เมียดาราของคุณไท่หรง 4.1

1768 คำ
ที่เขาบอกว่าให้ไปอยู่ในที่ที่ให้อยู่นั้น หมายถึงให้เธอไปพักที่โรงแรมของเขา แรกเริ่มจันทร์เจ้าขากลัวมากว่าเขาจะแค่พูดตกลงไปแบบนั้นถึงเวลาก็จะยังข่มเหงอยู่ดี ทว่าเมื่อไปถึงโรงแรมแล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิด ไท่หรงไม่ได้ให้เธอนอนห้องเดียวกันแต่กลับให้การ์ดมาส่งอีกห้องซึ่งใกล้ๆ หลังจากนั้นจันทร์เจ้าขาก็ไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกเลย จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ไท่หรงไม่ทำอะไรเธอเลยทั้งที่หากอยากบังคับก็ทำได้ คนอย่างเธอจะเอาอะไรไปต่อกรกับมาเฟียอย่างเขา ต่อให้เพิ่งพูดเรื่องความเป็นความตายไปเมื่อคืน แต่ลึกๆในใจเธอก็ยังรักชีวิตตัวเอง พอต้องแลกขึ้นมาจริงๆ ยังไงก็ต้องยอมรักษาชีวิตเอาไว้ แม้แต่เธอก็รู้ความจริงข้อนั้นแล้วเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร การที่เขารักษาคำพูดเป็นอย่างดีทำให้หญิงสาวเชื่อว่าไท่หรงกำลังทำตามคำขออยู่ อะไรบางอย่างคอยบอกเธอว่าคนอย่างเขาหากอยากทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น และนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่อีกฝ่ายกล้าเอาเธอมาเก็บเอาไว้ใกล้ตัวรอวันใช้งาน แน่นอนว่าการถือสัจจะแบบนี้ทำให้หญิงสาวรู้สึกนับถือเขามากและก็เสียวหลังมากไปในเวลาเดียวกัน เพราะรู้ดีว่าหากคำขอเรื่องพี่อ้อสำเร็จเมื่อไหร่ตนก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อนั้น และเธอรู้ว่าไท่หรงพูดจริงทำจริงแน่นอน ไม่งั้นเขาคงไม่รับปาก ต่อให้แทรกแผ่นดินหนีได้เธอก็จะไม่มีวันหนีเขาพ้น เมื่อรู้ชะตากรรมตัวเองอยู่แล้วแบบนั้น วันรุ่งขึ้นจันทร์เจ้าขาจึงรีบตื่นแต่เช้า และเดินทางไปคลินิคสูตินารีเวชกรรมเพื่อฝังยาคุมทันที เพราะไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแล้วแต่อายุยี่สิบเจ็กย่างยี่สิบแปดปีแล้ว จึงรู้ดีว่าการนอนกับผู้ชายจะทำให้เกิดอะไรขึ้น เธอไม่อยากท้องและไม่รู้ว่าคนอย่างเขาจะขอให้มีเซ็กซ์แบบป้องกันได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นไม่ประมาทเอาไว้เป็นดีที่สุด “ต้องรออีกเจ็ดวัน เพื่อให้ประสิทธิภาพของยาคุมที่ฝังทำงานได้อย่างเต็มที่นะครับ ช่วงก่อนเจ็ดวันนี้หากจะมีเพศสัมพันธ์จริงๆก็ต้องป้องกันด้วยวิธีอื่นไปก่อน” “เข้าใจแล้วค่ะคุณหมอ” “ถ้าอย่างนั้นเชิญคนไข้นั่งรอด้านหน้าเลยครับ เดี๋ยวหมอจะให้ยาแก้ปวดไปด้วย” “ค่ะ” เมื่อธุระตรงนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็เดินออกจากห้องตรวจไปที่นั่งลงที่เก้าอี้ด้านหน้าเค้าน์เตอร์จ่ายเงิน ดวงตาสวยก้มมองแผ่นพลาสเตอร์ที่แปะอยู่ใต้ท้องแขนของตัวเอง ในหัวกำลังคิดว่าหากเขาทำสำเร็จก่อนเจ็ดวันเธอจะทำอย่างไร เขาเป็นคนคุยได้ก็จริง แต่หากให้รอนานขนาดนั้นจะยอมรอไหม แล้วเธอจะทำยังไงต่อถ้าเขาจะไม่รอ มันก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะสนใจว่าผู้หญิงจะท้องไหมด้วยสิ ในเมื่อเด็กมันไม่ได้ไปอยู่ในท้องผู้ชาย “เอาไงดีวะ จะบอกไปตามตรงเลยดีไหมเนี่ย” พูดไปหญิงสาวก็ได้แต่หันมองไปด้านหน้าคลินิคซึ่งยังมีรถคันหรูจอดอยู่ ข้างรถมีการ์ดชุดดำสองคนยืนรอเธอทำธุระเสร็จแล้วกลับออกไป มองไปมองมาก็พลันนึกได้ ว่าในเมื่อคนของเขาพาเธอมาที่นี่ไท่หรงอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่าเธอมาทำอะไร “เอาวะ ทีเมื่อคืนยังสำเร็จได้เลย” เรื่องนี้ถ้าได้ลองคุยกับเขาก่อนอาจจะสำเร็จก็ได้ เธอเองก็มีหลักฐานนี่ว่ามาฝังยาคุมจริงๆเขาเองก็ดูไม่ใช่คนโง่ทำอะไรไม่คิด คงไม่อยากให้มีปัญหาตามมาหรอกมั้ง “นายน้อยไท่ครับ อาจางกับอาหมิงรายงานกลับมาว่าคุณจันทร์เจ้าขาไปคลินิคสูตินารีเวชกรรมครับ” “ไปทำอะไร” คำบอกเล่าของบอดี้การ์ดคนสนิททำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ชายหนุ่มผู้ที่อีกฝ่ายเรียกว่า ‘นายน้อยไท่’ หันไปมองบอดี้การ์ดตัวเองพลางเลิกคิ้ว แต่ฝ่ายนั้นกลับส่ายหน้า “ยังไม่รู้ครับ คุณเขาไม่ได้บอกเอาไว้ มันสองคนก็ไม่กล้าไปซักไซร้เรื่องแบบนี้กับผู้หญิง ผมว่านายน่าจะต้อง…” “เออๆ เดี๋ยวอั๊วถามเอง” แต่เมื่อถามแล้วไม่ได้ความอะไรที่เป็นประโยชน์กลับมาเขาจึงพยักหน้าตัดรำคาญไป เพราะเอาเข้าจริงต่อให้อยากรู้แต่ก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น ที่มาไทยเขาก็ไม่ได้มาเพื่อเรื่องนี้เป็นหลัก แต่ตั้งใจมาเพราะเรื่องงานล้วนๆ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นแค่ผลพลอยได้ เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจว่าเธอจะไปไหนจะหรือทำอะไรตราบใดที่ยังอยู่ในสายตา ที่เขาสนมีแค่เมื่อทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อตกลงแล้ว เธอจะไม่ตุกติกและทำตามคำพูดของตัวเองก็พอ เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำให้เห็น ว่าคนที่กล้าท้าทายนายน้อยไท่ของตระกูลหวงจะมีจุดจบเป็นยังไง “ครับนายน้อย” “แล้วนี่ไอ้เหว่ยมันไปไหน อั๊วพามันมาดูงานนะไม่ได้มาเที่ยว ป่านนี้ยังไม่โผล่หัวมาอีก” และเมื่อจบเรื่องของจันทร์เจ้าขา ไท่หรงจึงวกกลับมาเรื่องของ ‘ต้าเหว่ย’ น้องชายคนรองที่หิ้วมาจากจีนด้วย เพราะตั้งแต่เช้า เขารับประทานอาหารจนมานั่งจิบกาแฟหมดไปสองแก้วแล้ว มันก็ยังไม่มาให้เห็นหน้า “ยังไม่ออกจากห้องเลยครับ เมื่อคืนตอนที่นายออกไปแล้ว นายน้อยรองออกไปข้างนอกแล้วพาผู้หญิงกลับมาด้วย ดูท่าเมื่อคืนน่าจะหนักมาก ผมเพิ่งคุยกับเลขาฟ่งมาเมื่อเช้า ตาโหลเหมือนคนไม่ได้นอนเลยครับ” ไท่หรงได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายไอ้น้องคนนี้มันไม่คิดจะเอาถ่านอีกแล้วหรือไง เกิดมาเป็นลูกชายตระกูลใหญ่เสียเปล่า เฟยหลงที่เป็นน้องสาวคนเล็กยังเอาการเอางานมากกว่ามันเลย แบบนี้เขาจะไปฝากฝังอะไรในอนาคตได้ “มันจะทำไหมงานไอ้เด็กเวรนี่ ไปบอกอาฟ่งว่าอั๊วสั่งให้ไปปลุกมัน ถ้าไอ้เหว่ยมันมีปัญหาก็ให้มาเคลียร์กับอั๊วเอง” “ได้ครับ” “บอกด้วยว่าถ้าไม่ลุกมันโดนเพ่นกบาลแน่” “ครับนาย” ดวงตาคมมองตามหลังลูกน้องคนสนิทก่อนจะส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ มือหนายกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มฆ่าเวลาพลางมองนาฬิกาข้อมือไปด้วย รอเพียงไม่กี่นาทีเสียงประตูห้องก็เปิดออกด้วยฝีมือของลูกน้องคนเดิม ตามมาด้วยไอ้น้องชายที่อยู่ในสภาพยุ่งเหยิง และเลขาที่มีสภาพตาโหลเหมือนไม่ได้นอนจริงๆเดินตามหลังมา ให้เขาทายคงหนักจริงอย่างว่า แล้วตามประสาคนเมาก็คงเสียงดัง เลขาถึงได้มีสภาพเป็นหมีแพนด้าแบบนั้น “ด่าอะไรแต่เช้าวะเนี่ยเฮีย” ‘ต้าเหว่ย’ น้องชายคนรองของไท่หรงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยังง่วงงุน มือยกขึ้นเกาลำคอที่ปรากฏรอยสักหัวมังกรแบบเดียวกับเขาแต่มีเพียงตัวเดียวที่ด้านขวา ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนเลขาฟ่งเพิ่งแกะมันออกจากที่นอนมาอย่างไรอย่างนั้น “ตื่นแล้วหรอมึง” “ไม่ตื่นแล้วเฮียจะเห็นหน้าอั๊วเหรอคร้าบ” “มึงอย่ามาเล่นลิ้นไอ้เหว่ย กูให้มาทำงานไม่ได้ให้มาเอาผู้หญิง” “เฮียจะบังคับอะไรนักหนา ยังไงอั๊วก็ไม่ได้ดีในสายตาป๊าหรอกน่า” คำพูดนั้นของน้องชายเล่นเอาพี่ชายอย่างเขาอยากลุกไปตบกบาลมันต่อหน้าลูกน้องขึ้นมาจริงๆเสียสักที แต่ที่ยังอดทนไม่ทำก็เพราะเขารู้สาเหตุที่อีกฝ่ายเป็นแบบนี้ “มึงไม่ต้องสนใจว่ามึงจะดีในสายตาป๊าหรือเปล่า สนใจแค่มึงดีในสายตาตัวเองหรือยังก็พอ” ลูกเป็นผลผลิตของพ่อแม่ โดนเลี้ยงมายังไงก็จะกลายเป็นแบบนั้น และต้าเหว่ยเองก็เป็นผลผลิตของความลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน ตัวเขาที่เป็นลูกชายคนโตและมีตำแหน่งทายาทคนต่อไปติดตัวมาตั้งแต่เกิด อาจมีความกดดันมาก แต่น้องชายที่มีสถานะเป็นตัวสำรอง เป็นรองเขาในทุกๆเรื่องนั้นคงรู้สึกยิ่งกว่า เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าต้าเหว่ยจะพยายามแค่ไหนก็ยังอยู่ใต้เงาเขาเสมอในสายตาของพ่อแม่ จนกระทั่งกลายเป็นคนหมดไฟไม่อยากเอาอะไรอีกแล้วในที่สุด “โหเฮีย ด่าขนาดนี้เอาปืนมายิงเลยดีกว่า” “มึงอย่ามาท้ากูนะไอ้เหว่ย อาเฟยหลงเป็นผู้หญิงน้องยังเอาการเอางานกว่ามึงเลย” “เมื่อไหร่เฮียจะเลิกเปรียบเทียบอั๊วกับอาเฟยหลงสักที มันเยาะเย้ยอยู่ทุกวัน” “ก็มันน่าไหมล่ะ มึงเป็นน้องชายกู เป็นลูกชายคนรองของนายท่านหวง จะมาสำมะเลเทเมาแบบนี้ไม่ได้ ตระกูลเราจะไปต่อยังไง” “ก็มีเฮียกับน้องไง ไม่มีอั๊วสักคนจะเป็นไรไป อาเฟยหลงอยากกระโดดเข้ามาในโลกมาเฟียของป๊ากับเฮียจะตายอยู่แล้ว ถือว่ามันเป็นผู้หญิงหรือไงถึงไม่สนับสนุน มาบังคับอั๊วที่ไม่ได้อยากเป็นอยู่ได้” “กูไม่ได้ไม่สนับสนุน ป๊าต่างหาก แต่วันหนึ่งอาเฟยหลงก็ต้องได้ทำอย่างที่น้องหวัง กูนี่แหละที่จะช่วยเอง แต่มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าถึงจะเก่งแต่เป็นผู้หญิงในวงการนี้มันอันตรายแค่ไหน มึงเป็นพี่รองจะทิ้งน้องได้ยังไง จะให้น้องมีแค่กูงั้นเหรอ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม