EP 1 | แรกพบสบตา

1556 คำ
@RMU University ร่างบางของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 2 กำลังวิ่งสุดแรงเกิดเข้าไปในตึกคณะศิลปศาสตร์ซึ่งวันนี้เธอมีเรียนวิชาเสรีที่นี่และน้ำหอมรู้ตัวดีว่าตอนนี้เธอกำลังจะเข้าเรียนสาย กระโปรงทรงเอเข้ารูปที่สวมใส่อยู่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการก้าวขาด้วยความเร็วของเธอเลยสักนิด โชคดีที่วันนี้เธอตัดสินใจสวมรองเท้าผ้าใบเพราะถ้าเป็นรองเท้าส้นสูงละก็เธอคงได้ล้มหน้าคว่ำอยู่แถวนี้แน่ๆ “เฮ้ออ เฮ้ออ~” น้ำหอมหยุดยืนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง มือเรียวยกขึ้นจัดทรงผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะตัดสินใจย่อตัวลงเพื่อแอบเข้าห้องเรียนทางประตูหลัง วิชานี้เป็นวิชาที่เรียนรวมกับคณะอื่นๆ จึงไม่แปลกที่จะมีนักศึกษานั่งกันอยู่เต็มห้อง ดวงตากลมโตพยายามมองหาอิ่มและแพทเพื่อนสาวคนสนิทของตัวเองเพื่อจะย่องไปยังเก้าอี้ว่างที่เพื่อนจองเอาไว้ให้ “วาสิตา บวรกิจ” เสียงอาจารย์ประจำวิชาที่เอ่ยเรียกชื่อของน้ำหอมทำให้ร่างบางที่กำลังคลานอยู่บนพื้นสะดุ้งจนศีรษะชนกับขอบโต๊ะเลคเชอร์เข้าอย่างจังแต่ก็ยังโชคดีเพราะมีมือของใครบางคนกุมขอบโต๊ะเอาไว้เนื่องจากเขาคนนั้นกำลังนอนหนุนอยู่บนแขนของตัวเอง แรงกระแทกทำให้แทนนักศึกษาคณะวิศวะฯ สาขาอิเล็กทรอนิกส์ ชั้นปีที่ 4 เงยหน้าขึ้นมามองสิ่งที่รบกวนการนอนของเขา สายตาคมกริบกวาดมองไปยังใบหน้าสวยหวานของคนตรงหน้า ดวงตาคู่สวยภายใต้แพขนตางอนที่กำลังจ้องเขาไม่กระพริบ จมูกเชิดรั้นบ่งบอกถึงนิสัยดื้อดึงไม่น้อย ริมฝีปากแสนเย้ายวนที่ทำให้ใบหน้าหวานดูเซ็กซี่ในบางมุม อาการของแทนไม่ต่างไปจากน้ำหอมที่กำลังจ้องคนตรงหน้าด้วยความตะลึง หน้าตาของเขาจะบอกว่าเป็นลูกรักของพระเจ้าก็คงไม่ผิด คิ้วสีดำคมเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลที่ถูกฉาบไว้ด้วยความเย็นชา จมูกเป็นสันคม รูปปากคว่ำลงเล็กน้อยดูเหมือนคนบึ้งตึงหงุดหงิดตลอดเวลา ‘แต่รวมๆ แล้วหล่อมาก หล่อกระแทกใจฉิบหายไปเลย’ “อุ้ย!” พลั่ก “อ๊ะ!” เมื่อตั้งสติได้ว่าเธอจ้องตากับเขานานเกินไปน้ำหอมจึงดีดตัวถอยจนศีรษะของเธอเกือบจะชนกับเก้าอี้อีกตัวข้างหลังถ้าไม่มีมือของใครยื่นมาบังเอาไว้ก่อน การกระทำของแทนตกอยู่ท่ามกลางความตกตะลึงของเพื่อนร่วมแก๊ง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนเขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เมื่อเห็นว่าศีรษะของเธอกำลังจะชนกับเก้าอี้ตัวข้างหลังมือของเขาก็ยื่นออกไปบังให้อัตโนมัติเสียแล้ว ดวงตากลมโตไล่มองไปตามท่อนแขนที่มีเส้นเลือดนูนเด่นมันช่างดูเซ็กซี่เร้าใจจนเธอลอบกลืนน้ำลาย “ขะ...ขอบคุณค่ะ” น้ำหอมเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เธอก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคนตรงหน้าจะยื่นมือมาบังให้ “วาสิตา บวรกิจ” “มาค่ะอาจารย์” น้ำหอมรีบลุกขึ้นยืนและขานรับชื่อของตัวเอง พลางกวาดสายตามองไปรอบห้องจนเจอสองสาวเพื่อนสนิทของตัวเองที่กำลังมองมาทางเธอด้วยความตกใจไม่ต่างกัน จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงก็เธอลุกขึ้นยื่นอยู่ท่ามกลางวงล้อมของนักศึกษาคณะวิศวะฯที่ล้วนแต่ใส่เสื้อช็อปสีกรมท่ากันทั้งนั้น “แล้วเธอไปทำอะไรตรงนั้น” อาจารย์ประจำวิชายกมือขึ้นจับแว่นพลางหรี่ตามองอย่างจับผิด ตอนนี้สายตาของนักศึกษาร่วมคลาสทุกคนกำลังจ้องมองมาทางเธอเป็นตาเดียว “หนูเอาปากกามาคืนพี่เขาค่ะ” น้ำหอมตอบกลับพลางรีบเปิดกระเป๋าหยิบปากกาสีชมพูหวานแหวววางลงบนโต๊ะของแทนแล้วเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง “ขอบคุณมากนะคะ” “รีบกลับมานั่งที่” “ค่ะอาจารย์” ร่างบางแทบจะวาร์ปตัวไปยังเก้าอี้ว่างข้างเพื่อนสนิทของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ‘เกือบไปแล้วมั้ยล่ะยัยหอม’ “มึงไปยืมปากกาพี่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่” แพท สาวเปรี้ยวซ่าประจำกลุ่มโน้มตัวเข้ามากระซิบถามด้วยความสงสัย ก็นี่มันเป็นคาบแรกที่เรามาเรียนวิชานี้แถมพวกเธอยังตัวติดกันตลอดเวลา มีหรือถ้าน้ำหอมรู้จักรุ่นพี่คนนั้นแล้วเธอไม่รู้ “ปากกากูนี่แหละ ก็คลานเข้าห้องมาทางนั้นเลยอ้างๆ ไปก่อน” น้ำหอมตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก มือเรียวหยิบอุปกรณ์การเรียนในกระเป๋าผ้าของตัวเองขึ้นมาวางบนโต๊ะเลคเชอร์ “เมื่อคืนเลิกดึกเหรอ วันนี้เลยมาสาย” อิ่ม สาวหวานใจบุญอยู่ในศีลในธรรมขยับตัวเข้ามาถามเพื่อนสาวอีกคนเพราะเธอรู้ดีว่าน้ำหอมทำงานพิเศษทุกวันและเรียกได้ว่าทำแทบจะทุกอย่างจนแพทเคยบอกให้เธอไปเปลี่ยนนามสกุลจาก บวรกิจ เป็น ตามประสงค์ วาลิตาทำทุกอย่างได้ตามประสงค์! “อือ เสร็จงานตีสองแล้วอ่ะกว่าจะได้นอนก็ตีสาม วันนี้อาจารย์ดันย้ายเวลามาเรียนแปดโมงอีก” น้ำหอมกลอกตามองบนพลางบ่นกระปอดกระแปด วันนี้เธอคงมาไม่สายหรอกถ้าอาจารย์ไม่เลื่อนเวลาคาบเรียนให้เร็วขึ้นมากว่าเดิมหนึ่งชั่วโมง ถึงจะต้องทำงานเยอะแต่เธอก็ไม่เคยละทิ้งเรื่องการเรียนเลยสักครั้งเพราะจุดประสงค์ของการทำงานคือหาเงินมาส่งตัวเองเรียนนั่นเอง เธอมีพี่ชายหนึ่งคนซึ่งนิสัยแตกต่างกับเธอโดยสิ้นเชิง น้ำเหนือพี่ชายของเธอทำตัวเป็นคุณชายติดหรูดูแพงเลือกที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังเพราะมีคณะที่ตัวเองใฝ่ฝันเอาไว้ โดยไม่ได้สนใจฐานะทางการเงินของที่บ้านเลยสักนิด ผู้เป็นพ่อทำงานเป็นช่างตัดชุดนักเรียนในโรงงานแห่งหนึ่งที่เดียวกับผู้เป็นแม่ซึ่งอยู่ในตำแหน่งช่างเย็บ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยังไม่รวมไปถึงค่าเทอมของลูกๆ ทำให้เงินเดือนทั้งสองคนรวมกันก็ยังชักหน้าไม่ถึงหลัง น้ำหอมจึงเลือกที่จะทำงานส่งตัวเองเรียนเพราะอยากแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ อีกอย่างที่พ่อและแม่ยอมให้พี่ชายเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นเพราะน้ำเหนือบอกว่ามันคือความฝันสูงสุดในชีวิตเขา เรียนจบมาทำงานได้เงินเดือนดีๆ เขาจะเป็นเสาหลักให้ครอบครัวเองแต่นี่ก็เรียนมาห้าปีแล้วไม่มีวี่แววว่าจะจบเสียที “แต่พี่คนนั้นเขาหล่อมากเลยนะ” แพทหันมากระซิบกระซาบอีกครั้งในขณะที่มือกำลังจดเลคเชอร์ตามอาจารย์และสายตาก็จดจ่ออยู่ตรงหน้าจอโปรเจคเตอร์ มือของน้ำหอมชะงักเล็กน้อยเมื่อเผลอนึกไปถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เพิ่งสบตากันมาแถมการกระทำยังดูสวนทางกับหน้าตาแสนเย็นชาของเขาอีกด้วย “แหนะ! เงียบแบบนี้ชอบอ่ะดิ” แพทละสายตาจากข้างหน้าหันมามองเพื่อนสนิทเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา เช่นเดียวกับอิ่มถึงเธอจะนั่งจดเลคเชอร์แบบเงียบๆ ไม่ได้เอ่ยถามอะไรแต่ก็อยากรู้คำตอบจากปากเพื่อนสาวเช่นกัน “ก็ชอบนะ หล่อดี” น้ำหอมยอมรับออกไปตามตรงพลางหันไปขยิบตาอย่างขี้เล่นส่งให้แพทแล้วหันกลับมาสนใจเนื้อหาการเรียนในหน้าจอโปรเจคเตอร์เหมือนเดิม เนื่องจากเธอทำงานเยอะจึงไม่ค่อยมีเวลาทบทวนบทเรียนทางเดียวที่ทำได้ดีที่สุดคือการทำความเข้าใจเนื้อหาในห้องเรียน “คนนี้มาวะ” แพทเอ่ยแซวด้วยใบหน้ากรุ้มกริ่มแล้วจบบทสนทนาลงเพราะรับรู้ได้ถึงสายตาพิฆาตที่ส่งมาจากอาจารย์ประจำวิชา “อาทิตย์หน้าอาจารย์จะให้จับกลุ่มสมาชิกหกคนเพื่อทำรายงานนะคะ นักศึกษาสามารถจับกลุ่มกันก่อนได้เลยแล้วอาทิตย์หน้าก็เข้ามานั่งเรียนเป็นกลุ่มให้เรียบร้อย วันนี้เลิกคลาสได้ค่ะ” “ขอบคุณค่ะอาจารย์/ขอบคุณครับอาจารย์” นักศึกษาบางคนเริ่มจับกลุ่มกันเลยส่วนบางคนก็เดินออกจากห้องไปทันทีค่อยมาหากลุ่มในอาทิตย์หน้า “เรามีสาม ต้องหาอีกสามอ่ะ” อิ่มพูดขึ้นในขณะที่มือกำลังเก็บอุปกรณ์การเรียนของตัวเองใส่กระเป๋า เพื่อนในสาขาที่ยังเหลืออยู่ในห้องดูเหมือนจะได้กลุ่มกันหมดแล้วส่วนที่เหลือก็ทยอยเดินออกจากห้อง น้ำหอมลุกขึ้นยืนพลางหันกลับไปมองโต๊ะแถวหลังสุดที่ตอนนี้พบเพียงแค่ความว่างเปล่า กลุ่มเสื้อช็อปที่เคยนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ลุกขึ้นออกจากห้องไปหมดแล้ว “อยากจับกลุ่มกับพี่เขาอ่ะดิ” แพทเอ่ยแซว “บ้า! แค่หันมองเฉยๆ” “ว่าแต่พี่เขาชื่อไร” “จะเอาเวลาไหนไปถามล่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม