หร่วนอิ๋งซุยไม่ได้โง่ ถึงนางเป็นคนใจร้อน แต่ก็มีความคิดเป็นของตัวเอง และคำพูดของฉางซุนไท่หยางประโยคนั้นย่อมมีนัยแฝง ‘เขาอันตราย แม่นางหร่วนมีสิทธิ์ไม่เชื่อข้า แต่ไม่ช้าก็เร็ว เจ้าจะรู้ว่าสิ่งที่ข้าพูดไม่ใช่การใส่ร้าย’ แม้ฉางซุนไท่หยางจะพูดเช่นนั้น นางไม่อาจแกล้งปฏิเสธได้ทันทีหรอกว่าระหว่างเขากับเสวี่ยมีใบหน้าละหม้ายคล้ายกันมากแค่ไหน หากบอกว่าพวกเขาคลานตามออกมาจากท้องเดียวกัน นางก็เชื่อทันที แต่...เวลานี้จะเก็บเรื่องระหว่างพวกเขามาใส่ใจมากเกินไปก็ใช่เหตุ ดังนั้น นางจึงลุกขึ้น ย่อกายเล็กน้อยเพื่อแสดงความมีมารยาทของเจ้าบ้านให้กับฉางซุนไท่หยาง ก่อนจะเดินออกมาส่งเขาที่หน้าประตู เมื่อประมุขฉางซุนเดินออกจากห้องโถง ซุ่นเหยากวานก็เดินเข้ามาราวกับคำนวณเวลาไว้ “คุณหนู...?” หร่วนอิ๋งซุยเข้าใจว่าซุ่นเหยากวานกำลังจะพูดอะไร เขาเลี้ยงดูนางมาตั้งแต่เล็ก สำหรับเรื่องของนาง ไม่มีเรื่องใดที่เขาคาดเดาไม่