิบนาที ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น
“ถ้าจะมาสายขนาดนี้ คงไม่มาแล้วแหละมั๊ง”
“น้องคะ เก็บเงินด้วยค่ะ” ในที่สุดความอดทนฉันก็มีสิ้นสุดเพราะนี่เลยเวลาไปแล้วเกือบสิบนาที รู้สึกเหมือนตัวเองโดนคู่นัดบอดเททั้งที่ยังไม่ทันเห็นหน้าอย่างไงอย่างงั้น
แต่ก็ช่างเถอะในเมื่อเขาเป็นฝ่ายผิดนัด ก็เท่ากับเขาเป็นฝ่ายยกเลิกการนัดบอดในครั้งนี้ ดีซะอีกฉันจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับคนแปลกหน้าอย่างเขา ฉันรีบหยิบกระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่...
“เดี๋ยวครับ” เสียงทุ้มนุ่มของชายเชิ้ตสีขาวใบหน้าหล่อเหลาราวกับพระเอกซีรีส์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉัน ทำเอาฉันเผลออ้าปากค้าง แต่นี่.... ฉันสาบานได้ว่าไม่เคยรู้จักผู้ชายหล่อ ๆ ขนาดนี้มาก่อนแน่ หากประเมินจากสายตา เขาน่าจะสูงถึงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรด้วยซ้ำ หุ่นคือแบบโคตรดีอะ
“ผมภีมม์ที่นัดพบคุณวันนี้”
“หา...”
ฉันอึ้งไปเล็กน้อยที่คนที่ฉันนัดบอดเอาไว้คือผู้ชายคนนี้ คือความหล่อของเขาออร่าจนเหมือนฉันรู้สึกแสบตา เขาหล่อแบบนายแบบ หล่อแบบดารา หล่อแบบตะโกน ใช่ฉันอยากจะตะโกนกรี๊ดออกมาดัง ๆ แต่ต้องทำเป็นเก็บอาการ คิดดูขนาดแค่ฉันเผลอสบตากับนัยน์ตาคมสีน้ำตาลเข้มของเขาแค่นิดเดียว รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะขึ้นมาอย่างไงอย่างงั้น ยิ่งเมื่อเผลอพิจารณาไล่สายตาไปตามกรอบใบหน้าคมผิวขาวละเอียด จมูกโด่งเป็นสัน รวมถึงริมฝีปากรอยหยักที่ยิ้มเล็กน้อยที่กำลังยิ้มทักทายให้กับฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกเคลิ้มเฉย
แต่ก็นะ...ความหล่อของเขา ชดใช้ความผิดที่เขามาสายไม่ได้
“อ่อค่ะ แต่คุณมาสายไปสิบนาที ไม่สิสิบห้านาทีจากเวลานัด” ฉันรีบยกข้อมือที่สวมนาฬิกาให้เขาดู เพราะถึงต่อให้เขาดูหล่อและดูดีมากก็ตามเถอะ แต่การนัดบอดแบบนี้เขาควรต้องให้ความสำคัญ ไม่ใช่ให้ฝ่ายหญิงแบบฉันต้องมารอ
“ขอโทษที่มาช้านะครับพอดีผมเกิดเอ็กซิเดนท์นิดหน่อย”
เขาโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงขออภัย
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก เขาดูค่อนข้างเป็นคนสุภาพและจัดว่าดูดีมากคนหนึ่ง จะผิดก็แต่การแต่งตัวที่ดูเหมือนไม่ค่อยเรียบร้อยสำหรับการนัดบอดแบบนี้ ปกติการนัดบอดทั่วไปผู้ชายควรจะใส่เสื้อสูทและแต่งตัวกันมาค่อนข้างเนี๊ยบ แต่กลับผู้ชายคนนี้เขากลับเลือกใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดา อืมแต่ก็นะ...ไหน ๆ เขาก็มาแล้วลองให้โอกาสคุย ๆ ดูก่อนคงไม่เสียหายอะไร
งั้นก็…
“โอเคค่ะ งั้นเชิญนั่งก่อนสิคะ”
“ขอบคุณครับ”
“คุณจะสั่งเครื่องดื่มอะไรดีคะ” ฉันส่งเมนูอาหารให้กับเขา ก่อนจะสังเกตเห็นแผลถลอกที่หลังมือของเขาที่มีเลือดออกซิบ ๆ นี่นะเหรอที่เขาบอกว่าเพิ่งเกิดเอ็กซิเดนท์มา
“หลังมือของคุณมีเลือดออก ฉันมีพลาสเตอร์ยาค่ะ”
แผลของเขาที่เหมือนคนที่เพิ่งไปล้างมือมาใหม่ ๆ เพราะแทบไม่มีรอยฝุ่นติดหลงเหลืออยู่ แสดงว่าเขาอาจจะไปล้างแผลที่ห้องน้ำก่อนเข้ามาตามนัด
เฮ้อ...ไอ้เราก็หลงเข้าใจผิดไปเองว่าเขาไม่รักษาเวลา
“ไม่เป็นไรครับ” เขาตอบเสียงสุภาพ แต่ฉันไม่ได้สนใจฟังมัวแต่ควานหาพลาสเตอร์ยาในกระเป๋าถือก่อนจะหยิบมันออกมา
“ติดไว้หน่อยก็ดีค่ะ กันเชื้อโรคยื่นหลังมือมาสิคะ”
เขายื่นหลังมือออกมาให้ฉันอย่างลังเล อยากจะบอกว่าผิวผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ผิวดีเป็นบ้า นี่ถ้าบอกว่าเป็นผิวผู้หญิงฉันก็เชื่อ...ว่าแต่ เขาไม่ใช่เกย์ ใช่ไหมเนี่ย
“อาค่ะ เรียบร้อย” ฉันเงยหน้าก่อนส่งยิ้มให้เขา แม้จะดูขัดตานิดหน่อยที่พลาสเตอร์ยานั่นสีค่อนข้างหวานแต่ติดอยู่บนหลังมือผู้ชาย
แต่ไม่เป็นไรหรอก ดู ๆ ไปก็น่ารักดี
“ขอบคุณครับ” เขามองพลาสเตอร์บนหลังมือของตัวเองอย่างอึ้ง ๆ ฉันเดาว่าเขาคงดูเขิน ๆ นิดหน่อยแต่ไม่กล้าปฏิเสธ
ก่อนที่เราจะสั่งเครื่องดื่มกันใหม่อีกรอบรวมทั้งฉันด้วย เพราะรอบแรกฉันจ่ายเงินไปแล้วเรียบร้อย
“ว่าแต่...คุณโอเคไหมสำหรับการนัดบอดของเราในวันนี้ หมายถึง...เออเรื่องที่ผมมาสาย”
“เออฉัน...ไม่ติดอะไรนี่ค่ะ”
บ้าจริงโรคแพ้คนหล่อกำเริบ จากที่ฉันตั้งใจจะปฏิเสธเพราะเห็นว่าเขามาสาย แต่ปากเจ้ากรรมของฉันทำไมถึงพูดอะไรออกแบบนี้อยากหยิกแขนตัวเองชะมัด