หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…
ขณะที่ครูสาววัยกลางคนกำลังยืนทำการสอนในรายวิชาของตัวเองอยู่ เซลีนที่นั่งอยู่ก็จ้องมองเหม่อออกไปยังบริเวณด้านนอกหน้าต่างอย่างไม่คิดสนใจอะไรอยู่เหมือนเดิม ในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา หญิงสาวยังคงเป็นแบบนี้ คือไม่คิดสนใจอะไรทั้งนั้น มาเรียนก็เหมือนแค่เป็นหน้าที่ที่ต้องมา ซึ่งครูทุกคนที่เข้ามาสอนก็ได้แต่ลอบมองยังนักเรียนสาวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากบุคลิกของเธอดูมีความนิ่งจนเกินไป กระทั่ง…
ออด~
เสียงออดในเวลาหมดคาบเรียนและถึงเวลาพักกลางวันดังขึ้น ทำให้ร่างสวยที่ได้ยินแบบนั้นรู้สึกคลายความเบื่อหน่ายขึ้นมาได้บ้าง เมื่อถึงเวลาที่เธอจะได้ไปหลบมุมอยู่คนเดียวเหมือนทุกครั้ง โดยที่ก็ยังคงมีสายตาคมของเพื่อนร่วมโต๊ะที่มองตามไปกับภาพเดิม ๆ ที่เห็นอย่างไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งเสียงของเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งเดินเข้ามา
“พอร์ช ครูปอล์ให้มาตามนายน่ะ”
“ตามฉัน?”
“อืม” เด็กนักเรียนคนเดิมพยักหน้าตอบ ทำให้ร่างสูงที่ได้ยินพยักหน้ารับรู้
“เดี๋ยวกูมา มึงไปก่อนเลย” ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะหันไปเอ่ยบอกกับบอมเบย์ที่นั่งอยู่พลางสาวเท้าเดินตรงไปยังห้องพักครูที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งทันทีที่ทายาทตระกูลดังมาถึง
“มาแล้วเหรอ พอดีผู้อำนวยการอยากพบกับเราหน่อยน่ะค่ะ” โอปอล์เอ่ยบอกลูกศิษย์หนุ่มห้องตัวเอง
“พบผมงั้นเหรอ?”
“ค่ะ ท่านน่าจะมีอะไรอยากรบกวนให้เราช่วยหน่อย” ครูสาวยิ้มบอก ก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินต่อไปยังห้องผู้อำนวยการใหญ่ที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง โดยทันทีที่ไปถึง
“นั่งก่อนสิ” ต่อยศไม่รอช้าที่จะหันบอกกับคนตัวสูงที่เขาต้องการเรียกพบ โอปอล์ที่หมดหน้าที่จึงรีบก้มหน้าเดินไป ขณะที่พอร์ชเองก็ยกมือขึ้นไหว้ทักทายชายที่อาวุโสกว่าด้วยท่าทีมีความสุภาพ
“สวัสดีครับ พอดีครูปอล์บอกว่า อยากพบผม”
“อืม ฉันอยากได้ความช่วยเหลืออะไรจากเธอหน่อยน่ะ” แม้จะเป็นถึงผู้อำนวยการใหญ่ ทว่านักเรียนในโรงเรียนของเขาก็มีหลายคนที่มาจากตระกูลทรงอิทธิพล ต่อยศจึงไม่ได้วางมาดหรืออะไรใส่มากจนเกินไป
“ความช่วยเหลือ…จากผมน่ะเหรอครับ?”
“อืม รู้จักเพื่อนใหม่ห้องเธอแล้วใช่ไหม…ชาลิษาน่ะ”
“ครับ”
“ช่วยทำให้เกรดเขาดีขึ้น จนสามารถต่อมหา’ลัยดี ๆ สักที่ได้ที” ต่อยศไม่รอช้าที่จะเอ่ยเข้าประเด็น แน่นอนว่าเด็กหนุ่มมัธยมปลายหัวดีที่ได้ยินก็ชะงัก
“ให้ผมช่วยงั้นเหรอครับ”
“อืม ก็เธอเรียนดีมาโดยตลอด แถมคะแนนสอบก็แทบไม่ต้องทำอะไร” คำตอบจากชายวัยกลางคนตรงหน้าทำเอาเจ้าของใบหน้าหล่อที่ได้ยินนิ่ง ก่อนจะจ้องมองยังผู้อำนวยการใหญ่อย่างคนที่ถูกส่งต่อดีเอ็นเอนักธุรกิจที่แสนชาญฉลาดมาอย่างชัดเจน
“แล้วแบบนั้น ผมจะได้อะไรครับ” ต่อยศที่ได้ยินก็ไม่นึกแปลกใจแม้แต่น้อยกับเด็กหนุ่มทายาทนักธุรกิจใหญ่ที่มีความชัดเจนในความต้องการมีข้อแลกเปลี่ยนชัดเจน
“โควตามหาวิทยาลัยที่เธอต้องการ”
“แบบนั้นผมสอบเองได้…”
“ฉันให้เพิ่มพิเศษอีกหนึ่ง ใช้ได้สำหรับเข้าสองคน” ผู้อำนวยการใหญ่มองหน้าเอ่ยบอกอย่างพอที่จะรู้ถึงความต้องการของหนุ่มมัธยมปลายที่อยู่ตรงหน้า โดยคนที่ได้ยินก็รู้สึกพึงพอใจกับคำตอบจริง ๆ
“ถ้างั้น…ก็ตกลงครับ” ริมฝีปากหนาตอบกลับด้วยรอยยิ้มพอใจ ก่อนจะขอตัวเดินออกจากห้องผู้อำนวยการใหญ่ไปด้วยใบหน้าหล่อเหลายิ้มมุมปากไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่ได้รับมอบหมายมา มันยากหรืออะไรจนเกินไปสำหรับตัวเอง ทว่าขณะที่สองเท้าหนักกำลังเดินตรงเข้าไปยังภายในโรงอาหารหรูของโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง
“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับฉัน” เสียงเรียบนิ่งคุ้นเคยของร่างสวยที่กำลังถูกริวตะขวางทางอยู่ดังขึ้น ซึ่งชายหนุ่มที่ถูกพูดใส่ก็ยกยิ้มไม่คิดทำตามที่หญิงสาวบอก เซลีนจึงยิ่งแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมา และในตอนนั้นเอง
พรึบ!
พอร์ชที่ยืนพอเดาเหตุการณ์ทุกอย่างได้ก็เดินเข้าไปคว้าที่ไหล่บางเข้าหาตัว ราวกับว่าสนิทกับร่างสวยที่ยืนอยู่มานาน เซลีนที่เห็นก็หันมองยังคนที่มาใหม่ตาขวาง คนตัวสูงจึงไม่รอช้าที่จะค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าหล่อไร้ที่ติของตัวเองเข้าไปกระซิบยังหูสวย
“อยู่เฉย ๆ ฉันกำลังช่วยเธออยู่” สิ้นเสียงทุ้มบอก หญิงสาวก็ชะงักไปอย่างไม่รู้ทำไมถึงยอมเชื่อ ซึ่งพอร์ชที่เห็นแบบนั้นก็หันกลับไปมองหน้าริวตะที่ยืนอยู่
“นี่เพื่อนข้างโต๊ะฉัน ถ้าเขาบอกให้เลิกยุ่ง นายก็ควรเลิกยุ่งนะ” ริมฝีปากหนาขยับเอ่ยบอกกับเพื่อนต่างห้องด้วยสีหน้าท่าทีปกติ ทว่าในเสียงทุ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยความเรียบเข้ม จนคนที่ได้ยินนิ่งไป
“หึ” แล้วสุดท้าย ริวตะก็จำต้องยอมเดินออกไปอีกทางด้วยความไม่อยากที่จะมีปัญหากับพอร์ชต่อ แม้ชายหนุ่มจะจงใจแสดงสีหน้าหงุดหงิดไม่พอใจออกมาให้เห็น แน่นอนว่าพอร์ชก็ไม่คิดสนใจอะไรต่อท่าทีพวกนั้น โดยทันทีที่ริวตะเดินออกไป เซลีนก็ไม่รอช้าที่จะปัดมือหนาของคนที่กำลังโอบอยู่ที่ไหล่ของเธอออกด้วยความรวดเร็วและทำท่าจะสาวเท้าเดินหนีออกไปจากความวุ่นวายที่พบ แต่ก็ต้องถูกมือหนาของคนที่ยืนอยู่คว้าไว้
หมับ!
“ทำบ้าอะไรของนาย”
“หลังจากนี้…ตั้งใจเรียนซะ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลามองหน้าเอ่ยบอกกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เซลีนที่ได้ยินก็มองหน้าคนตัวสูงนิ่ง ก่อนจะจัดการสะบัดมือหนาออกไปอีกครั้งพร้อมกับเดินออกไปอย่างไม่สนใจโดยที่มีสายตาคมของพอร์ชที่มองตามไปอย่างหมายมั่นที่จะทำให้อีกคนมีเกรดที่ดีกว่าเดิมตามผลประโยชน์ข้อเสนอแลกเปลี่ยนที่เขาได้มา
@ห้องเรียน
หลังจากการพักกลางวันจบลง นักเรียนทุกคนก็กลับมายังภายในห้องเรียนของตัวเอง พร้อมกับครูสาวประจำชั้นที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ไงคะทุกคน วันนี้อาหารกลางวันถูกปากกันไหม” โอปอล์ยิ้มทักทายชวนนักเรียนห้องตัวเองพูดคุยไปตามประสา ก่อนจะไม่รอช้าที่จะเริ่มเข้าสู่เนื้อหาการเรียนการสอนที่จัดเตรียมมา ขณะที่เซลีนก็นิ่งยังคงหันมองออกไปยังบริเวณด้านนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอยไม่คิดสนใจการเรียน กระทั่ง…
“โอเคค่ะเนื้อหาที่จะเรียนกันก็มีเท่านี้นะคะ แต่…อย่าเพิ่งดีใจไปค่ะ เพราะวันนี้ครูยูนาไม่มา ครูเลยจะขอจับคู่นักเรียนทำรายงานมาส่งครูแทนในวันพรุ่งนี้ก่อนสิบโมง เนื้อหาสรุปเขียนโดยลายมือเท่านั้น ไม่เอาเป็นพิมพ์แล้วพรินต์ออกมานะคะ โดยจะเป็นรายงานมีคะแนนพิเศษเพิ่มให้…” เสียงครูสาวพูดขึ้น
“…โดยการจับคู่เอาเป็นว่า จับคู่กันตามที่นั่งคู่กันเลยแล้วกันนะคะง่ายดี ในส่วนของเนื้อหาของรายงาน ครูขอเป็น…” ว่าแล้ว หญิงวัยยี่สิบปลาย ๆ ก็บอกรายละเอียดเกี่ยวกับรายงานที่ตัวเองต้องการ โดยที่ร่างสวยที่นั่งอยู่ก็ยังคงไม่คิดสนใจต่ออะไรเหมือนเดิม กระทั่งครูสาวเดินออกจากห้องไป เซลีนก็ไม่รอช้าที่จะเอื้อมมือลงไปหยิบหูฟังกับโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเพื่อที่จะฟังเพลงไปอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองเหมือนทุกครั้งเพื่อรอเวลาเลิกเรียน ทว่า…
พรึบ!
อยู่ ๆ มือหนาของคนที่นั่งอยู่ด้านข้างของเธอก็เอื้อมเข้ามากระชากทั้งโทรศัพท์และหูฟังของเธอไปจากมือสวย
“ทำบ้าอะไร” เซลีนไม่รอช้าที่จะหันไปมองหน้าคนด้านข้างอย่างเอาเรื่องในทันที แน่นอนว่าพอร์ชก็ไม่คิดสนใจต่อท่าทีพวกนั้น
“ไม่ได้ยินที่ครูสั่งเหรอ ว่าเธอต้องทำรายงานคู่กับฉัน”
“แล้วยังไง”
“แล้วยังไง หมายความว่ายังไง”
“ถ้านายอยากทำ…ก็ไปทำเอง”
“มันเป็นรายงานคู่”
“ก็แค่ไม่ต้องใส่ชื่อฉัน”
“ก็คือเธอจะไม่ทำ?”
“…” เจ้าของใบหน้าเรียวสวยก็นิ่งไม่ตอบ โดยนั่นคือคำตอบของเธอ…เธอไม่ทำ
“เสียใจด้วย แต่เธอต้องทำ” พูดจบ คนตัวสูงก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่พลางจ้องมองยังใบหน้าเรียวไร้ที่ติของร่างสวยที่นั่งอยู่ ก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปพร้อมกับโทรศัพท์และหูฟังของเซลีนที่ยังคงอยู่ในมือแกร่งของเขา
“นี่!” หญิงสาวที่ไม่ค่อยพูดอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมาอย่างเอาเรื่อง และไม่รอช้าที่จะรีบสาวเท้าเดินตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่เอาโทรศัพท์และหูฟังของเธอไป ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลยที่เธอจะสามารถตามคนที่สูงกว่าเธอเกือบยี่สิบเซนติเมตรได้ทัน ทว่าสุดท้ายเธอก็สามารถตามมาจนถึง…ห้องสมุดใหญ่ของโรงเรียนหรู
“แฮก!…”
“…เอาของฉันมา” เจ้าของใบหน้าสวยไม่รอช้าที่จะมองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแววตาเอาเรื่องต้องการสิ่งของของตัวเอง พอร์ชที่ได้ยินก็ยกยิ้มมุมปากไม่คิดสนใจ
“นั่งสรุปรายงานซะ แล้วฉันจะให้”
“นี่!”
“ในนี้มีข้อมูลที่ครูต้องการทั้งหมด…สรุปมา แล้วฉันจะนั่งตรวจ” มือหนาจัดการโยนหนังสือข้อมูลให้กับร่างสวยที่ยังคงหอบหายใจอยู่ พร้อมกับนั่งไขว่ห้างลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะห้องสมุดอย่างดูสบายอารมณ์ เซลีนที่เห็นจึงยิ่งรู้สึกประสาทเสีย
“นายเป็นใคร ถึงได้มาสั่งให้ฉันทำ”
“เป็นคนที่จะต้องทำให้เกรดเธอดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ได้”
“เหอะ ฉันไม่ต้องการ”
“แต่ฉันต้องการ”
“…” ดวงตาสวยจ้องมองยังคนที่นั่งอยู่ด้วยความไม่เข้าใจ พอร์ชที่เห็นจึงอธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อย
“การช่วยเธอ ฉันได้ผลประโยชน์ในครั้งนี้ ดังนั้น…ทำซะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็ปรายตาเชิงบอกให้ร่างสวยทำในสิ่งที่เขาต้องการ แน่นอนว่าคนที่หัวแข็งเอาเรื่องอย่างเซลีนก็ไม่คิดยอมง่าย ๆ
“ไม่ทำ แล้วก็เอาของฉันคืนมา”
“เธอนี่แม่ง…เอาเรื่องดีชะมัด แต่ก็นะ ถ้าไม่ทำ…ก็ไม่ต้องเอา”
“นี่”
“…” คนตัวสูงก็เงียบไม่พูดอะไรต่อ แต่เลือกที่จะจัดการเก็บโทรศัพท์กับหูฟังของหญิงสาวเอาไว้ภายในเสื้อนักเรียนของตัวเองบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่มีทางคืนให้เป็นแน่ หากอีกคนไม่ยอมทำ เซลีนที่เพิ่งเคยเจออะไรแบบนี้ครั้งแรกก็จ้องมองคนตรงหน้านิ่งแววตาฉายออกมาชัดเจนถึงความต้องการอยากบีบคอหนา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
“มันเป็นรายงานคู่ แล้วทำไมฉันต้องทำคนเดียว” ริมฝีปากสีสวยถาม
“ก็ฉันมีหน้าที่ตรวจทานแล้วไง”
“เหอะ สบายเกินไปไหม”
“เธอเพิ่งมาใหม่ก็คงไม่รู้สินะ…”
“…ฉันน่ะ คะแนนสอบอันดับหนึ่งของชั้นเรียนมาตลอดตั้งแต่เกรด 7” ร่างสวยที่ได้ยินก็มองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาบ่งบอกถึงความไม่อยากที่จะเชื่อชัดเจน แน่นอนว่าพอร์ชที่พูดความจริงทั้งหมด แต่พอต้องมาเจอกับสายตาดูถูกเหมือนเขาเพียงพูดโอ้อวดก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหัวเสีย
“ฉันเรียนเก่งจริงนะเว้ย แม้จะดูเหมือนเกเรไปบ้าง แต่เรื่องคะแนนสอบ ฉันไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง”
“เอาเถอะ อยากพูดอะไรก็พูดไป สรุปฉันต้องทำรายงานบ้า ๆ นี่ให้จบไปใช่ไหม” เรียวปากสีหวานถามเสียงนิ่ง
“อืม” ซึ่งหลังจากที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น เซลีนที่ทำอะไรไม่ได้ก็จำต้องหยิบหนังสือที่อยู่ตรงหน้าเข้ามาจดสรุปด้วยความต้องการเพียงเอาของของตัวเองคืนกลับมาจากเพื่อนร่วมโต๊ะที่แสนชวนให้รำคาญใจ โดยพอร์ชเองก็นั่งลอบมองดูท่าทีตั้งใจอ่านสรุปของหญิงสาวอย่างไม่คิดว่าจะได้เห็น ทว่าใช้เวลาไปได้เพียงไม่นาน
พรึบ!
กระดาษคำตอบที่จะต้องสรุปเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดก็ถูกยื่นเข้ามาใส่ใบหน้าหล่อ จนร่างสูงที่นั่งอยู่ชะงักไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อนักกับภาพที่เห็น เพราะเขาไม่คิดว่าอีกคนจะทำเสร็จเร็วกว่าที่คิดแบบนี้ มือแกร่งจึงไม่รอช้าที่จะนำกระดาษสรุปที่อยู่ตรงหน้าเข้ามาอ่าน แต่แล้วคิ้วหนาก็ต้องขมวดเข้าหากันอีกครั้งพลางหันมองยังเจ้าของใบหน้าเรียวสวยที่นั่งอยู่ เพราะคำตอบของหญิงสาวถือว่าตรงจุดและสรุปได้ดี
“ก็ทำได้ดีนี่” ริมฝีปากหนาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมเชย ทว่าเซลีนกลับไม่คิดสนใจคำชมเชยพวกนั้นแม้แต่น้อย
“เอาของฉันมา” หญิงสาวทักท้วงถึงสิ่งสำคัญของตัวเองสีหน้าเรียบนิ่ง ร่างสูงที่ได้ยินก็หันมองยังใบหน้าเรียวสวยไร้ที่ติ
“…”
“ไม่ได้ยินที่ฉันบอกหรือไง” เซลีนถาม โดยวันนี้แทบจะเป็นวันที่เธอพูดคุยอย่างเอาเรื่องกับใครสักคนมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะอีกคนช่างยียวนกวนประสาท จนเธอแทบที่จะทนไม่ไหว
“กลับยังไง” พอร์ชเลือกที่จะหมางเมินต่อคำพูดของหญิงสาวพลางตีหน้ามึนถาม
“อะไรของนาย”
“กลับยังไง เดี๋ยวจะไปส่ง” ริมฝีปากหนาถามหลังจากที่เห็นว่าบรรยากาศด้านนอกเริ่มอึมครึมเหมือนฝนจะตก ทว่า…
“ไม่ต้อง แค่เอาของฉันคืนมา” ร่างสวยยังคงยืนยันคำเดิมอย่างไม่คิดสนใจต่อความหวังดีจากคนที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย พอร์ชที่ได้ยินจึงพยักหน้ารับรู้อย่างไม่เซ้าซี้ต่อ แต่เลือกที่จะสาวเท้าเดินออกไปโดยที่ไม่ได้คืนของ
“ไม่อยากไปให้ไปส่ง ก็แล้วแต่” เซลีนที่เห็นก็รีบสาวเท้าเดินตามไปในทันที ซึ่งก็เหมือนเดจาวูก่อนหน้าที่เธอจะต้องเดินตามชายที่สูงกว่าเธอเกือบยี่สิบเซนติเมตรไปแบบนี้!
“ให้ตาย…”
“…เป็นบ้าอะไรของหมอนั่น” เสียงหวานพึมพำ ทว่าก็เดินตามมาจนถึงบริเวณรถสปอร์ตคันหรูที่จอดอยู่
“ขึ้นรถสิ”
“นี่!”
“โอเค ถ้าไม่ขึ้น ก็วิ่งตามไปแล้วกัน” ว่าแล้ว ชายเจ้าของรถราคาแพงก็เปิดประตูเข้าไปนั่งภายในรถของตัวเองในทันที โดยที่เซลีนก็ได้แต่ยืนนิ่งทำเสียงหงุดหงิดออกมาด้วยความหัวเสียไม่มีทางเลือก เนื่องจากโทรศัพท์และหูฟังของเธอยังคงอยู่กับพอร์ช ทำให้สุดท้ายร่างบางก็จำต้องเปิดประตูเข้าไปนั่งยังที่นั่งด้านข้างคนขับด้วยสีหน้าฉายออกมาถึงความหัวเสียขั้นสุด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่นั่งอยู่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย เขากลับรู้สึกสนุกบอกไม่ถูกมากกว่าที่ได้เอาชนะกึ่งกลั่นแกล้งหญิงสาวที่ดูไม่สนใจโลกอย่างคนด้านข้าง และใช้เวลาไม่นาน รถสปอร์ตคันแพงก็ถูกขับเข้าไปจอดยังบริเวณด้านหน้าคอนโด ร่างสวยที่เห็นแบบนั้นจึงหันมองหน้าคนฝั่งคนขับในทันที
ชายหนุ่มที่นึกรู้ว่าอีกคนต้องการอะไร ก็ยอมคืนโทรศัพท์กับหูฟังราคาแพงให้แก่หญิงสาวร่างสวยแต่โดยดี โดยทันทีที่เซลีนได้รับของของตัวเองกลับมา
ปึง!! ร่างบางก็ไม่รอช้าที่จะรีบเดินลงจากรถคันหรูพร้อมกับจัดการปิดประตูรถนั้นสุดแรงเกิดอย่างจงใจ ทำเอาเจ้าของรถสุดหวงที่ได้ยินเสียงเบิกตากว้างมองตามหญิงสาวไปอย่างหมายหัวแทบตามลงไปเอาเรื่อง
“ยัยนี่!!…”
“…ให้ตายเถอะ เดี๋ยวเธอเจอฉันแน่!”