“ดอกเบี้ยพิเศษไม่เหมือนใคร คืออะไรคะ นิ่มไม่เข้าใจค่ะ” เธอถามอย่างใสซื่อ อายุยี่สิบห้าปีก็จริง แต่ไม่เคยมีแฟน มีความรัก เพราะชีวิตนี้มีแต่เรียน ทำงานใช้หนี้เท่านั้น จึงไม่เคยคิดเรื่องความรัก
“คอนโดนิ่มใช่ไหม เราไปคุยข้อตกลงกันบนห้องนิ่มดีกว่า”
“อะ...ได้ค่ะ” เธอตอบตกลงอย่างงงๆ แม้จะรู้สึกว่าแปลกก็ตาม แต่ตอนนี้เธอคิดถึงแต่พ่อกับแม่ที่ขอนแก่นเท่านั้น ไม่รู้เป็นยังไงมั่ง แต่ก็ไม่โทษท่านทั้งสอง เพราะหนี้สินที่ท่านเป็นนั้นเป็นเพราะตัวเองอยากเรียนต่อ ท่านจึงได้ไปกู้หนี้นอกระบบมาส่งเรียน ถึงจะกู้เงินเรียน แต่มันก็ไม่พอ ท่านถึงได้ไปกู้นอกระบบมาให้ตนเอง แต่ก็ถูกเจ้าหนี้โกง ใช้เท่าไหร่ต้นก็ไม่ลด ที่จ่ายไปมีแต่ตัดดอก ทั้งๆ ที่ต้นแค่สองแสนเอง
พอเข้ามาในห้องส่วนตัวของพยาบาลสาว ทัชชกรก็มองสำรวจห้องจนทั่ว ห้องนี้ไม่ใหญ่มาก แต่เจ้าของห้องก็ตกแต่งได้น่าอยู่ และใช้พื้นที่ได้คุ้ม มีครัวเล็กๆ มีห้องรับแขกเล็กๆ แยกกับห้องนอน เขาเดินตามเจ้าของห้องไปนั่งยังชุดโซฟาตัวเล็กสำหรับรับแขกของเธอแล้วนั่งลง
“เดี๋ยวนิ่มไปเอาน้ำมาให้หมอหมานะคะ” แล้วเธอก็เดินไปห้อยกระเป๋าไว้ที่มุมตรงประตูห้องแล้วเดินไปรินน้ำใส่แก้วมาเสิร์ฟให้เขา
“ขอบคุณนะครับ อยู่คนเดียวเหรอนิ่ม แล้วห้องนี้ซื้อหรือเช่าฮึ” เขารับแก้วน้ำมาดื่มแล้ววางลงโต๊ะกลางตรงหน้าตนแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาตัวเล็กกางแขนกับพนักโซฟามองดูโทรทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าโซฟาตัวที่ตนเองนั่ง
“นิ่มอยู่คนเดียวค่ะ ซื้อค่ะ” เธอนั่งลงโซฟาตัวเล็กข้างตัวที่นายแพทย์หนุ่มนั่ง
“เอาล่ะ มาเข้าเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้เถอะ หมอจะช่วยจ่ายหนี้ให้ทั้งต้นทั้งดอก แล้วนิ่มก็มาผ่อนกับหมอดีไหม” เขายืดตัวนั่งตรงเอ่ยจริงจัง
“หมอหมาจะให้นิ่มยืมจริงเหรอคะ”
“ใช่ ฉันจะให้นิ่มยืม แต่นิ่ม...”
เขาหยุดพูดแล้วมองเธอด้วยสายตาแพรวพราวจนทำให้คนถูกมองต้องยกมือขึ้นกอดตัวเอง
นวิยารู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร เธอทำงานกับเขามาสองปี ทำไมจะไม่รู้ว่าทัชชกรนั้นเป็นคนยังไง นอกโรงพยาบาลเขาคือเสือผู้หญิง และตอนนี้รู้แล้วว่าเขากำลังต้องการสิ่งใดจากตนตอบแทน คนคนนี้ไม่ยอมเสียเปรียบจริงๆ
“หมอจะให้นิ่มนอนกับหมอหมาเหรอคะ”
“ฉลาดนี่ ถ้ารู้แล้วว่ายังไง ตกลงรับความช่วยเหลือจากหมอไหม หมอไม่ใช่คนดีหรอกนะที่จะช่วยนิ่มฟรีๆ นิ่มก็ต้องมีอะไรตอบแทนหมอมั่ง”
“ถ้านิ่มยอม หมอหมาจะช่วยเหรอคะ”
“แน่นอน ถ้าไม่ตกลง เรื่องที่คุยกันวันนี้ก็ถือว่าไม่ได้คุยก็แล้วกัน”
“แล้วนานแค่ไหนคะ”
“หนึ่งปีทั้งต้นและดอกเบี้ย แต่ถ้าจะจ่ายแค่ดอกเบี้ยก็หกเดือน แต่หกเดือนต้นก็ต้องจ่ายหมดเหมือนกัน” เงินเขาไม่สนใจหรอกจะได้คืนหรือไม่ได้คืน ตอนนี้เขาสนใจแค่ร่างกายของพยาบาลสาวที่แอบคิดลามกกับเธอมาตลอดสองปีที่ได้ทำงานใกล้ชิดกันมากกว่า
เธอไม่คิดมาก่อนว่านายแพทย์หนุ่มสุขุมเวลาอยู่โรงพยาบาลด้วยกันจะเป็นคนแบบนี้ เธอรู้จักเขาแค่ด้านเดียว แต่อีกด้านได้ยินคนอื่นเล่าปากต่อปากมา แต่วันนี้รู้แล้วว่าเขาเป็นนายทุนที่ไม่ยอมขาดทุนแม้แต่แดงเดียว นวิยาขบคิดแล้วก็ต้องจำยอมตกลง เมื่อมองไม่เห็นทางออกในตอนนี้ มีเพียงความช่วยเหลือจากเขา พ่อกับแม่จะได้ไม่ต้องลำบาก
“ตกลงค่ะ”
“เดี๋ยวให้ทนายเอาสัญญามาให้เซ็น ว่าแต่สะดวกเริ่มงานวันนี้ไหม หมอหยุดพรุ่งนี้ ปกติทุกวันหยุดหมอจะมีกิจกรรมในร่มทั้งวันทั้งคืน” เขาบอกพยาบาลสาว
“แต่นิ่มยังไม่พร้อม อีกอย่างพรุ่งนี้นิ่มมีเข้าเวรตอนเช้า”
“เดี๋ยวปลุกไปทำงานเอง ถ้าไหวนะ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวหมอลาป่วยให้”
“แต่นิ่มยังไม่เคย”
“เดี๋ยวสอนให้ ฉันเก่ง ไม่ต้องห่วง ตกลงเริ่มงานคืนนี้ไหม หมอจะค้างที่นี่”
“ถ้านิ่มปฏิเสธล่ะคะ วันนี้ยังไม่พร้อม”
“หมอต้องการวันนี้ และโทรถามแม่ด้วยว่าเป็นหนี้เท่าไหร่ หมอจะโอนเงินให้ และจะให้ทนายทำสัญญามาให้วันนี้เลย จะได้เรียบร้อยแล้วหลังจากนี้ก็เป็นเรื่องของเราว่าไหม” แล้วเขาก็คว้าหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้วแล้วลุกขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มาต่อสายสั่งทนายทำสัญญาให้ตนหนึ่งฉบับ
นวิยาก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าที่เพิ่งห้อยเก็บมากดต่อสายหาแม่ตัวเองเพื่อถามท่านว่ายอดเงินเท่าไหร่ และก็โกหกท่านว่ายืมจากเพื่อน
เวลา 19.30 น.
ทุกอย่างเรียบร้อย สัญญากู้ยืม แม่กับพ่อนวิยาก็ได้เงินไปใช้หนี้เจ้าหนี้แล้ว และต่อไปก็เป็นขบวนการใช้หนี้ของนวิยาแล้ว
“ไปกินข้าวกันเถอะ”
ทัชชกรเอ่ยชวนคนตัวเล็กไปทานมื้อเย็นด้วยกันนอกบ้าน
“หมอหมาไปกินเถอะค่ะ นิ่มจะทำกับข้าวกินเองที่ห้อง”
“งั้นก็ทำเผื่อฉันด้วย ขออาบน้ำก่อนนะ เมื่อย” แล้วเขาก็ลุกเดินไปยังห้องน้ำของเธอทำราวกับว่านี่เป็นห้องของตัวเอง
นวิยาก็ได้แต่มึนงงกับสถานการณ์ตอนนี้ ปกติทำงานกับเขา เขาสุภาพสุขุม เป็นผู้ชายอบอุ่น แต่พอได้เห็นอีกด้านที่เคยได้ยินของนายแพทย์หนุ่มก็ไม่อยากจะเชื่อและก็ตั้งรับปรับตัวไม่ทันกับทัชชกรในโหมดนี้
เวลาเดียวกัน ทางบ้านหลังใหญ่ของทัชชกร แม่ที่เคารพรักของเขากำลังนั่งคุยกับแม่บ้านคนสนิทของตนเอง วันนี้ลูกชายบอกว่าไม่กลับบ้าน ก็เป็นเหมือนทุกครั้ง วันไหนลูกหยุด ลูกชายจะไปกกอีหนูนอกบ้าน ไม่รู้จะทำตัวแบบนี้นานแค่ไหน อีกสองเดือน ศลิษาคู่หมั้นก็จะกลับมาจากเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพื่อจะพูดคุยเรื่องงานแต่งงานกันของทั้งสอง
“พี่วัน ฉันล่ะเหนื่อยจริงๆ พูดกรอกหูทุกวัน แต่ลูกชายฉันก็ไม่ยอมปรับตัวสักที ดูสิ วันหยุดทีไรไม่กลับบ้านทุกที” นางบ่นให้แม่บ้านคนสนิทที่อายุเยอะกว่าตนฟัง
“คุณหญิง เดี๋ยวถึงเวลาหมอหมาก็เบื่อหน่ายไปเองค่ะ คุณษาสวยขนาดนั้นต้องเอาหมอหมาอยู่แน่นอนค่ะ”
“แล้วผู้หญิงที่มันไปนอนกกไม่สวยรึไงพี่วัน แต่ละคนก็เห็นสวยๆ กันทั้งนั้น”