สามสาวเดินออกจากตึกคณะศิลปศาสตร์ตรงไปยังโรงอาหารของคณะบริหารธุรกิจ ระหว่างทางจะมีซุ้มร้านน้ำเล็กๆ ที่พวกเธอต้องแวะซื้อทุกวันจนเรียกร้านประจำเลยก็ว่าได้
แต่วันนี้กลับมีลูกค้าที่จะบอกว่าไม่คุ้นหน้าก็ไม่ได้เพราะเพิ่งเจอกันในคาบเรียนก่อนหน้า เพียงแค่ไม่เคยเห็นพวกเขานั่งที่ร้านนี้มาก่อน
“ชาเขียวปั่นหวานน้อยเหมือนเดิมค่ะ”
น้ำหอมเดินเข้าไปสั่งเมนูโปรดของเธอ ดวงตากลมโตแอบชำเลืองมองไปทางกลุ่มสามหนุ่มวิศวะฯที่นั่งอยู่โต๊ะมุมสุดของร้านเมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังนั่งคุยกันโดยไม่ได้สนใจมองมาทางนี้เธอจึงหันกลับมาคุยกับเพื่อนสนิทของตัวเองแทน
“เข้าไปถามชื่อเลย”
แพทพูดพลางชำเลืองมองไปทางโต๊ะมุมสุดของร้านเช่นกัน เป็นอันรู้กันว่าตอนนี้พวกเธอกำลังพูดถึงใครอยู่
“รู้ชื่อแล้วไงต่อ”
“ก็ขอเบอร์โทร ไลน์ ไอจี เฟสบุ๊คมาด้วยเลยสิ”
ประโยคของอิ่มทำให้สองสาวถึงกับหันไปมองเธอพลางทำตาโต สาวน้อยสายบุญธรรมะธัมโมกำลังบอกให้เพื่อนเข้าไปจีบผู้ชาย
“แกเป็นใคร กินยัยอิ่มบุญของฉันเข้าไปใช่มั้ย”
น้ำหอมยกมือขึ้นจับที่ต้นแขนของอิ่มทั้งสองข้างก่อนจะทำการเขย่าแรงๆ จนอิ่มรู้สึกเหมือนตัวเองจะอาเจียนออกมาจริงๆ
“โอ๊ย! นี่อิ่มตัวจริงนี่แหละ จะเขย่าให้อ้วกออกมาหรือไง”
“เผื่อแกเป็นตัวปลอมแล้วจะอ้วกตัวจริงออกมาไง ฮ่าๆๆ”
แพทที่เห็นด้วยกับการแกล้งของน้ำหอมพูดพลางหัวเราะขึ้นมาเสียงดังและนั่นก็ทำให้สองสาวเผลอหัวเราะตามไปด้วย
เสียงหัวเราะอย่างลืมตัวของสามสาวดังพอที่จะทำให้ลูกค้าที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ภายในร้านหันมามองเป็นตาเดียวไม่เว้นแม้แต่โต๊ะตรงมุมสุดก็ตาม
“จ้องขนาดนี้เดี๋ยวน้องเขาก็ท้องหรอก”
บอสเอ่ยแซวเพื่อนสนิทพลางปรายตามองไปทางหน้าร้าน สาวน้อยหน้าหวานปนเซ็กซี่นิดๆ ที่เพื่อนของเขาเอาแต่มองไม่วางตาตั้งแต่ในคาบเรียน ไม่สิ! มันจ้องน้องเขาจนแทบจะกลืนกินตั้งแต่ครั้งแรกที่มันเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะเลคเชอร์เลยล่ะ
“เสียงดัง น่ารำคาญ”
แทนพูดอย่างไม่ใส่ใจนักพลางหยิบแก้วอเมริกาโน่เย็นขึ้นมาดูดแล้วเบนสายตาหันไปมองทางอื่น
เขาไม่ได้สนใจเธอเสียหน่อยแค่รู้สึกไม่ชอบใจที่เธอรบกวนการนอนของเขาเมื่อเช้าแล้วยังมายืนจับกลุ่มหัวเราะเสียงดังหน้าร้านอีก
“แต่น้องเขาน่ารักนะเว้ย หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหน”
กายยกแก้วชาเย็นขึ้นมาดูดพลางหันไปมองทางน้ำหอม เขารู้สึกคุ้นหน้าของเธอเพียงแค่ยังนึกไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน
“แหม~ พอสวยหน่อยคุ้นหน้าขึ้นมาเลยนะมึง กูจะฟ้องไอ้เฟิร์น”
เฟิร์นคือแฟนสาวของกาย เธอเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 4 และที่พวกเขาต้องมานั่งอยู่ในร้านนี้ตอนนี้ก็เพราะว่ากายมารอรับแฟนสาวจึงลากเพื่อนมานั่งรอด้วย
“กูคุ้นจริงๆ ไม่ได้จะจีบเว้ย กูคนดีรักแฟนคนเดียวครับ”
กายยืดอกตอบด้วยความภาคภูมิใจ เขากับเฟิร์นคบกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง ถึงใครๆ จะมองว่าเขาเป็นคนกะล่อน ขี้เล่น เฟรนด์ลี่แต่เขาก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางหรือคิดจะทำให้เฟิร์นเสียใจเลย
“น้ำได้แล้วค่าาา~”
แม่ค้าพูดพลางยกแก้วชาเขียวปั่นของน้ำหอม โกโก้ของอิ่มและน้ำแดงโซดามะนาวของแพทขึ้นวางบนเคาน์เตอร์
“เอายังไง น้องเขาจะไปแล้วนะ”
บอสหันไปถามแทนที่ยังคงนั่งหน้านิ่งแต่แอบปรายตามองไปทางหน้าร้านอยู่ตลอดเวลา ปากบอกว่ารำคาญแต่มองไม่วางตาเลยนะมึง
“ไม่ยังไง”
“ไม่จีบ?”
“...”
แทนไหวไหล่เป็นคำตอบ บอสกับกายจึงหันมองหน้ากันอย่างรู้ทัน พวกเขากล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่าเพื่อนของเขากำลังสนใจสาวน้อยคนนั้นอยู่แน่ๆ เพียงแค่มันฟอร์มเยอะ ปากหนักอย่างกับถ่วงหิน จะให้เข้าหาก่อนคงไม่มีทาง
“งั้นกูจีบ”
บอสหันไปยักคิ้วข้างขวาส่งให้แทนก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งของตัวเองเดินตรงไปยังกลุ่มสามสาวที่กำลังยืนจ่ายเงินค่าน้ำและรอรับเงินทอนอยู่
“หึ”
แทนกระแทกเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนจะเบนหน้าหันไปมองทางอื่นอีกครั้ง เขารู้ดีว่าเพื่อนของเขาไม่ได้ตั้งใจจะจีบน้ำหอมอย่างที่มันพูดหรอก เป็นเพื่อนกับมันมาตั้งนานทำไมเขาจะไม่รู้ว่าสเปกผู้หญิงของเพื่อนเป็นแบบไหน
ที่บอสกำลังทำอยู่เพียงต้องการยั่วอารมณ์ของเขาเท่านั้น ทำไปก็เปล่าประโยชน์เขาไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเธออยู่แล้ว
“สวัสดีครับ”
บอสหยุดยืนอยู่หน้ากลุ่มสามสาวพลางส่งยิ้มให้ น้ำหอมเงยขึ้นมองคนตรงหน้าที่มีส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ใบหน้าหล่อเหลาแต่ออกไปทางเพลย์บอยนิดๆ หูข้างขวาใส่ต่างหูรูปไม้กางเขน เธอรู้ว่าเขาคือหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของพี่คนนั้นแต่ที่ไม่รู้คือเขามายืนดักหน้าเธอทำไม
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
น้ำหอมเอ่ยถามในขณะที่อิ่มชำเลืองมองหน้าแพทด้วยสีหน้าสงสัยและแพทก็ทำได้แค่ส่ายหน้ากลับมาเบาๆ เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
“น้องชื่ออะไร เรียนอยู่สาขาไหนเหรอครับ”
“จะจีบเหรอคะ”
คำถามยิงตรงของน้ำหอมทำให้บอสชะงักไปเล็กน้อยไม่คิดว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะเป็นคนพูดตรงขนาดนี้
“แล้วได้มั้ยครับ”
“ไม่ได้ค่ะ”
น้ำหอมตอบกลับไปทันที จะให้จีบได้ยังไงในเมื่อคนที่เธอสนใจคือพี่คนที่นั่งอยู่ตรงนู้นต่างหาก ไม่ใช่คนที่ยืนอยู่ตรงนี้เสียหน่อย
‘หมดหวังแล้วยัยหอมเอ้ย ปฏิเสธเพื่อนเขาไปซะขนาดนี้’
“อ๋อ! พอดีว่ารุ่นพี่ในสาขาหวงมากเลยค่ะ พี่เขาบอกว่าถ้ามีหนุ่มๆ จากคณะอื่นจะมาจีบให้ไปขอรุ่นพี่เองค่ะ”
คำตอบของน้ำหอมทำให้เสือยิ้มยากอย่างแทนมุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย เธอหาเหตุผลมาปฏิเสธโดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนเขาน่ะคาสโนว่าตัวพ่อขนาดไหน บอสรู้จักสาวๆ แทบจะทุกสาขาในมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว
“งั้นน้องอยู่สาขาอะไรครับ เดี๋ยวพี่ไปขอรุ่นพี่เอง”
บอสถามกลับพลางอมยิ้มนิดๆ นึกขำกับเหตุผลที่เธอยกขึ้นมาอ้างผู้หญิงแบบนี้แหละที่จะเข้ามาทำให้ชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายของเพื่อนเขามีสีสันขึ้นมา
“เอ่อ...”
น้ำหอมถึงกับไปไม่เป็น คิดว่าพูดไปแบบนี้แล้วพี่เขาจะยอมถอยไปเสียอีก ที่ไหนได้ ดันใจสู้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เราเรียนการตะ...”
“การบัญชีค่ะ”
อิ่มที่กำลังจะตอบไปตามความจริงปิดปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อน้ำหอมพูดแทรกขึ้นมา แพทหันไปจ้องหน้าอิ่มจนดวงตาแทบจะถลนออกมา รู้นะว่าเพื่อนของเธอเป็นคนซื่อแต่ก็ไม่คิดว่าจะซื่อขนาดนี้
“ขอตัวก่อนนะคะ”
น้ำหอมรีบเดินเลี่ยงออกมาทันที ขืนยืนอยู่ตรงนั้นต่อคนที่จะหลุดโป๊ะออกมามากที่สุดคงหนีไม่พ้นเพื่อนสาวแสนซื่อแถมบื้อของเธอนี่แหละ
“หอมไปโกหกพี่เขาทำไมล่ะ”
อิ่มเอ่ยถามอีกครั้งในขณะที่พวกเธอกำลังเดินจะถึงโรงอาหารของคณะ แพทถึงกับส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ตอนเด็กๆ แม่ให้กินนมตราไม้บรรทัดหรือไงทำไมถึงได้ซื่อตรงขนาดนี้
“เฮ้ออ~ อิ่มเอ้ยย ก็ไอ้หอมมันชอบพี่คนนู้นมันจะไปยอมให้เพื่อนเขามาจีบได้ไงเล่า!”
“อ่ออออ~ จริงด้วยแต่คิดในแง่ดีพี่เขาอาจจะมาขอให้เพื่อนก็ได้นะ”
ประโยคของอิ่มทำให้น้ำหอมกับแพทหันมองหน้ากัน ก่อนที่น้ำหอมจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วเดินนำเข้าไปในโรงอาหาร
“แต่ถ้าพี่เขาชอบมึงจริงๆ พี่คนที่มึงชอบเขาก็ต้องหลีกทางให้เพื่อนอ่ะดิ”
แพทเดินตามเข้ามานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของเพื่อนสาว แพทและน้ำหอมจะแทนด้วยเองด้วยคำว่ากูมึงและในประโยคก็จะมีคำหยาบสารพัดเหมือนคนที่เกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อนทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ต่างจากอิ่มที่สองสาวแทบจะไม่พูดคำหยาบกับเธอเลยอาจจะเป็นเพราะอิ่มไม่พูดคำหยาบพวกเธอจึงไม่กล้าพูดด้วย
น้ำหอมถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเพื่อนของเธอเริ่มคิดเป็นตุเป็นตะไปกันใหญ่
“มึงฟังนะ กูชอบเพราะเขาหล่อเหมือนกับมองดาราหรือคนหล่อคนอื่นๆ นั่นแหละ ไม่ได้คลั่งไคล้ ไม่ได้คิดจะเอามาเป็นแฟน”
“แล้วถ้าได้?”
“ก็เอา”
“ดีออก!”