“มาแล้วววววว~”
เสียงของเฟิร์นดังขึ้นก่อนที่ร่างบางจะเดินเข้ามาในร้านเสียอีก สามหนุ่มวิศวะฯที่กำลังนั่งรออยู่ถึงกับส่ายหน้าพร้อมกันด้วยความเอือมระอา
“ตัวเองจะเสียงดังทำไมเนี้ย”
กายหันไปพูดกับแฟนสาวพลางขยับตัวเพื่อให้เฟิร์นนั่งลงข้างๆ เขาบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน
“เขากลัวตัวเองไม่ได้ยินไง”
“เอาจริง แค่เสียงกระซิบของมึงก็ได้ยินกันทั้งมอแล้ว”
บอสพูดปนขำ ที่เขาพูดกูมึงกันอย่างสนิทสนมเพราะบอสและเฟิร์นเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม เมื่อมาเข้ามหาวิทยาลัยก็ดันบังเอิญมาเป็นแฟนกับกายเพื่อนในกลุ่มเดียวกันอีก
“อิเชี่ยบอส ตัวเองดูมันสิ!”
เฟิร์นชักสีหน้าไม่พอใจก่อนจะหันไปฟ้องแฟนตัวเองเพื่อเรียกคะแนนสงสาร จนบอสอดหมั่นไส้กับจริตจะก้านของเพื่อนตัวเองไม่ได้
“อ๊ะ! เดี๋ยวนี้แทนเปลี่ยนแนวเหรอ”
นิ้วเรียวชี้ไปทางกระเป๋าเสื้อช็อปที่เสียบปากกาด้ามสีชมพูหวานแหววเอาไว้ ดูจากสีปากกาแล้วเฟิร์นแทบไม่อยากจะเชื่อว่าแทนจะเป็นคนซื้อมาเอง
“มันซื้อมาที่ไหนล่ะ สาวให้มา”
กายหันไปตอบแฟนสาวพลางจะคว้าแก้วชาเย็นของตัวเองแต่กลับโดนเฟิร์นปาดหน้ายกขึ้นไปดูดเสียก่อน
“เดี๋ยวนี้เขาจีบกันโดยการซื้อปากกาให้เนี้ยนะ”
เฟิร์นถึงกับคิ้วขมวด เธอไม่เคยเจอวิธีจีบผู้ชายแบบนี้มาก่อนแถมปากกาที่ซื้อมาให้ก็ดูไม่เข้ากับหน้าตาและฐานะของแทนเลยสักนิด
“เออๆ มึงมีเพื่อนเรียนสาขาบัญชีบ้างป่ะ”
บอสรีบเข้าเรื่องที่ตัวเองกำลังสงสัยทันที ถ้าถามว่าเรื่องความรักของตัวเองนั้นเอารอดไหม แน่นอนว่าไม่เพราะเขาเป็นคนรักอิสระไม่ชอบการผูกมัดแต่สำหรับเรื่องความรักของเพื่อน บอสพร้อมจะซัพพอรต์เต็มที่แม้คนอื่นๆ จะรู้ทันว่าเขาอยากสอดรู้สอดเห็นมากกว่าซัพพอร์ตก็ตาม
“เยอะแยะ ทำไม? มึงเล็งคนไหนไว้อีก”
“ไม่ใช่กูเล็ง นู่นต่างหาก”
เฟิร์นอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อบอสตอบคำถามของเธอพลางพยักพเยิดหน้าไปทางแทน
“จริงอ่ะ! ชื่ออะไรอยู่ปีไหนสำหรับแทนเราช่วยเต็มที่เลย”
ท่าทางกระตือรือร้นของเฟิร์นทำให้กายส่ายหน้าไปมาเบาๆ ถ้าแฟนสาวของเขาสนใจในเรื่องอะไรแล้วล่ะก็ เธอจะพยายามทำมันจนสำเร็จแม้บางเรื่องจะดูไร้สาระแต่ความมุ่งมั่นของเฟิร์นก็เต็มเปี่ยมเสมอ
“ไม่รู้อ่ะดิ กูเข้าไปถามแล้วน้องเขาก็บอกว่าให้ไปถามรุ่นพี่เพราะรุ่นพี่ในสาขาหวงมาก”
“ห๊ะ? ชื่อก็ไม่รู้แล้วกูจะไปหาจากไหน”
“วาสิตา บวรกิจ”
เสียงเข้มพูดขึ้นมาลอยๆ โดยที่เจ้าของเสียงยังคงทอดสายตามองออกไปข้างนอกร้านแต่ก็ทำให้เพื่อนร่วมโต๊ะยิ้มกริ่มขึ้นมาทุกคน
“ไหนบอกไม่สนใจ ทำไมจำชื่อได้วะ”
คำหยอกล้อของบอสทำให้แทนหันกลับมามองเพื่อนร่วมโต๊ะด้วยสายตาเย็นชา เขาไม่ได้สนใจเพียงแค่ในคาบอาจารย์เรียกชื่อเธอตั้งสองรอบ สมองที่ทำงานได้ดีของเขาจึงจำมาเอง
“จารย์เรียกกี่รอบ?”
“ค่าบๆๆ บังเอิญจำได้”
กายตอบกลับอย่างรู้ทันความคิดของเพื่อนก่อนจะหันหน้าไปหัวเราะคิกคักกับบอส ในขณะที่เฟิร์นกำลังทบทวนชื่อที่รู้สึกว่าคุ้นหูเธอมากเหลือเกิน
“วาสิตา บวรกิจชื่อโคตรคุ้นเลยอ่ะ”
“ตัวเองต้องรู้จักแน่ๆ เลยเพราะเขาก็คุ้นหน้าน้องเหมือนกันแค่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน”
เฟิร์นหันขวับไปจ้องหน้าแฟนหนุ่มของตัวเองทันที สายตาคมกริบที่มองมาเล่นเอากายถึงกับขนหัวลุก ประโยคเมื่อสักครู่นี้เหมือนเขากำลังขุดหลุมฝังตัวเองเพราะถ้าเฟิร์นไม่รู้จัก เขาเตรียมงานเข้าแน่ๆ
“รอดูเลย”
นิ้วเรียวยกขึ้นชี้หน้าอย่างคาดโทษ เฟิร์นหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก่อนจะกดเข้าแอปพลิเคชันสีน้ำเงินยอดฮิตแล้วค้นหาชื่อบุคคลที่พวกเขากำลังสงสัย
“นี่ไง!”
เฟิร์นตบเข่าตัวเองด้วยความดีใจที่ค้นหาเจอ จะไม่ให้เธอคุ้นชื่อนี้ได้ยังไงในเมื่อน้ำหอมเป็นรุ่นน้องในสาขาของเธอแถมตอนปีหนึ่งน้ำหอมยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์ในความดูแลของเธออีกด้วย เธอสองคนจึงสนิทสนมกันพอสมควร
“คนนี้ป่ะ!”
สองหนุ่มรีบยื่นหน้าเข้ามาที่หน้าจอโทรศัพท์ของเฟิร์นทันที ส่วนอีกคนทำเพียงแค่ปรายตามองเท่านั้น
หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏเป็นหน้าโพรไฟล์ในแอปพลิเคชันสีน้ำเงินของน้ำหอม โดยที่เธอใช้ชื่อยูสเซอร์ว่า ‘Namhom Wasita’ ส่วนรูปโพรไฟล์ก็เป็นรูปของเธอที่ถ่ายคู่กับไอศกรีมแท่งโปรด
“ใช่! คนนี้แหละ” สองหนุ่มตอบ
“น้องชื่อน้ำหอมเรียนปีสองการตลาด ไม่ได้เรียนสาขาบัญชีซะหน่อย”
“น้องเขาทำกูเสียเซลฟ์แล้วนะเนี้ย หน้าตากูไม่ดีอ่อวะ”
บอสยกมือทั้งสองข้างขึ้นจับแก้มของตัวเองด้วยท่าทางกังวล เห็นได้ชัดว่าน้ำหอมปฏิเสธเขาอย่างไร้เยื่อใยแถมยังโกหกเรื่องสาขาที่เรียนเพื่อไม่ให้เขาตามหาเธอเจออีกด้วย
“ฮ่าๆๆๆ หล่อมากมั่งมึงอ่ะ”
เฟิร์นหัวเราะเยาะเพื่อนก่อนจะหันไปจ้องหน้าคนที่ยังคงนิ่งเงียบเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในวงสนทนา
“ถ้าแทนชอบไอ้หอมเราเชียร์ให้ได้นะ น้องมันเข้ากับแทนได้แน่นอนเพราะแทนไม่ชอบผู้หญิงจู้จี้ จุกจิก น่ารำคาญใช่มั้ยล่ะ รับรองว่าไอ้หอมมันไม่มีเวลาไปคอยโทรตามโทรเช็คแทนแน่นอน”
“ทำไมวะ” บอสถาม
“หอมมันทำงานส่งตัวเองเรียนอ่ะ พริตตี้ เอ็มซี พีอาร์ เด็กเสิร์ฟขนาดทำความสะอาดห้องมันยังรับเลยจะเอาเวลาที่ไหนไปโทรตามแทน”
แทนยังคงนั่งนิ่งเหมือนไม่ได้สนใจอะไรแต่สมองที่ทำงานดีเกินไปของเขากลับจดจำทุกข้อมูล
“บ้านน้องเขาจนมากเลยเหรอตัวเอง”
กายเอ่ยถามด้วยความสงสัยบ้าง ทำงานเยอะขนาดนั้นไหนจะต้องมาเรียนอีกถ้าครอบครัวไม่ได้ลำบากมากก็ไม่รู้จะทำไปทำไม
“เท่าที่รู้ก็ไม่ได้จนมากนะแต่เหมือนจะมีปัญหาภายใน ไอ้หอมมันไม่ได้ลงรายละเอียดอ่ะ เห็นสวยแบบนั้นจริงๆ แล้วหอมมันเป็นคนลุยๆ มากเลยนะ ให้ทำอะไรก็ทำได้หมดเพื่อนมันเรียกกันว่าวาสิตา ตามประสงค์”
เฟิร์นพยายามพรีเซ้นต์รุ่นน้องของตัวเองให้แทนฟังสุดๆ เพราะเธอเองก็สนิทสนมกับน้ำหอมในระดับหนึ่ง รุ่นน้องคนนี้เป็นนิสัยดี น่ารัก เอาการเอางานแถมยังสู้คน ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบง่ายๆ
ถ้าแทนจะจีบน้ำหอมหรือทั้งสองคนได้ตกลงเป็นแฟนกัน แทนน่าจะช่วยซัพพอร์ตน้ำหอมได้ในหลายๆ เรื่อง รุ่นน้องของเธอจะได้ไม่ต้องทำงานหนักขนาดนี้
“อ่ะนี่!”
เฟิร์นยื่นกระดาษโพสอิทที่ตัวเองเพิ่งหยิบขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่างยื่นไปตรงหน้าของแทน เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือมารับไป
น้ำหอม 085-945xxxx
ID: Khunhom.
ภายในกระดาษโพสอิทคือเบอร์โทรศัพท์และไอดีไลน์ของน้ำหอม ในเมื่อน้ำหอมบอกว่าให้มาขอจากรุ่นพี่ในสาขา เฟิร์นก็เลยขอทำหน้าที่รุ่นพี่ที่ดีให้เธอเอง
“เพื่อ?”
“เอ้า! ก็เผื่อว่าแทนอยากจีบน้องมันไง”
“มึงไม่เอากูเอานะ”
บอสยื่นมือมาหวังจะหยิบกระดาษโพสอิทในมือของแทนแต่คว้าได้เพียงแค่อากาศเพราะเจ้าตัวพับกระดาษแผ่นเล็กเก็บใส่กระเป๋าเสื้อช็อปก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“เพ้อเจ้อ”
ประโยคสุดท้ายที่แทนทิ้งเอาไว้ให้บอสก่อนจะเดินตรงไปยังรถบิ๊กไบค์ Ducati Multistrada V4 Rally สีเทาดำคู่ใจแล้วขับออกไปจากมหาวิทยาลัย
“หึ เพื่อนกูจะมีเมียก็คราวนี้แหละ”
“ดีนะที่เป็นแทนเพราะถ้าเป็นมึงแม้แต่เบอร์โทรสักตัวกูก็ไม่ให้หรอก กลับกันดีกว่าตัวเอง”
เฟิร์นพูดพลางลุกขึ้นจับมือกายแล้วรีบเดินออกจากร้านทิ้งให้บอสนั่งประมวลผลกับคำพูดของเธออยู่คนเดียว
“เป็นกูแล้วมันทำไมวะ ไอเฟิร์นนนน~”