พอมีเสียงอันสั่นเครือออกมาได้ไม่นาน ใบหน้าเรียวรูปไข่ก็มีน้ำตาไหลรินออกมา ทำเอาสองผู้ใหญ่ตกใจไม่น้อย ชายหนุ่มต้องถอยออกมา ให้กันยาเข้าไปปลอบขวัญแทน “ไม่หิวก็ไม่เป็นไรค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยดื่มนะคะ คืนนี้ดึกแล้ว น้องเหนือนอนก่อนดีกว่าค่ะ”
ภีมวัจน์แอบถอนหายใจออกมาเบาๆ กับจ้องมองเด็กสาวสะอื้นไห้อยู่กับอกแม่จ๋าที่คอยปลอบขวัญด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอยู่อย่างนั้น เลยค่อยๆ ถอยออกจากห้องปิดประตูให้เรียบร้อย ก่อนจะตรงไปยังห้องของตัวเองที่อยู่อีกฟาก แม้จะสงสารเด็ก แต่เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง นอกจากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจิตแพทย์เท่านั้น เพราะมองไม่เห็นทางไหนแล้ว จึงยอมควักกระเป๋าจ่ายค่ารักษา และหวังว่าอีกไม่นานทุกอย่างคงจะดีขึ้นกว่านี้
หลังกลับจากดูงานโรงแรมแล้ว พอลงจากเฮลิคอปเตอร์ได้ ภีมวัจน์ก็นั่งทำงานอยู่ชั้นห้าตลอดวัน ตกเย็นก็ขับแลนด์โรเว่อร์มาบ้านญาติกา สาวผู้เขาสนิทสนมมานานนม ทั้งๆ ที่ไม่ได้มาหาหลายเดือนแล้ว แต่เพราะยังไม่อยากเอาหน้าไปให้คุณนายแม่มองแบบขุ่นๆ เคืองๆ สักเท่าไหร่
ตั้งแต่โบ๊งเบ๊งกันวันนั้น เขาก็ลุยงานอยู่กรุงเทพตลอด และตั้งชื่อใหม่เป็น ‘โรงแรม พีเค เรสซิเดนซ์ วิภาวดี’ แถมเขาก็เอาเงินส่วนตัวโอนค*****นกองกลางจนครบทุกบาททุกสตางค์ เพราะกลัวแม่กับน้องๆ จะไม่พอใจ ไม่เห็นดีเห็นงามในการซื้อครั้งนี้ ไว้ถ้าทุกคนอยากมีหุ้นก็ค่อยขายให้ทีหลัง
เจ้าของบ้านสาวเดินออกมาต้อนรับตรงหน้าประตูด้วยความแปลกใจ แต่พอจะเดาได้ว่าเขามาด้วยสาเหตุใด เพราะภีมภาเอาเรื่องวันนั้นมาเล่าให้แม่ของเธอฟังแล้ว รวมทั้งเรื่องที่เขางอนทุกคนแล้วไปหมกตัวอยู่กับงานใหม่ไม่กลับบ้านหลายวันเช่นกัน
“คุณหนาวจะดื่มอะไรเย็นๆ ดีคะ เบียร์หรือน้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพร”
แม้ญาติกาอายุเท่ากับเขา เรียนมัธยมด้วยกัน สนิทสนมกันในฐานะเพื่อน จนเรียกแค่ชื่อเฉยๆ ยังได้ แต่เพราะห่างกันตอนเขาไปเรียนต่อเมืองนอก บวกกับฐานะทางบ้านต่างกันมาก ร้านผ้าไหมของเธอก็เช่าพื้นที่ลานนา สแควส์ อยู่ในราคาถูกแทบจะเรียกว่าได้ฟรี การจะตีสนิทกับเขานั่นเป็นเรื่องไม่สมควรในสายตาคนรอบข้างแน่ การดึงคำว่า ‘คุณ’ มานำหน้าจึงเกิดขึ้น ตั้งแต่ทั้งสองกลับมาพบกันอีกครั้งหลังเขากลับจากอังกฤษ
‘ดีแล้วล่ะที่ออมเรียกแบบนั้น แม่เองก็ยังไม่กล้าเรียกขนุนเฉยๆ เลย ต้องมีคุณนำหน้าทุกครั้ง เรากับเขาไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ก็ไม่ควรจะไปทำตัวสนิทสนมให้เป็นขี้ปากคนเปล่าๆ จ้ะ’
แม่เองแม้จะเป็นเพื่อนบ้านกับแม่ของเขาตั้งแต่อยู่แม่สายก็ไม่กล้าตีสนิทด้วย เพราะทุกคนรู้ดีว่าที่มีวันนี้มาได้ก็ได้โอกาสจากครอบครัวเขาหยิบยื่นให้ ถึงได้เปลี่ยนจากแม่บ้านสามีตายเย็บผ้าเลี้ยงลูกสาวหนึ่ง ลูกชายสอง กลายมาเป็นเจ้าของห้องเสื้อดังจนมีอันจะกินได้มาทุกวันนี้
“ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพคุณหนาวยังไม่เข้าบ้านเลยใช่มั้ยคะ”
“ไปก็ถูกบ่นหูชากันพอดี” เขาตอบแบบเซ็งๆ
“คุณป้าไม่บ่นเรื่องนั้นแล้วล่ะค่ะ แต่จะเป็นเรื่องคุณหนาวหนีไปขลุกอยู่กรุงเทพฯ ไม่ยอมกลับมาหาแทน”
“รู้ใจจัง แบบนี้ออมน่าจะเป็นลูกสาวของคุณนายอีกคนนะ”คนพูดไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังนั้นหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที เพราะได้ยินคำนี้กับหูมาหลายปีจากปากคุณป้าขนุนเอง
‘ถ้าป้าได้หนูออมมาเป็นลูกสาวอีกคนก็คงจะดีนะ จะได้มาช่วยกันแท็คทีมจัดการเจ้าหนาวเวลามันดื้อแพ่งไม่ยอมทำตามคำสั่งน่ะ ว่าแต่คบหากันมาตั้งนานแล้ว เมื่อไหร่จะลงเอยกันสักทีล่ะ ป้าอยากอุ้มหลานจะแย่แล้วนะ’
แต่มันก็เป็นเพียงคำของแม่เขา ไม่ใช่ออกจากปากเขา และการคบหากันของเขากับเธอนั้นก็ยังมาไกลสุดได้แค่คนคุ้นเคย มากกว่าเพื่อนแต่ไม่เหมือนแฟน “ไม่เป็นค่ะ กลัวคุณหนาวเบื่อเพราะมีสองสาวแล้ว แต่ออมอยากให้คุณหนาวเข้าใจคุณป้ากับทุกคนนะคะ เพราะห่วงภาพพจน์คุณหนาวด้วยกันทั้งนั้น”
“แต่ผมไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆ คิดนะ ถ้าออมเห็นเด็กคนนั้นแล้ว รับรองได้ว่าออมก็ต้องทำเหมือนผมนี่ล่ะ ผมเลยไม่อยากเอาอนาคตของเด็กมาแลกกับการแคร์คำคนสักเท่าไหร่”
“ทุกคนแค่กลัวเท่านั้นล่ะค่ะ ถ้าคุณหนาวไม่ได้คิดอะไรก็ไม่เห็นต้องโกรธเลยนี่คะ ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อ แต่ต่อไปทุกคนก็จะลืมเองล่ะค่ะ คุณหนาวจิบเบียร์ไปก่อนนะคะ ออมจะรีบขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวต้องไปซื้อของอีกค่ะ”
“ซื้ออะไรเหรอ แล้วเราจะไปไหนกัน”
ภีมวัจน์ไม่อยากเข้าบ้านตอนนี้เลยให้ตายดิ้น จึงทำเป็นแกล้งลืมเอาดื้อๆ “ก็ไปบ้านคุณหนาวไงคะ แต่ก่อนไปออมต้องแวะซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณหนิงก่อน หรือคุณหนาวลืมแล้วคะว่าวันนี้วันอะไร”
ภีมวัจน์ถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะลงจากรถเดินตามญาติกาไป ประหนึ่งนี่ไม่ใช่บ้านของตัวเองด้วยซ้ำ พอถึงใต้ถุนบ้าน เห็นคุณนายแม่กำลังง่วนอยู่กับการชี้นิ้วสั่งนั่นนี่หนานวงศ์ ไม่ยอมหันมาทางเขาเลย ไม่รู้ว่ายังไม่เห็นหรือทำเป็นไม่เห็นกันแน่
เพราะทุกคนเห็นเขาตั้งแต่จอดรถตรงหน้าบ้านแล้วด้วยซ้ำ น้องสาวทั้งสองกำลังช่วยกันหั่นหมูกับเนื้ออยู่ ก็ส่งสัญญาณให้เป็นกำลังใจพร้อมกับยิ้ม เขาถือกระเช้าผักสดเพื่อสุขภาพมาด้วย จากการแนะนำของญาติกาที่รู้ว่าอะไรก็ตาม ถ้าลูกชายคุณป้าขนุนถือติดมือมาให้ ก็จะทำให้หายเคืองได้ทั้งนั้น เพราะเป็นลูกสุดรักสุดหัวใจ
“คุณหนาวเอาไปให้คุณป้าสิคะ เดี๋ยวออมถือของขวัญไว้ให้เองค่ะ” ญาติกาสะกิดนิดๆ แล้วรับอีกถุงมาถือไว้ให้ ภีมวัจน์เดินเข้าไปใกล้ๆ แม่ ที่ยังหันหลังให้ แม้จะเห็นว่าลูกมาแล้ว แต่ยังคงไว้เชิง ทำชี้นิ้วสั่งอย่างไม่จำเป็นเลยสักนิด