ตอนที่ 2 ตำนานลานเกียร์

1710 คำ
“ไปเองนะวันนี้” นาฬิกาขับรถมาส่งเวฬาที่หน้าตึกคณะวิศวะฯ แต่ไม่ลงไปส่งเหมือนเมื่อวาน “แม่บอกให้พี่ไปส่งผมถึงหน้าตึก” เวฬาบอกเสียงอ้อน “แม่ไม่รู้หรอก ไปได้แล้ว” เวฬาลงไปแล้วเดินไปตามทางเดิน นาฬิกาจะขับรถออกไปแต่ก็เหลือบไปเห็นหนังสือเรียนของน้องชายวางไว้ที่เบาะ เธอส่ายหน้าเบาๆ แล้วรีบลงจากรถเดินกึ่งวิ่งตามหลังเวฬาไป “เว” เธอเรียกน้องชายให้หันมา เวฬาหยุดเดินหันไปหาพี่สาวที่กำลังเดิน “โอ๊ย” นาฬิกาชนกับโทมัส ที่เดินออกมาจากแยกทางเดิน แล้วล้มไปชนกับพิพัฒน์ที่เดินมาข้างๆ โทมัส “ซุ่มซ่าม” โทมัสพูดขึ้นมา “ช่างเหอะโทมัส รีบไปเถอะ” พิพัฒน์บอก “นายสองคนมาชนฉันก่อนนะ ฉันมาทางตรง พวกนายควรขอโทษฉัน” นาฬิกาพูดขึ้นมา “พี่นา พวกพี่ๆ ไม่ได้ตั้งใจหรอก อีกอย่างตะกี้พี่วิ่งมานะ” เวฬาบอกพี่สาว “นี่เวเข้าข้างพวกนั้นเหรอ” นาฬิกาถามขึ้น “พี่อุตส่าห์รีบเอาหนังสือมาคืน” นาฬิกาบ่นแล้วคืนหนังสือให้น้องชาย เวฬาก็ไม่อยากเข้าข้างรุ่นพี่ แต่ทำยังไงได้ โทมัสเป็นลุงรหัส ส่วนพี่รหัสเขาซิ่วไปเรียนที่อื่นแล้ว และย่ารหัสอีกคนที่โดนรีไทร์ออกไปเพราะเกรดไม่ถึง ดังนั้นสายรหัสจึงมีแค่โทมัสคนเดียวที่เหลืออยู่ ทั้งสองคนเมื่อได้ยินสิ่งที่สองพี่น้องคุยกันก็จึงรู้ว่านาฬิกาไม่ได้มาให้ท่าเหมือนคนอื่นๆ “พวกเราขอโทษด้วยแล้วกัน” โทมัสกล่าว “แล้วคราวหลังระวังด้วยนะ” พิพัฒน์พูดขึ้นบ้าง มองใบหน้าสวยที่กัดปากล่างอย่างไม่พอใจ “อืม คนกันเอง ให้อภัยก็ได้ และคราวหลังฉันจะเดินระวังๆ ก็แล้วกัน” หญิงสาวบอกแล้วเดินออกไปก่อนจะมีเสียงของพิพัฒน์ไล่หลังมา “แล้วอย่าเดินสะดุดที่ลานเกียร์นะ” “ฮะ!!” นาฬิกาหันหลังกลับมามองหน้าทั้งพิพัฒน์และโทมัส ทำหน้าสงสัย “เขาว่ากันว่า ถ้าสะดุดที่ลานเกียร์ อาจจะได้เป็นเมียวิศวะฯ ” โทมัสบอกเสียงเรียบ นาฬิกายิ้มเหยียดที่มุมปาก “ฉันขอให้ไม่ใช่นายทั้งสองคนก็พอ” นาฬิกาบอกแล้วเดินกลับไปที่รถ โทมัสและพิพัฒน์มองเธออย่างสนใจ ทั้งสองคิดเหมือนกันว่าเธอน่าดึงดูดใจดี *************************** นาฬิกาไปรอรับเวฬาที่หน้าตึกคณะในตอนบ่ายสาม เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าเขาจะเลิกเรียนแล้ว นาฬิกาจึงเอาหนังสือมาอ่านรอแถวม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ข้างๆ ลานเกียร์ของคณะวิศวะฯ นาฬิกาอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ จนมีขวดน้ำยื่นมาตรงหน้าเธอ เธอเงยหน้าขึ้นดู เป็นพิพัฒน์ที่ยืนยิ้มบางๆให้เธอ “ฉันให้ ขอโทษเรื่องเมื่อเช้าด้วย” “อืม ขอบใจนะ” นาฬิการับมา แล้ววางไว้ข้างๆ ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไป “เธอชื่ออะไร” พิพัฒน์ถาม “นาฬิกา เรียกนาก็ได้ แล้วนายล่ะ” นาฬิกาบอก ผูกมิตรกับรุ่นพี่ของน้องชายคงไม่เป็นไร “นาไม่รู้จักผมเหรอ” พิพัฒน์ถาม เปลี่ยนสรรพนามจากฉันมาเป็นผม “ทำไมฉันต้องรู้จักนายล่ะ ถามแปลกๆ” “ผมกับโทมัสออกจะฮอต” พิพัฒน์สงสัยว่าเขาเป็นเดือนคณะวิศวะฯ ปีสามที่ใครๆ ก็รู้จัก แต่คนข้างหน้านี้กลับไม่รู้จักเขาได้อย่างไร “โทมัสฉันรู้ว่าเป็นลุงรหัสของเว แต่นายฉันไม่รู้” นาฬิกาบอกตามตรง “ผมชื่อพิพัฒน์” พิพัฒน์บอก ดูท่าทีเธอไม่สนใจเขาเหมือนคนอื่น “อืม ยินดีที่ได้รู้จักพิพัฒน์” เธอส่งยิ้มให้เขานิดหนึ่ง มีเพื่อนในคณะนี้ก็ดี มีอะไรก็จะได้ช่วยน้องชายเธอได้ “เรียนเภสัชเหรอ” พิพัฒน์ถาม มองดูหนังที่เธออ่าน “อืม” นาฬิกาตอบรับ สักพักก็มีรุ่นน้องปีหนึ่งมาขอถ่ายรูปคู่กับพิพัฒน์ไม่หยุด จนเธออ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ‘เชื่อแล้วว่าฮอตจริง’ นาฬิกาลุกขึ้นเดินไปจากตรงนั้น เพื่อเดินไปหามุมสงบอีกด้านหนึ่ง เธอเดินอย่างระมัดระวังที่สุดเพราะตอนนี้เธอกำลังเดินผ่านลานเกียร์ที่เขาลือกันนักหนาว่าถ้าสะดุดล้มที่ลานเกียร์ จะได้เป็นเมียวิศวะฯ ‘ไม่ได้แอ้มนาฬิกาหรอกจ้า’ เธอเงยหน้าขึ้นเห็นเวฬากำลังเดินตรงมาหาเธอ นาฬิกาสาวเท้ายาวๆ เพื่อไปหาน้องชายอย่างระมัดระวังที่สุด “ปะ กลับบ้านกัน” นาฬิกาชวน “ผมลืมบอกพี่ วันนี้ผมจะไปกินข้าวกับพี่โทมัส” เวฬาบอกพี่สาว ทำหน้าตาเหมือนเพิ่งนึกได้ “ไอ้เว ฉันมานั่งรอแกเกือบชั่วโมง เพื่อให้แกมาบอกว่าที่ฉันรอไปมันสูญเปล่าเหรอ” นาฬิกาพูดขึ้น อยากเอาหนังสือในมือเคาะหัวน้องชายตัวแสบนัก สักพักโทมัสก็เดินมายืนข้างๆ เวฬา “ไปด้วยกันไหมล่ะ ฉันเลี้ยงเอง ถือว่าเป็นการขอโทษเรื่องที่ฉันเข้าใจผิด” โทมัสบอกน้ำเสียงจริงใจ “อืม ขอบใจนะที่ชวน แต่คงไปไม่ได้หรอก ฉันมีควิซพรุ่งนี้เช้า ต้องรีบกลับไปอ่านหนังสือ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงปกติ อีกฝ่ายสำนึกได้ก็ไม่อยากทะเลาะอะไรกัน คิดว่าเป็นเพื่อนกันไว้ก็ดี สักพักพิพัฒน์ก็เดินมาสมทบ “ปะ ไปกันได้แล้ว” พิพัฒน์ชวนโทมัส “สรุปแกจะไปร้านเดียวกับฉันใช่ไหม” โทมัสถาม “เออ นัดสายรหัสไว้แล้ว” พิพัฒน์บอก “งั้นฉันขอตัวกับก่อนนะ รบกวนฝากดูแลน้องชายฉันด้วยนะ” นาฬิกาบอก “งั้นพวกเราเดินไปส่ง” พิพัฒน์บอก รู้สึกว่าเธอเป็นมิตรขึ้นมาก สามหนุ่มเดินนำหน้าเธอผ่านลานเกียร์เพื่อไปส่งที่ลานจอดรถอีกฟากที่เธอเดินข้ามมา นาฬิกาเดินตามหลังช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง ไม่อยากสะดุด แล้วจู่ๆ ก็มีนักศึกษาปีหนึ่งวิ่งหยอกกันมาชนเธอจนเสียหลัก สะดุดขาตัวเอง “ว้าย!!!” นาฬิการ้องออกมา คว้าคนที่ใกล้มือที่สุดไว้ไม่ให้ตัวเองล้ม เธอจึงอยู่ในท่าที่กอดผู้ชายตรงหน้าจากด้านหลัง “ขอโทษครับพี่” เด็กนักศึกษาบอก แล้วยืนนิ่งเพื่อให้คนข้างหน้าตัดสินโทษ นาฬิกาภาวนาให้คนที่เธอกอดอยู่คือเวฬา แต่กลิ่นน้ำหอมมันไม่คุ้น เธอรีบผละออกจากแผ่นหลังกว้างนั้นทันที “พวกน้องวิ่งหยอกกันในลานเกียร์ของคณะ ที่นี่ไม่ใช่ที่วิ่งเล่นแบบนี้ ไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลสองรอบ” พิพัฒน์สั่งลงโทษเด็กปีหนึ่งเสียงเข้ม ถึงเขาไม่ใช่เฮดว้าก แต่เขาก็เป็นพี่ว้ากที่ทุกคนรู้ว่าจริงจังสุดๆ คนหนึ่ง โทมัสจ้องคนที่มากอดหลังเขานิ่ง เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่โดนตัวเขาได้ถึงสามครั้งภายในเวลาสองวันนี้ด้วยความบังเอิญ มันเป็นอะไรที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ทั้งโทมัสและพิพัฒน์มีคนเข้าหาบ่อยจนชิน ในทุกรูปแบบ บางคนก็เป็นแค่แฟนคลับ ทั้งส่งจดหมายรัก ซื้อขนมมาฝาก มาสารภาพความในใจ แต่พวกเขาก็ปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แต่ก็จะมีคนที่ตื๊อถึงขั้นแกล้งมาเดินชนแล้วเนียนมากอด แกล้งทำเป็นบังเอิญมาเจอบ่อยๆ บ้าง ดักรอหน้าคอนโดบ้างก็มี คนจำพวกนี้โทมัสกับพิพัฒน์ไม่ชอบ เพราะเหมือนรุกล้ำความเป็นส่วนตัวพวกเขามากเกินไป “ขอโทษ” นาฬิกาบอก เมื่อเห็นโทมัสนิ่งไป “มันเป็นอุบัติเหตุนี่ ไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก” พิพัฒน์ตอบแทนโทมัส “อืม ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอก เธอล่ะ เจ็บตรงไหนไหม หน้าผากเธอกระแทกหลังฉันแรงมากนะ” “ไม่ต้องเขินฉันหรอกน่า” โทมัสบอกอย่างมั่นใจ ว่านาฬิกาเขินที่กอดเขา “ฉันไม่ได้เขินนายสักหน่อย” นาฬิกาปฏิเสธความคิดของโทมัส “พี่นา หน้าพี่แดงถึงใบหูเลยนะ” เวฬาทักขึ้นมา พิพัฒน์และโทมัสต่างจ้องดูนาฬิกาที่หน้าแดงไปถึงใบหูอย่างที่เวฬาบอก “ก็เมื่อกี้....ฉันสะดุดที่ลานเกียร์” นาฬิกาบอก “แล้ว..?” เวฬาถามต่อ “ฉันไม่อยากเป็นเมียวิศวะฯ !” นาฬิกาบอกน้องชาย แล้วหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม สามหนุ่มหลุดขำในความซื่อของคนตรงหน้า “โอ๊ย! พี่นา มันแค่ประโยคพูดคล้องจองขำๆ ที่ชาวคณะพูดต่อๆ กันมาเท่านั้นแหละ พี่จะจริงจังอะไรเบอร์นั้น” เวฬาพูด ยิ้มขำไม่หยุด “อ้าว ฉันเรียนเภสัชนะ ไม่ใช่วิศวะฯ ใครจะไปรู้ล่ะว่าพูดเล่นกัน” นาฬิกาบอก แล้วหยิบหนังสือที่ตกที่พื้นเดินไปที่รถ สามหนุ่มเดินตามท้ายเพื่อไปส่งเธอให้ถึงรถ “เดี๋ยวฉันไปส่งน้องเธอให้” โทมัสบอก “ขอบใจนะ” นาฬิกาบอก ส่งยิ้มให้หนุ่มๆ ทั้งสาม แล้วขับรถออกไป นาฬิกาใจเต้นแรงเมื่อคิดถึงตอนที่สะดุดไปกอดโทมัส และตอนที่พิพัฒน์ซื้อน้ำมาขอโทษอีก มันรู้สึกดีจริงๆ แต่ก็ต้องตั้งสติห้ามใจตัวเองไว้ ‘อย่านะนา อย่าไปหลงรักใคร เราต้องรอคู่แท้ของเราเท่านั้น’ นาฬิกาเตือนตัวเองไว้ แต่ในใจก็ยังมีความหวังนิดๆ ว่าเขาคนใดคนหนึ่งอาจเป็นคู่แท้ของเธอก็ได้ เพราะคู่แท้จะมีสายใยที่นำพามาให้พบเจอกันเสมอ และเธอเจอสองคนนี้ถึงสองวันติดๆ กันอีก “พรหมลิขิตชัดๆ” เธอพึมพำเบาๆ มารดาของเธอมักเล่าเรื่องคู่แท้ การการพบเจอกันระหว่างเธอกับบิดาให้ลูกๆฟังเสมอ รักแท้คนแรกและคนเดียว รักแรกที่ทำให้ใจเต้นแรงและใจตรงกัน คนนั้นจะเป็นรักแรกและรักสุดท้าย เป็นคู่แท้ของกันและกัน และนาฬิกาเองก็อยากมีคู่แท้ที่เป็นรักแรกและรักสุดท้ายอย่างมารดาบ้าง เธอจึงไม่สนใจใคร จนตอนนี้ที่มาเจอโทมัส หนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อ กับพิพัฒน์หนุ่มไทยแท้สุดเข้ม รวมถึงเวฬาเอง เขาก็ยึดมั่นในเรื่องคู่แท้ ไม่ต่างกันกับเธอ ***************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม