ตอนที่ 9

1452 คำ
คำสารภาพของเขา ไม่อ้อมค้อม คุณวรรณยินดีนักที่ลูกชายไม่ปิดบัง แต่เขาเปิดเผยไม่หมด คงเพราะอาย คุณวรรณนิ่งไปพร้อมริมฝีปากยิ้มออกมา "ผู้หญิงหรือเปล่า ทำให้ลูกแม่เป็นอย่างนี้" นางคาดเดา เพราะลูกชายไม่ยอมบอกแน่ จึงสัพยอกลูกรัก แบบทีเล่นทีจริง ลูกชายสุดหล่อ ยังอมยิ้มอยู่ เขาสูงโปร่ง สง่างามในแบบภูอนล หน้าตาเกลี้ยงเกลาสะอ้าน "คงงั้นมั้งครับ" เขาตอบท่านกลับไป "เอาล่ะ ไม่กล้าบอกแม่ ก็ไม่เป็นไร เพราะเขิน แม่ต้องสืบให้ได้ล่ะว่าลูกชายของแม่ คิดจะตกล่องปล่องชิ้นกับสาวคนไหน" จบแล้วคุณวรรณก้าวออกไป อยากหาลูกสะใภ้ให้ลูกชาย เห็นแล้วคงไม่ล่ะ ภูอนลคงไม่อยากให้นางยุ่มย่ามเรื่องนี้กับเขา ฝ่ายภูอนล จัดการปัญหาส่วนตัวเรื่องของคมกล้าได้แล้ว ต้องใช้ไม้แข็ง กับคนประเภทนี้ ไม้นวมใช้ไม่ได้ คนคดในข้องอในกระดูกอย่างพ่อลูกคู่นี้ บ่ายวันนั้น ชิดชลัยหรือช่องิ้วได้โทรไปหาคุณกนกรัตน์ ผู้จัดการส่วนตัว ว่าธุระเสร็จสรรพด้วยดี สามวันที่หล่อน มาอยู่ที่นี่กับมารดา จนอาการของอาทุเลา และหายป่วย กระทั่งหมอ ให้อนุญาตกลับบ้านได้ แม่ของหล่อน คุณเตือนอนงค์ เป็นห่วงมาก อยากให้ อาประพจน์ ขึ้นไปกรุงเทพด้วยกัน พักอยู่ด้วยกันที่บ้าน จะได้ดูแลใกล้ชิด รักษากับหมอเก่งๆตัวอย่างต่อเนื่อง แต่อาก็ปฏิเสธ เขาชินที่จะอยู่ทางนี้ คุณเตือนอนงค์ทำได้แค่พาเข้าส่งที่พัก มีญาติที่เหลือสองครอบครัว ช่วยดูแล นางฝากอีกที ญาติก็รับปาก มอบเงินไว้ให้อาประพจน์ใช้จำนวนหนึ่ง ก่อนกลับกรุงเทพ เสร็จจากธุระ งานการต่างๆ ที่หล่อนแปลนไว้เริ่มทันที คราวนี้คนว่าจ้างของหล่อนอยู่ต่างประเทศ เขาเป็นใครนั้น หล่อนไม่รู้จัก เพราะไม่เคยเปิดโฉมหน้า รู้แต่ว่าเป็นผู้ชาย และกนกรัตน์รับงานนี้ ด้วยค่าจ้างงดงาม ที่เหลือ จ่ายให้ เมื่อหล่อนทำงานสำเร็จ มีบางรายที่ใจป้ำ เชื่อฝีมือหล่อน ยินยอมจ่ายเป็นเงินสด ให้ก่อน ลงมือทำงาน ด้วยต่างหาก เพราะหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวหล่อน ก็ไม่ทราบ ต้องแยกแยะ เพราะดูแปลก มนุษย์ด้วยกัน มีเขี้ยวอันตราย น่ากลัวเสมอ พิกันดา พี่สาวพบเจอแล้ว จนต้องเอาชีวิตไปสังเวยให้กับมนุษย์ชาติชั่วพวกนั้น คนที่ไม่สมควรเรียก ว่ามนุษย์ แต่เป็นสัตว์เดรัจฉาน และไม่มีทาง ที่หล่อนจะยอมแพ้เสียเปรียบ หลงกับดักเล่ห์พวกมัน ชิดชลัยมีดีพอสมควร สามารถเอาตัวรอดได้ บทเรียนจากพิกันดา ลูกสาวแท้ๆ ทำให้นางเตือนอนงค์ คอยเตือนลูกสาวที่ เหลืออยู่ นางไม่อยาก ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม "พอแล้วนะ ชลัย ให้พี่สาวหนูเป็นบทเรียนสอนนะ ชิดชลัย เพราะกิเลสความชั่วมันไม่เข้าใครออกใคร พวกคนเลว แม่ห่วงลูกเหลือเกิน" "หนูเข้าใจค่ะแม่ ทำงานรอบคอบเสมอ" ตอบให้มารดาเข้าใจ เพื่อคุณเตือนอนงค์สบายใจขึ้น "คนนามสกุลปัญจดิลก ใช่มั้ยค่ะ ที่ทำร้ายพิขนาดนั้น สัญญาค่ะแม่ ชลัยจะเอาคืนให้สาสม" ชิดชลัยประกาศออกมา ทั้งเจ็บปวดและสะเทือนใจ ที่สูญเสียพี่สาว ซึ่งรักกันมาก ตอนมีชีวิตอยู่ พิกันดาดูแลช่วยเหลือน้องสาวนอกไส้ตลอด "ใช่ ลูก คนนามสกุลนั่น ที่พิในเขียนจดหมาย ก่อนตาย" นางเตือนอนงค์จำได้แม่น เพราะเข้าไปพบจดหมาย เขียนทิ้งที่โต๊ะ ในวันที่บุตรสาวคนโต กระทำอัตวินิบาตตัวเอง ร่างที่ไร้หายใจ ของพิกันดานอนน้ำลายฟูมปากอยู่บนเตียง "เอ้อ คนที่ลูกคุยด้วยล่ะ ชลัย เขาดีแค่ไหน" “ดีค่ะแม่” ชิดชลัยตอบ “แต่ดีแค่ไหน ต้องดูต่อไปค่ะ ตอนนี้ถือว่าดีมาก เขาแสม่เสมอ” ตอบมารดา ระหว่างที่ พักรับประทานอาหาร บ่ายสองโมง ที่จุดพักรับประทานอาหาร เขตจังหวัดสระบุรี มวกเหล็ก ที่มีภูเขาล้อมรอบ บรรยากาศน่าอยู่ สองแม่ลูก พักรับประทานอาหารที่นี่ มารดา ถามประโยคนี้ ใจสาวขวยเขินไม่น้อย แล้วใบหน้าของเขา ลอยเด่นทันที นี่หรือ ที่เรียกกว่า ความรัก ถวิลหา แต่งานอย่างหล่อน คงมีความรักไม่ได้ งาน ที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ชอบ แต่หล่อนหมดข้อกังขา แต่ไม่ใช่ภูอนล เขาเปิดโลกใบใหม่ให้หล่อนรับทราบ เขายินดีรับรู้ปัญหา แก้ไข และเขาไม่รังเกียจ เขามีแม่เป็นเจ้าของกิจการ นักธุรกิจ หล่อนได้พบท่าน ยังยกมือไหว้ทักทาย ในฐานะท่านเป็นเจ้าของงาน ที่จ่ายค่าจ้างให้หล่อน โลกความรักใบนี้ เป็นโลกที่หล่อนกับเขา รู้จัก ทักทาย กันแค่สองคน ไม่มีบุคคลอื่น ชิดชลัย รู้สึกตื่นต้น ปลื้มใจอย่างแรก ที่สิ่งดีๆ ผ่านมาในชีวิต เขาเหมือนน้ำทิพย์ชุ่มชโลมจิตใจผู้หญิงราคีคาวที่คนตราหน้า เขายอมรับได้ ในการที่หล่อน เป็นหล่อน อยู่ใกล้เขา ความหวั่นไหว เกิดขึ้นในใจ หล่อนมิใช่น้อย อีกคน หล่อนคบหากับด.ร. ที่ เขาเป็นเหมือนพี่ชาย มากกว่า จะมอบสถานะอื่นให้ "นี่ ชลัย แม่ถามถึงคน ที่ลูกกำลังคบหาอยู่ด้วยนะ” นางถาม เพราะลูกสาวคงลืมตอบ "พี่กริชหรือคะ" ชิดชลัยตอบอีกทาง "ถ้าพ่อกริชน่ะ คงไม่ใช่หรอก เพราะแม่เห็นว่า คบหากัน มาหลายปีแล้ว ไม่มีอะไรคืบหน้า" หล่อนไม่ปฏิเสธคำมารดา ถึงอย่างไร พี่ฉายกริช เป็นได้แค่พี่ชายเท่านั้น "เอาเป็นว่า ชลัย ยังไม่เปิดตัว ตอนนี้หรอกแม่ ขอให้แน่ใจเสียก่อน" คุณเตือนอนงค์ยิ้มในสีหน้า เมื่อได้คำตอบ "ก็ตามใจเรา จะเปิดจะปิด แม่ก็รู้ละ" คุณเตือนอนงค์ตอบ ก็อดหมั่นไส้ลูกสาวไม่ได้ "ค่ะ แม่ ไม่ใช่ อยากปกปิดหรอกนะคะ แต่รอก่อน" หญิงสาวบอกมารดา "จนกว่าชลัยแน่ใจ ว่าที่ตัดสินใจ จะไม่ทำให้ ชลัยเจ็บปวด" หล่อนกล่าวแค่นั้น มองบรรยากาศรอบๆ ที่เป็นเนินเขา พุ่มไม้ เงียบสงบ อากาศที่นี่สดชื่น จากนั้น ขับรถต่อ คิดว่าถึงบ้านพัก อีกชั่วโมงครึ่ง และเขา ภูอนลคิด เหมือนอยู่ในโลกใบนี้คนเดียว ความเหงา ใบหน้าชะโงกผ่านช่องกระจก ในความมืด ที่หนาว ปรากฏภาพดวงหน้าของหล่อนลอยเด่น ให้คิดถึง งานในวันนี้ ช่องิ้วสวยเหมือนเดิม หล่อนพุ่งสายตาไปที่ใครบางคน เหมือนอยู่ในหัวสมองของหล่อนเป็นอย่างดี หลังจากที่ดูโปรไฟว์ ในเฟซบุ้คส่วนตัว และทางอินสตาแแกรมของเขา นามว่า รัชนินทร์ ปัญจดิลก นามสกุลนี้ไม่ใช่หรือที่หล่อนหมายตาและเล็งมานาน นั่นไง หล่อนเจอแล้วผู้ชายสูงๆ คนหนึ่ง ผิวขาวเหมือนตี๋ ใบหน้าใสเป็นวัยรุ่น ผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างหล่อน อยู่ตรงหน้าผู้ชายที่ชื่อ รัชนินทร์ ปัญจดิลก นอกเหนือไปจากการทำงานตามคำบงการนั้น หล่อนต้องการทำงานเพื่อตัวเองด้วย จึงไม่แปลกที่ตั้งแต่คราวแรก รอยยิ้มที่อ่อนหวานเป็นมิตรของหล่อนจึงทั้งโดดเด่นและตรึงใจชายหนุ่มได้เป็นอย่างมาก รัชนินทร์เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ปฏิเสธ เขาถูกมนต์สะกดของหล่อนเพียงแค่รอยยิ้มหวานๆ ไม่ได้แต่งจริตมากมาย เขาคนหนึ่ง ที่ถึงกับมองหล่อนด้วยสายตาหลงใหล จนชะงักค้าง ให้ตายสิ ไม่เคยได้รู้จักชื่อหล่อนมาก่อน สวยสะขนาดนี้ เพิ่งได้ยินครั้งแรก จึงยอมรับ ที่ใครหลายคนบอก หล่อนสวยและมีเสน่ห์มากรวมทั้งเขา อีกคน ที่อยากอยู่ใกล้หล่อน การทักทายคำแรก เกิดขึ้น หล่อนในชุดกระโปรงสีอ่อนหวานเหมาะเจาะกับใบหน้าและเรือนร่าง "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณรัชนินทร์" "ครับ เรียกผมว่า ต่อดีกว่า ง่าย ไม่ต้องทางการขนาดนั้น" เขาตอบทักทายด้วยคำสุภาพ "ไม่เป็นไร นี่คะ ช่อพูดในฐานะ ที่เรายังไม่ได้รู้จักกันมากเท่าไหร่" ยิ้มของหล่อน ไม่พร่ำเพรื่อ แต่อ่อนหวานมีเสน่ห์อย่างไรไม่รู้ เขาถึงกับบอกตัวเองไม่ถูก ไม่แปลกที่ พิวัฒน์ เพื่อนของเขาบอก หล่อนเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากที่สุด และผู้ชายทุกคนอยากเข้าไปใกล้ ตอนนี้ เห็นด้วยกับคำนั้นซ้ำชื่นชมสายตาของพิวัฒน์ด้วยซ้ำว่า ตาถึง "เอ้อ ทีนี้ตาคุณแล้วล่ะครับ ช่วยแนะนำตัวหน่อย" "เรียกฉันว่า ช่อ ก็ได้ค่ะ หรือ จะเรียกว่าช่องิ้ว"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม