EP 9

1122 คำ
ภีมวัจน์ไม่คุ้นชินกับการเรียก ‘น้อง’ นำหน้าชื่อมาก่อน เพราะที่บ้านก็จะเรียกชื่อไปเลย แม่เรียกเขาว่า ‘หนาว’ ในเวลาปกติ กับ ‘เจ้าหนาว’ ในเวลาอารมณ์บูดนิดๆ และเป็น ‘ไอ้หนาว’ ในเวเลาโกรธจัด ส่วนเขาก็จะ ‘หน่อยกับหนิง’ ในเวลาปกติ ‘ยัยหน่อย ยัยหนิง’ ในเวลาอารมณ์บูดนิดๆ “กลับจากโรงพยาบาลก็ขึ้นห้องเลยค่ะ ร้องไห้ตาปูดตาบวมตามเคย โรงเรียนก็หยุดมาจะเดือนอยู่แล้ว ไม่รู้จะพร้อมกลับไปเรียนได้เมื่อไหร่ เดี๋ยวไม่ทันเพื่อนก็จะยิ่งหนักเข้าไปอีกค่ะ” ภีมวัจน์ยอมจ่ายเงินให้ไปหาจิตแพทย์คนเดิม ตั้งแต่ตอนเข้าโรงพยาบาลคราวนั้นแล้วก็รักษาต่อเนื่องมาเรื่อย “หมอบอกว่าต้องใช้เวลาสักระยะค่ะ น้องเหนือไม่ค่อยเปิดใจเลย” กันยาเอ่ยด้วยท่าทีห่วงใย “คุณหนาวไปดูทีสิคะ จะได้มาช่วยกันหาทางแก้ไขค่ะ” “ครับ แต่ผมไม่รู้จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนนะครับ นอกจากรอพึ่งหมอ”   “น้องเหนือคะหลับหรือยังเอ่ย ดูสิคะว่าใครมาหา”น้ำเสียงของกันยาบอกให้เขารู้ว่าคงจะรัก ‘น้องเหนือ’ ไม่น้อย เขาเดินตามเข้าไปด้านใน เจ้าของห้องยังคงนอนกอดตุ๊กตาหมีแบคค่อม จ้องมองเขาแต่ไม่ได้เอ่ยอะไร “น้องเหนือไม่ไหว้คุณหนาวล่ะคะ ดูสิคะว่าคุณหนาวมีอะไรมาฝากเอ่ย” ภีมวัจน์เสียวสันหลังวาบกับที่เขาถือซ่อนไว้ข้างหลัง มันคือตุ๊กตาบลายธ์ ที่สองผัวเมียซื้อไว้แต่ยังไม่ทันได้ให้ลูกก็มาด่วนจากไปก่อน กันยาเลยเอามาให้เขาใช้แก้ขัดไปก่อน สาวน้อยวางตุ๊กตาในอ้อมแขนแล้วลุกขึ้นยกมือไหว้ตามคำบอก “เดี๋ยวแม่จ๋าจะไปเอานมมาให้นะคะ ระหว่างนี้ก็คุยกับคุณหนาวไปก่อน” ภีมวัจน์หันไปมองประตูแล้วส่งสัญญาณให้กันยาเปิดเอาไว้ เพราะไม่อยากให้ใครตำหนิได้ แม้ตัวเองจะไม่คิดอะไรล้านเปอร์เซ็นต์ และไม่แคร์ด้วยว่าใครจะคิด แต่ต้องห่วงความเหมาะสมอยู่ดี กันยาดูเหมือนจะพึงพอใจไม่น้อยเลยส่งยิ้มให้ก่อนผละไปจริงๆ “สวัสดีค่ะน้องเหนือ ให้...” เอาล่ะสิ เขาไม่รู้ว่าจะแทนตัวเองยังไงด้วยซ้ำ ‘ผม! ก็ไม่เข้าท่า พี่! ก็แลจะเว่อร์ไป อา! ก็อืมนะ! เขาไม่ใช่น้องของพ่อแม่เด็ก ลุง! ก็อืมนะ! แก่ไปไหมสำหรับเขาที่เพิ่งสามสิบสอง’ ตอนยื่นขอเป็นผู้ปกครอง ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ “นั่งมั้ยคะ” นี่ดูเหมือนเป็นครั้งแรกตั้งแต่เห็นหน้ากัน ที่เขาได้ยินเสียงสาวน้อย “ตรงนี้เหรอคะ” ภีมวัจน์มองไปยังเตียงห้าฟุต เจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่พยักน้อยๆ รับ คนตัวโตที่ซ่อนของอยู่ด้านหลังเลยทรุดกายลงนั่งอย่างแผ่วเบา “นมอุ่นๆ ของน้องเหนือมาแล้วค่ะ ดื่มเลยนะคะระหว่างคุยกับคุณหนาว” คนตัวโตอุ่นใจไม่น้อย เมื่อกันยากลับมาอีกครั้ง เพราะไม่คุ้นกับการคุยกับเด็กสักเท่าไหร่นัก และเด็กก็เมินแก้วนมประหนึ่งเห็นยาพิษยังไงยังงั้น “ถืออะไรมาด้วยคะ” เด็กสาวเห็นเขาซุกซ่อนอะไรเอาไว้ “น้องเหนือคะ ทำไมเวลาพูดกับผู้ใหญ่ถึงไม่มีคำนำหน้าล่ะคะ คุณหนาวน่ะอุตส่าห์มาเยี่ยมแล้วก็เอาของมาให้นะคะ” เลยถูกกันยาเอ็ดน้อยๆ “ไม่เป็นไรครับ น้องเหนือคงยังไม่รู้ว่าจะเรียกผมยังไงดี งั้นเอาของขวัญไปนอนกอดก่อนนะคะ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” เขาเชื่อว่าถ้าเป็นเวลาปกติของชิ้นนี้ คงทำให้ใบหน้าเศร้าๆ เบิกบานขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้สาวน้อยแค่ยื่นมือมารับเท่านั้น “ขอบคุณคุณหนาวก่อนสิคะ” “ขอบคุณคุณหนาวค่ะ” มือเล็กเรียวไหว้ทันทีตามคำสั่ง “รู้ได้ยังไงคะว่าน้องเหนือ...” “น้องเหนือคะ อีกแล้วนะคะ เมื่อกี้แม่จ๋าบอกว่ายังไงคะ” เด็กสาวยังพูดได้ไม่กี่คำ ก็ถูกกันยาเอ็ดน้อยๆ และด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อน “ไม่เป็นไรครับป้า น้องเหนือคงยังไม่ชินครับ” ภีมวัจน์หันไปหากันยา แล้วหันกลับมามองเจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่ที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักจนขอบตาปูดบวมด้วยสายตาห่วงใยยิ่ง “เมื่อกี้น้องเหนือกำลังจะถามอะไรนะคะ” ด้วยความเป็นคนใจเย็น เข้าอกเข้าใจสาวน้อยผู้สูญเสียอยู่มาก บวกกับการเป็นพี่ใหญ่ของน้องสาวทั้งสอง ที่จะต้องมีเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคอยระบายกับเขาตั้งแต่จำความได้มาแล้วนั้น ทำให้เขาคุ้นเคยกับการปลอบขวัญอยู่เนืองๆ สาวน้อยนิ่งคิด เพราะยังไม่อยากจะอ้าปากพูดกับคนแปลกหน้า แม้แม่จ๋าจะบอกว่าเขาใจดีเข้ามาช่วยทุกอย่าง แต่ด้วยอายุยังน้อย ด้อยประสบการณ์ด้านการใช้ชีวิต ไหนจะถูกพ่อแม่เลี้ยงดูอย่างดีประหนึ่งไข่ในหิน เลยไม่คุ้นชินกับคนอื่นนัก “น้องเหนือตอบคุณหนาวสิคะ” “คุณหนาวรู้ได้ยังไงคะว่าน้องเหนืออยากได้น้องบลายธ์รุ่นนี้” สาวน้อยเอ่ยถามเสียงเศร้า สองตาก็มองน้องบลายธ์ไปด้วย ใจก็คิดถึงพ่อแม่ไปด้วย “อืม! สงสัยมีนางฟ้าใจดีมากระซิบบอกคุณหนาวมั้งคะ” พอเห็นกันยาย้ำเตือนให้เด็กสาวเรียกเขาว่า ‘คุณหนาว’ ให้ได้ยิน เขาเลยเห็นว่าเข้าท่าไม่น้อย กันยาเองก็เห็นว่าเหมาะสมเช่นกัน ส่วนเด็กสาวนั้นไม่แสดงอาการใดๆ นอกจากจ้องมองกล่องน้องบลายธ์นิ่งๆ   “ให้คุณหนาวช่วยแกะดีมั้ยคะ น้องเหนือจะได้เอามานอนกอดไวๆ ไงคะ” “ไม่ค่ะ เดี๋ยวเปื้อนไว” “งั้นตามใจค่ะ แล้วน้องเหนือไม่ดื่มนมที่ป้า เอ่อ...แม่จ๋ายกมาให้เหรอคะ เดี๋ยวเย็นก่อนนะคะ” ปกติแล้วภีมวัจน์เป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก แต่กับเด็กสาวผู้น่าสงสาร ทำให้เขาต้องพูดประโยคยาวกว่าที่เป็น “เดี๋ยวน้องเหนือลุกมาดื่มตอนดึกๆ ค่ะ” “แต่นี่ก็ดึกแล้วนะคะ น้องเหนือไม่ดื่มก่อนจะได้หลับสบายไงคะ แม่จ๋าอุตส่าห์ยกมาให้ ถ้าน้องเหนือไม่ดื่มเดี๋ยวแม่จ๋าเสียใจแย่นะคะ” สาวน้อยนิ่งคิดกับคำบอกกล่าวนุ่มนวลของคนแปลกหน้าอยู่นาน “แต่น้องเหนือไม่หิวค่ะ น้องเหนือคิดถึงคุณแม่กับคุณพ่อ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม