หลายวันผ่านไป…
สองเท้าบางของร่างสวยในชุดนักเรียนสาวเท้าเดินตรงเข้าไปภายในโรงเรียนนานาชาติชื่อดังของตัวเองอย่างเช่นทุกวันด้วยใบหน้าที่ยังคงมีความราบเรียบไม่ต่างจากวันแรกที่ได้เข้ามา โดยขณะที่เซลีนกำลังเดินเข้าไป หลายคนก็ต่างหันมองยังใบหน้าเรียวรูปไข่สวยได้รูปของเธออย่างให้ความสนใจเหมือนทุกครั้ง ซึ่งหญิงสาวที่ถูกจ้องมองก็ยังคงแสดงท่าทีเมินเฉยต่อทุกสิ่ง กระทั่งเดินเข้าไปจนถึงภายในห้องเรียนของตัวเอง จากใบหน้าที่ราบเรียบก็แสดงออกมาถึงความเบื่อหน่ายในทันที
“ไง” เสียงทักทายจากร่างสูงที่ยืนพิงขอบหน้าต่างบริเวณหลังห้องยกยิ้มมุมปากทักทายหญิงสาวที่มาใหม่ พร้อมกับไม่รอช้าที่จะก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปหาร่างสวยที่ยืนอยู่บริเวณกลางห้อง
“เอามา” ปากหนาเอ่ยอย่างรู้กันในความหมายกับเพื่อนร่วมโต๊ะ เซลีนก็นิ่งจงใจถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่ายขั้นสุดให้อีกคนได้รับรู้ ทว่าก็จำต้องยอมค่อย ๆ ถอดหูฟังคู่ใจของตัวเองออก ยื่นให้กับร่างสูงที่ยืนอยู่อย่างไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ โดยตลอดหลายวันที่ผ่านมา เธอกับพอร์ชถกเถียงทะเลาะกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เสมอที่เขามักจะมือไวเอาโทรศัพท์กับหูฟังของเธอไปไว้ที่ตัว รวมถึงบังคับให้เธอตั้งใจฟังครูสอนหนังสือ คอยให้ทำงาน และทำการบ้านส่ง เพื่อแลกกับสิ่งของของเธอคืน ซึ่งเซลีนพยายามหลบเลี่ยงหัวไวใส่อีกคนอยู่หลายวิถีทาง แต่สุดท้าย…เขาก็ทันทุกอย่างกับเธออยู่ดี
“ได้ไปแล้วก็หลบไป” เจ้าของใบหน้าเรียวดูดีมองหน้าพูดใส่คนตัวสูงที่ยังคงยืนขวางทางตัวเองอยู่
“เอามาให้หมด” เสียงทุ้มกดบอก โดยร่างสวยที่ได้ยินก็นิ่ง เธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้หมายถึงโทรศัพท์ที่เธอถืออยู่ เพราะหลังจากที่เมื่อวานเธอยอมทำรายงานตามข้อตกลงกับอีกคนแล้ว เขาจะเอาไปแค่เพียงหูฟังของเธอเท่านั้นหลังจากนี้ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เธอแอบเอาหูฟังขึ้นมาฟังในเวลาที่ครูกำลังทำการสอน
“ไม่ได้ยินที่ฉันบอกเหรอ”
“อะไร” สุดท้ายเซลีนก็ต้องมองหน้าตอบกลับชายหนุ่มอย่างเรียบนิ่งทำมึน
“ฉันบอกให้เอามาให้หมด”
“พูดเรื่องอะไรของนาย”
“เธอซ่อนอะไรไว้ล่ะ”
“…”
“อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าล้วงหา” ริมฝีปากหนาขยับบอกพลางจ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาสวยด้วยแววตาร้ายเอาจริง เซลีนที่เห็นแบบนั้นก็ชะงักนิ่งไปเล็กน้อย เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะจ้องมองอีกคนตอบกลับด้วยความราบเรียบท้าทายไร้ซึ่งท่าทีหวั่นใจใด ๆ
“ก็ลองดูสิ” เพราะคิดว่าอีกคนก็คงเพียงแค่พูดเท่านั้น
ทว่า…
“…” คนตัวสูงกลับแสยะยิ้มพร้อมกับเอื้อมมือเข้าหาร่างสวยหมายจะล้วงหาตามที่บอกไปจริง ๆ อย่างไม่ได้แค่ขู่แต่อย่างใด เซลีนที่เห็นท่าทีพวกนั้นก็ชะงักนิ่งแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมากับความบ้าระห่ำของอีกคน
พรึบ! ท้ายที่สุดมือบางก็จำต้องหยิบหูฟังอีกอันที่จงใจเตรียมซ่อนเอาไว้ยื่นให้กับคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความหัวเสียแบบสุด ๆ แต่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย จะไม่มาเรียนก็ไม่ได้ จะสร้างปัญหาเอาเรื่องคนที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้ เพราะเขาไวกว่าเธออยู่พอสมควร แถมยังกวนประสาทขั้นสุด
ร่างสวยไม่รอช้าที่จะสาวเท้าเดินตรงเข้าไปนั่งยังที่นั่งของตัวเองด้วยใบหน้าที่ฉายออกมาด้วยความหงุดหงิดอยู่อย่างนั้น ด้านพอร์ชที่เห็นก็ลอบยิ้มออกมาด้วยความชอบใจกับท่าทีที่เห็น ก่อนจะเดินตามเข้าไปนั่งยังที่ของตัวเองอย่างอารมณ์ดี ซึ่งในตอนนั้นเอง ครูสาวประจำชั้นก็เดินเข้ามาพูดคุยถึงเรื่องที่นักเรียนหลายคนกำลังให้ความสนใจ ซึ่งก็คือเรื่องเกี่ยวกับกีฬาสีที่ทางโรงเรียนจะจัดขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้า เซลีนที่ไม่ได้คิดสนใจอะไรอยู่แล้วก็ลอบแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาทางสายตา พลางทำท่าจะหันไปจ้องมองยังบริเวณด้านนอกหน้าต่างห้องเรียน แต่แล้ว…
“…” หญิงสาวก็ต้องชะงักไปเมื่อหันไปแล้วปลายตาของเธอดันไปปะทะเข้ากับเจ้าของใบหน้าหล่อด้านข้างที่จ้องมองหน้าเธอด้วยความกวนประสาทจงใจก่อให้เสียสมาธิไม่สามารถมองออกไปด้านนอกได้ เนื่องจากเขาเป็นคนนั่งอยู่ฝั่งริมหน้าต่าง และเอาแต่จ้องมองเธอไม่หยุด จนเซลีนหงุดหงิดจำต้องหันกลับไปมองยังด้านหน้ากระดาน ซึ่งก็ยังคงมีความรู้สึกเบื่อหน่ายทุกสิ่งอยู่เช่นเดิม และตัดสินใจที่จะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเพื่อดับทุกความรู้สึกหงุดหงิดวุ่นวาย ทว่า…
ทันทีที่หัวสวยของหญิงสาวฟุบลงไปยังไม่ทันที่จะถึงโต๊ะ ก็ต้องรับรู้ได้ถึงความเร็วของอะไรบางอย่างที่เข้ามารองที่หัวเธอไว้พร้อมกับแรงผลักที่ค่อย ๆ ดันหัวเธอขึ้นมา ซึ่งมันก็คือ…มือหนาของชายที่นั่งอยู่ด้านข้างเธอ! แน่นอนเซลีนไม่รอช้าที่จะหันมองหมายจะเอาเรื่องคนด้านข้าง
“นาย…” แต่ยังไม่ทันที่เรียวปากสีสวยจะพูดจบ
“ฟังครูพูด งานกีฬาสีจะมีคะแนนพิเศษให้” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็พูดใส่เธอกลับมาอย่างไม่คิดสนใจต่อท่าทีเอาเรื่องหรือหงุดหงิดของเธอแม้แต่น้อย เขาแสยะยิ้มมุมปาก ก่อนจะจงใจหันไปมองยังด้านหน้ากระดาน นั่นจึงยิ่งทำให้ร่างสวยที่เห็นรู้สึกอยากจะบีบคอคนด้านข้างมากกว่าเดิม
อยากจะบ้า!
เซลีนได้แต่พึมพำในใจอย่างหัวเสียทำอะไรไม่ได้ พลางจำต้องหันไปมองยังด้านหน้ากระดานเช่นกันด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ โดยในตอนนั้น
“ว่าแต่ ห้องเรามีใครอยากอาสาหรือสมัครลงคัดเลือกไม้ดรัมเมเยอร์ของโรงเรียนไหมคะ…” เสียงครูสาวถามขึ้น
“…ได้คะแนนพิเศษด้วยนะ” พอร์ชที่ได้ยินแบบนั้นจึงยิ้มมุมปากยกมือขึ้น
“ชาลิษาครับ”
“นี่!…ทำบ้าอะไรของนาย” หญิงสาวกดเสียงต่ำถามคนด้านข้างด้วยแววตาเอาเรื่องขั้นสุดพูดคุยกันเพียงลำพัง คนตัวสูงที่ได้ยินจึงส่งยิ้มตอบกลับ
“ไม่ได้ยินที่ครูบอกเหรอว่ามีคะแนนพิเศษ”
“แล้วยังไง”
“เธอควรลง”
“อยากลงนัก ก็ไปลงเอง” เซลีนกดเสียงพูดใส่เพื่อนร่วมโต๊ะอย่างเอาเรื่องอยู่อย่างนั้น โดยยังไม่ทันที่จะได้ทะเลาะถกเถียงกันต่อ
“เซลีนสนใจเหรอคะ” เสียงครูสาวถามด้วยความรู้สึกยินดีหากหญิงสาวจะมีส่วนร่วมในครั้งนี้ อีกทั้งบรรดาเพื่อน ๆ ที่ได้ยินก็ต่างยอมรับในความสวยดูดีของเพื่อนร่วมห้อง แม้จะมีนิสัยที่ไม่สนใจใคร แต่หากได้เซลีนมาเป็นไม้ดรัมเมเยอร์ของห้อง ของโรงเรียน…
“ไม่ค่ะ ไม่ได้สนใจ” ร่างสวยดับฝันทุกคนไปด้วยสีหน้าราบเรียบ และไม่วายที่จะหันมองตาขวางใส่คนตัวสูงด้านข้างที่ยังคงแสดงสีหน้าแสยะยิ้มกวนประสาทใส่เธอออกมาไม่หยุด
“หึ” ชายร่างสูงรู้สึกชอบใจทุกครั้งที่ได้เห็นท่าทีเอาเรื่องจากร่างสวยด้านข้าง ก่อนที่เสียงของครูสาวประจำชั้นจะดังขึ้นอีกครั้งเพื่อสรุปการพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่กำลังจะถึงในไม่กี่วันข้างหน้า
“ถ้างั้นยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปปรึกษากันอีกทีหลังเวลาพักกลางวันนะคะ เราจะมีเรียนแค่ครึ่งวันในวันพรุ่งนี้ รบกวนมาเรียนกันให้ครบด้วยนะคะ เพราะจะมีการเช็กชื่อทุกคาบเหมือนปกติ และจะต้องเริ่มแบ่งหน้าที่ซ้อมกันตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยค่ะ เข้าใจกันนะคะ” โดยหลังจากที่ครูสาววัยยี่สิบปลายเอ่ยจบ บรรดานักเรียนที่นั่งอยู่ก็ต่างขานรับรู้ด้วยความเข้าใจทุกอย่าง ก่อนที่การเรียนการสอนจะเริ่มดำเนินต่อตามปกติ ในขณะที่เซลีนก็จำต้องนั่งทนเรียนไปอย่างไม่สามารถที่จะมองเหม่อออกไปยังบริเวณด้านนอกหน้าต่างหรือฟุบหน้าลงกับโต๊ะได้เหมือนอย่างเช่นทุกครั้งได้อีก