วิศวะขย้ำรัก
(Engineer'nTaboo)
EPISODE6
“สามโมงกว่าแล้วว่ะ ไอ้ทัพบอกว่าน้อง ๆ ส่วนใหญ่แลกป้ายกับพี่บัดดี้หมดแล้ว เหลือแค่ไม่กี่คนเอง” องศาพูดขึ้นหลังจากอ่านแชทของกลุ่มที่นำทัพส่งมา
“กูว่าลงไปได้แล้วมั้ง” บีเบสท์พูดขึ้น พันไมล์จึงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูและพบว่าตอนนี้พวกเขาคงได้ฤกษ์ลงไปดูน้อง ๆ ที่เหลือแล้ว ชายหนุ่มจึงขยับตัวลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินนำเพื่อน ๆ ออกจากห้องเงียบ ๆ
ที่ด้านล่างของตึกเฌอปรางที่เลือกจะไม่กินข้าวกลางวัน เธอถือกล่องนมและขนมปังพกติดมือไปตามหาพี่บัดดี้ กินขนมคำนมคำระหว่างที่ขาเล็ก ๆ เดินไปทั่วบริเวณที่คิดว่ารุ่นพี่ปี 3 จะไปสิงสถิตอยู่ จนป่านนี้แล้วเธอยังหารุ่นพี่เจ้าของฉายา ‘สุภาพบุรุษปกป้องสาวงาม’ ไม่เจอเลย
พลั่ก! ทว่าขณะที่กำลังเดินพ้นมุมตึกไปนั้น เฌอปรางที่กำลังก้มแกะห่อช็อคโกแลตบาร์ก็ดันชนกับใครบางคนเข้าจนทั้งนมทั้งขนมตกลงพื้น
“ขอโทษนะ / ขอโทษนะ” สองเสียงประสานกันทันควันอย่างตกใจ ก่อนที่ทั้งสองสาวจะเงยมองหน้ากัน
“เราขอโทษนะ เรารีบไปหน่อยอะ” ซินเอ่ยก่อน เพราะเธอมัวแต่มองหาพี่บัดดี้จึงไม่ได้มองทางให้ดีจนชนอีกฝ่ายเข้า
“ไม่เป็นไร เราก็ต้องขอโทษเธอด้วย พอดีเรามัวแต่ก้มแกะขนมอะ” เฌอปรางเองก็รู้ว่าตัวเองนั้นมีส่วนผิดเช่นกัน
“ยังหาพี่บัดดี้ไม่เจอเหมือนกันเหรอ” ซินเอ่ยถาม เพราะเห็นว่าป้ายชื่อของเธอยังไม่ถูกแลก
“ยังเลยอะ เราเลยไม่กินข้าว ซื้อนมกับขนมมากินแล้วก็เดินหาไปด้วย มันสามโมงกว่าแล้ว คนที่แลกป้ายก็พาพี่บัดดี้ตัวเองไปรวมกันที่ลานกิจกรรมแล้วด้วย เราไม่อยากทำความสะอาดโรงยิมอะ” เฌอปรางเอ่ยเสียงล้า เธอเดินหารุ่นพี่จนปวดขาจะแย่แล้ว
“เราเพิ่งเดินผ่านโรงยิมมา โรงยิมที่นี่ใหญ่มากเลยอะ ขืนต้องทำความสะอาดมีหวังเป็นลมตายก่อนแน่ ๆ” ซินเองก็บ่น ๆ ให้อีกฝ่ายฟังอย่างท้อแท้เช่นกัน
“บอกว่าไม่ให้ไงคะ!” ขณะนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้สองสาวหันไปมอง ซินก็พบว่าเป็นสาวสวยที่ชื่อควีน ท่าทางเธอกำลังหงุดหงิดน่าดู เพราะตรงหน้าเธอมีรุ่นพี่ต่างคณะสองคนยืนขวางทางอยู่
“แค่ไอดีเองครับ น้องให้ปุ๊บพี่ก็จะไปทันทีเลย” อีกฝ่ายยังคงตื้อไม่เลิก ทำให้ควีนเลือกที่จะเดินเลี่ยงไป แต่เขาก็ยังตามมาขวางทางเธออีกจนได้
“ถ้าพี่ไม่หยุด เราจะแจ้งอาจารย์” เสียงเรียบเอ่ยขู่ ทว่าคำขู่ของสาวสวยกลับไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายล่าถอยแม้แต่น้อย
“แจ้งเลยครับ พี่ก็อยากรู้ว่าอาจารย์จะว่าไง”
“การกระทำแบบนั้นมันเข้าข่ายคุกคามนะพี่ เพื่อนเราบอกว่าไม่ให้ยังจะตื้ออยู่ได้” เป็นเฌอปรางที่จู่ ๆ ก็ลากข้อมือของซินให้เดินตรงเข้าไปเอาเรื่องรุ่นพี่
“ใช่! พวกเรากำลังทำกิจกรรมของคณะอยู่ พี่ทำแบบนี้เท่ากับก่อกวนนะ” ซินเองก็ทำใจดีสู้เสือพูดขึ้นบ้าง ทั้ง ๆ ที่ปกติเธอจะไม่ค่อยกล้าไปหาเรื่องใครก่อน
“โห! นอกจากน้องคนสวยแล้ว ยังมีเพื่อนน่ารัก ๆ อีกตั้งสองคนเหรอเนี่ย เด็กวิศวะฯปีนี้ฮอตจังแฮะ” รุ่นพี่คนเดิมเอ่ย ยิ่งเห็นว่ารุ่นน้องกลุ่มนี้มีแต่สาวหน้าตาดี พวกเขาก็คิดว่าต้องได้ไอดีใครสักคนติดมือกลับไปบ้างแหละน่า
“ถ้าเข้าใจแล้วก็ถอยด้วย พวกเรายุ่งอยู่” เฌอปรางเอ่ยแล้วคว้าข้อมือของควีนและซินให้เดินไปด้วยกัน ทว่ารุ่นพี่สองคนนั้นกลับไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ
หมับ!
ข้อมือเล็ก ๆ ของซินที่ก้าวช้ากว่าเพื่อนถูกใครบางคนคว้าไว้ ทำให้เธอตกใจไม่น้อย เมื่อพยายามจะบิดออกอีกฝ่ายก็จับไว้แน่นทีเดียว
“ขอไอดีน้องตัวเล็กแทนได้ไหมล่ะครับ น้องโคตรน่ารักเลยอะ” รุ่นพี่คนนั้นเอ่ยขึ้น ทำให้ซินหน้าเจื่อนในทันที
“มะ...ไม่เอาอะ หนูไม่มีไอดี ปล่อยมือนะ!” เธอรีบปฏิเสธทันที แล้วพยายามจะยื้อมือกลับ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ
“ไม่มีได้ไง อย่ามาหลอกรุ่นพี่สิครับ น้อง...ซิน” รุ่นพี่ว่า ขณะมองดูป้ายชื่อของเธอ ทว่าสายตาที่มองมายังเจ้าของร่างเล็กอย่างจาบจ้วงนั้น ก็ทำให้ควีนเดินเข้าไปผลักอกรุ่นพี่คนนั้นทันที
พลั่ก!
“พี่มองอะไรกันแน่ เราบอกว่าทำแบบนี้มันคุกคามไง อยากมีเรื่องมากสินะ” ควีนเอ่ยอย่างเอาเรื่อง มือคว้าคอเสื้อรุ่นพี่หนุ่มไว้แน่นอย่างไม่ยอม
จังหวะที่สาวสวยเข้าไปคว้าคอเสื้อรุ่นพี่ต่างขณะเป็นเวลาเดียวกับที่กลุ่มของพันไมล์เดินลงมาถึงใต้ตึกพอดี องศาที่เห็นว่ารุ่นน้องของคณะเขากำลังมีปัญหาอยู่ก็รีบสะกิดเพื่อนให้ดูทันที
“เฮียนั่นมันพวกไอ้เฟิร์สเด็กบริหารนี่หว่า มาเสร่ออะไรแถวนี้วะ” สีฝุ่นพึมพำ ทำให้เจ้าของเส้นผมสีแดงเพลิงเดินเข้าไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่เขตคณะ
“รุนแรงจังนะครับ พอเข้ามาใกล้แบบนี้ ตัวน้องหอมมากเลยนะ” คนที่ลอยหน้าลอยตาเอ่ยยั่วโทสะ ทำให้ควีนง้างหมัดขึ้นกะจะชกปากรุ่นพี่สักหมัด เพราะชักจะหมดความอดทนขึ้นมา
หมับ!
ทว่าขณะที่หมัดของเธอกำลังจะสาวใส่หน้าอีกฝ่าย ข้อมือของควีนก็ถูกองศาคว้าไว้เสียก่อน
“เพิ่งมาทำกิจกรรมเองนะครับน้อง จะก่อเรื่องกันแล้วรึไง” องศาพูดขึ้น ทำให้สาวสวยหันไปมองหน้าเขานิ่ง ตอนแรกที่ดูผ่านกล้ององศาว่าน้องคนนี้ดูสวยจัดแล้ว ไม่คิดว่าตัวจริงจะโคตรสวยเลย รูปร่างหน้าตาสวยอย่างกับนางแบบแน่ะ
“เราไม่ได้จะก่อเรื่อง แต่รุ่นพี่พวกนี้มาคุกคามเพื่อนเราก่อน นั่นไง! ยังจับมือเพื่อนเราไปปล่อยเลย” เฌอปรางอธิบาย เพราะเห็นว่ากลุ่มคนที่เดินมาสวมช็อปวิศวะฯแถมใส่แมสก์ด้วย พวกเขาน่าจะเป็นรุ่นพี่ปี 3 แน่ ๆ ไม่วายเธอก็ยังชี้นิ้วไปที่ข้อมือของซินที่ยังถูกรุ่นพี่อีกคนคว้าไว้ไม่ปล่อย
“มึงว่าง? คณะมึงไม่มีอะไรทำว่างั้น” เสียงเรียบเอ่ย ขณะก้าวรุกไปทางเฟิร์สที่คว้าข้อมือของยัยเด็กตัวจิ๋วเอาไว้ ทำให้อีกฝ่ายหน้าเจื่อนขึ้นมา ในมหา’ลัยคนที่ชอบทำตัวเด่นผิดแผกชาวบ้านมีแค่ไม่กี่คน แล้วไอ้คนที่กล้าย้อมผมแดงมาเย้ยฝ่ายปกครองแบบนี้ แม้จะสวมแมสก์อยู่แต่เฟิร์สก็เดาตัวตนของอีกฝ่ายไม่ยากเลย เมื่อคิดได้เขาจึงยอมปล่อยมือรุ่นน้องสาว ทำให้ซินรีบเดินมารวมกลุ่มกับเฌอปรางทันที
“แค่แวะคุยกับน้อง กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย ไปเว้ย!” เฟิร์สเอ่ย แล้วพยักพเยิดหน้าส่งซิกให้เพื่อนรีบเดินตามมา เพราะพวกเขามากันแค่สองคน คงไม่พร้อมปะทะกับกลุ่มของพันไมล์ตอนนี้
“นิสัยแย่จริง ๆ คนยิ่งยังหาพี่บัดดี้ไม่เจออยู่” เฌอปรางอดเอ่ยไล่หลังไม่ได้
“พี่พวกนั้นไปแล้ว พี่ก็ปล่อยมือเราได้แล้วมั้ง” ควีนว่าเมื่อองศายังคงจับมือเธออยู่ นั่นทำให้ชายหนุ่มรีบปล่อยมือนุ่ม ๆ ของเธอทันที
“โอ๊ะ! พวกพี่ยังไม่แลกป้ายนี่นา หนึ่ง...สอง...สาม ใส่แมสก์สามคนด้วย พวกพี่อาจจะเป็นพี่บัดดี้พวกเราก็ได้นะ” จู่ ๆ ซินก็โพล่งขึ้นอย่างมีความหวัง เมื่อเห็นว่าองศาและบีเบสท์ยังคงแขวนป้ายชื่อตัวเองอยู่ ส่วนรุ่นพี่ที่ทำสีผมเด่นกว่าชาวบ้านนั้นเธอเห็นว่าสายห้อยป้ายมันห้อยอยู่ที่กระเป๋าหลังกางเกง นั่นแปลว่าพวกเขาอาจจะเป็นรุ่นพี่ปี 3 กลุ่มสุดท้ายแล้วก็ได้ที่ยังไม่มีน้องบัดดี้