ผมกลับขึ้นมาทำงานโดยมีขนมคอยเดินตามเพราะเธอต้องเรียนกับผม แต่ก็นะเธอคุยเก่งคนไข้ชอบเธอทุกคนเลยมันดีนะเวลาคนไข้เจอผมจะได้ไม่เครียดเพราะมีตัวยุ่งอยู่ข้างๆ
“คุณยายขาตอนนี้ดีขึ้นไหมคะ ยังเจ็บหน้าอกอยู่หรือเปล่า”
“ดีขึ้นแล้วค่ะคุณหมอ เมื่อวานไปไหนมาคะยายไม่เห็นเลย”
“เมื่อวานหนูไปช่วยงานพี่ชายค่ะ วันนี้คิดถึงคุณยายเลยรีบมาหา”
“คุณยายครับช่วงนี้อย่ายกของหนักนะครับอาการเบื้องต้นคุณยายแค่เสี่ยงเป็นโรคหัวใจแต่ก็ต้องตรวจให้ละเอียดอีกที ถ้ามีอาการเหนื่อย แน่นหน้าอกต้องรีบมาหาหมอนะครับ เดี๋ยววันนี้ดูอาการอีกวันนึงถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ครับ”
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ”
“ครับ ไปขนมเดี๋ยวพี่พาไปดูเคสที่ผ่าตัดแล้ว”
“ค่ะ”
ผมพาขนมมายังห้องพักฟื้นเธอดูให้ความสนใจมากขึ้นเพราะได้เริ่มปฏิบัติงานจริงแล้ว ความตั้งใจเอาไป7คะแนนเพราะห่วงคุยกับคนเฝ้าไข้ดูไม่ออกหรือไงว่ามันหยอดขนมหวาน ชิ!
“ไม่ค่อยเห็นคุณหมอขนมเลยนะครับ”
“หมอขนมมีงานต้องทำครับ”
“แล้วพี่มาตอบแทนหนูทำไมคะ” ฉันหันไปมองคนข้างๆที่มองดูชาร์จในมือ อะไรของเขาเนอะ
“ถึงว่าผมไม่เห็นเลย ไว้เย็นนี้ผมขอเลี้ยงขนมอีกวันนะครับ รอบก่อนคุณหมอรีบกลับยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย”
“ขนมไปเถอะมีเคสต้องไปดู”
“เดี๋ยวสิคะยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย ยังไงทักมานะคะคุณธีร์”
“ครับ”
อะไรเคยนัดกันด้วยแถมไอ้หน้าตี๋มันยังยักคิ้วให้ผมอีก คืออะไรผมเนี่ยเป็นอะไรชีพจรลงขาอยากจะเตะปากมันจริงๆ นี่ก็อีกคนเดินยิ้มอยู่ได้คิดว่าตัวเองเป็นนางสาวไทยหรือไง หงุดหงิดจริง!
“พี่หมอคะพรุ่งนี้วันหยุดพี่เข็มทิศให้หนูหยุดตรงกับพี่หมอเลย เราพาปลาวาฬไปเที่ยวกันไหมคะ”
ชวนผู้ชายเที่ยว แรดเกินไปแล้วหนูน้อย
“ก็ได้ให้พี่ไปรับไหม” หึยย ไม่ได้อยากไปหรอกนะแต่พาปลาวาฬไปก็ดีเหมือนกัน พรุ่งนี้วันหยุดนักขัตฤกษ์ด้วย
“เดี๋ยวขนมไปหาพี่ที่คอนโดก็ได้ค่ะ ได้บัตรสวนสนุกมาฟรีสองใบไม่รู้จะชวนใครไป ไกด์ก็ไม่ว่าง”
มันน่าไปด้วยไหมเนี่ย เห็นผมเป็นแค่ตัวสำรองหรือไงกัน ผมเดินหนีขนมออกมาทำให้คนขาสั้นๆต้องรีบวิ่งตามผมมาที่ลิฟต์
“รีบไปไหนคะพี่หมอวันนี้ไม่มีงานแล้วขอกลับก่อนได้ไหมคะ”
“จะรีบไปกินขนมหรือไง” ผมหันไปถามทำให้ขนมคิ้วชนกัน ผมแสดงออกมากไปเหรอ ไม่นะแค่รู้สึกว่าการเป็นผู้หญิงที่ดีก็ควรวางตัวให้ดีกว่านี้เฉยๆ
“ก็ไม่มีงานแล้วนี่คะ”
“มีขึ้นไปทำงานกับผมก่อน”
“ค่ะ”
น้ำเสียงอ่อยๆของเธอทำให้ผมยิ้มออกมายิ้มทำไมไอ้แทนนี่มึงกำลังคิดอะไรอยู่ บ้าที่สุดใจแตกตอนแก่ไม่ได้นะ
ถึงห้องทำงานผมก็ให้เธอคัดการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดหัวใจมาให้ผม10หน้ากระดาษ แม้เธอจะหน้างอแต่ก็ยอมนั่งคัดด้วยรายมือที่ดีกว่าไอ้หมอพี่ชายเธอเสียอีก
“หิวจัง”
เสียงเล็กๆบ่นหิวทำให้แทนคุณต้องเดินไปในห้องพักหลังห้องทำงานเพื่อหยิบแอปเปิลมาปลอกให้เธอ
“อะ”ผมส่งจานแอปเปิลให้ก่อนจะทำงานของตัวเอง ดูเวลาตอนนี้ก็เย็นมากแล้วไอ้หน้าตี๋นั่นไปหรือยังนะ
“พี่หมอขาคืนนี้หนูต้องไปช่วยงานคุณแม่ขอกลับไปเตรียมตัวได้ไหมคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะรีบคัดมาส่ง นะคะๆๆ” ฉันอ้อนวอนพร้อมกับกุมมือของพี่หมอไว้ทำให้พี่หมอเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ตามองตาสายตาเราจ้องมองกัน มาเป็นเพลงเลยนะ
“ไปหาคุณแม่หรือไปหาผู้ชาย”
“ถ้าไปหาผู้ชายพี่หมอจะว่าเหรอคะ”
“ไอ้เข็มทิศไงมันฝากพี่ดูเรา เกิดเราเป็นอะไรขึ้นมามันก็มาบ่นพี่นะสิ” แถไปไหมนะ
“อ๋อแบบนี้นี่เอง ไม่ต้องห่วงค่ะขนมดูแลตัวเองได้”
พูดแบบนี้คงไปหาผู้ชายสินะ เอาเถอะไปโลดดด ผมพยักหน้าให้เธอเลยรีบวิ่งแจ้นไปโดยไม่ลาผมสักคำ แรด!
ผมรีบเคลียร์งานเพื่อจะแวะไปหาเพื่อนที่ผับอโคจร ตอนนี้ก็3ทุ่มแล้วทำงานเพลินไปหน่อย เพื่อนกลุ่มนี้เป็นเพื่อนสมัยเรียนรวมถึงอาจารย์เวย์ที่ผมเชิญตัวมาด้วย
“หมอเมื่อไหร่จะมีเมีย” อาจารย์เวย์ถามด้วยความสงสัยตราบใดที่หมอยังไม่มีเมียตนก็ไม่อาจวางใจได้
“ผมไม่แย่งข้าวฟ่างหรอกหน่า ผมเข้าใจแล้วว่าเมื่อก่อนข้าวฟ่างรู้สึกยังไง” ผมมองไปที่หน้าเวทีก็ต้องหรี่ตามองเพราะลูกศิษย์ตัวแสบของผมกำลังเต้นอยู่หน้าเวทีกับผู้ชาย แรดจริง
“สนใจหรือไงจีบเลยหมอผมจะได้สบายใจ” เวย์มองไปที่หน้าเวทีก็พบสาวน้อยน่ารักใบหน้าจิ้มลิ้มไม่ต่างจากข้าวฟ่างเท่าไหร่
“อาจารย์ครับข้าวฟ่างลูกสองแล้วนะ ไว้อาจารย์เลิกกับข้าวฟ่างก่อนค่อยว่ากัน”
“หมอเคยโดนต่อยไหมครับ”
“โหดร้ายจัง คนนั้นน่ะลูกศิษย์ผมเองน่ารักนะแต่อยู่ด้วยแล้วประสาทผมจะเสีย” ตึกตัก ตึกตัก เสียงหัวใจที่เต้นรัวๆเพราะตอนนี้เธอกำลังโอบเอวกับผู้ชายคนที่อ้างว่าเป็นเพื่อน
“มีแฟนแล้วหรือไงโอบกันขนาดนั้น ถ้าบอกว่าเพื่อนนี่เชื่อยากนะหมอ”
“เธอบอกเพื่อน แต่เป็นเพื่อนที่ผมไม่ปลื้ม!!!”
“อุ้ยตาย โป๊ะ!”
นั่นไงเสียท่าอาจารย์เวย์อีกจนได้เฮ้อเลิกคบเลยดีไหม