“คุณหนาวรู้ว่าน้องเหนือไม่ได้กลัว และนั่นเป็นเพราะน้องเหนือไม่ต้องคอยรับผิดชอบชีวิตใครเหมือนคุณหนาวไงคะ น้องเหนือจะเชื่อมั้ยคะถ้าคุณหนาวจะบอกว่า ในความโชคร้ายที่น้องเหนือเสียคุณพ่อคุณแม่ไปนั้น ก็ยังมีความโชคดีหลงเหลืออยู่กับตัวหลายอย่างนะคะ”
“อะไรคะ” เสียงเล็กๆ แผ่วเบาเอ่ยออกมาแม้จะยังก้มหน้าอยู่ตามเดิม
“เพราะน้องเหนือยังมีคุณหนาวก้าวเข้ามาช่วยดึงทุกอย่างเอาไว้ให้ ยังมีแม่จ๋าที่รักน้องเหนือไม่ต่างจากคุณแม่คุณพ่อ ยังมีพี่ไลพี่บุญและพนักงานในโรงแรมที่ต่างรักและหวังดีกับน้องเหนือเสมอๆ และรอที่จะเห็นน้องเหนือเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ แล้วกลับไปดูแลงานทุกอย่างตามรอยคุณพ่อคุณแม่ไงคะ”
“เหรอคะ”
“ใช่แล้วค่ะ และคุณหนาวจะบอกว่าถ้าตอนที่คุณพ่อคุณแม่จากไปใหม่ๆ น้องเหนือไม่เหลือใครแม้แต่คนเดียว ป่านนี้น้องเหนือจะไม่มีเวลามานั่งเศร้าอยู่อย่างนี้หรอกค่ะ น้องเหนือจะต้องดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตโลกภายนอกที่โหดร้าย ไม่มีใครรักใครจริงมากไปกว่ารักผลประโยชน์ที่พึงจะได้จากกันและกันเท่านั้น น้องเหนือเข้าใจที่คุณหนาวบอกมั้ยคะ”
ภีมวัจน์หันไปมองใบหน้าเรียวที่พยักน้อยๆ รับ นั่นแปลว่ากำลังตั้งใจฟังเขาอยู่ และเมื่อเอ่ยเรื่องการจากไปของพ่อแม่เด็กเป็นครั้งแรกขึ้นมาแล้ว เขาเลยตัดสินใจเอ่ยต่อให้จบ
“ถ้าน้องเหนือรู้ น้องเหนือก็ต้องบอกว่าตัวเองยังโชคดีที่มีคนรอบข้างรักและหวังดีอย่างจริงใจ แล้วรีบลุกขึ้นมาสู้กับชีวิตใหม่ให้ได้ ตั้งใจเรียนจนจบปริญญาตรี หรือโท หรือจะด๊อกเตอร์เลยก็ได้ แล้วถ้าถึงวันนั้นน้องเหนืออยากได้โรงแรมของคุณพ่อคุณแม่คืน คุณหนาวก็จะคืนให้และจะคอยดูอยู่ห่างๆ ไม่ทิ้งไปไหนเลย”
“คุณหนาวสัญญานะคะว่าจะไม่ทิ้งน้องเหนือไปไหน”
ใบหน้าเรียวรูปไข่หันมาหาด้วยแววตาเว้าวอนกึ่งไม่มั่นใจ เขาเลยหันไปหาแล้วส่งยิ้มที่บ่งบอกว่าจะไม่คืนคำใดๆ ที่ได้ลั่นออกไปแล้ว “สัญญาค่ะ ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนๆ คุณหนาวก็จะไม่ทิ้งน้องเหนือไปไหนไกลๆ ค่ะ”
“งั้นน้องเหนือจะเรียนบริหารการโรงแรมค่ะ พอจบแล้วน้องเหนือจะไปทำงานแทนคุณหนาวนะคะ”
“ได้สิคะ น้องเหนืออยากเรียนที่ไหนล่ะคะ เมืองไทยหรือเมืองนอก แล้วจะเรียนถึงระดับไหน” ผู้มีวัยวุฒิมากกว่ารู้ได้ด้วยน้ำเสียงว่าความเศร้าค่อยๆ จางหายไปบ้างแล้ว เลยชวนคุยเรื่องอื่นต่อ เพื่อให้เด็กสาวลืมมันไปจนสนิทใจ
“มหาวิทยาลัยในเมืองไทยหลักสูตรอินเตอร์ค่ะ”
“ทำไมล่ะค่ะ เมืองนอกมีหลักสูตรการโรงแรมดีๆ หลายที่ เด่นๆ ก็จะเป็นสวิตฯ น้องเหนือไม่อยากไปเหรอคะ”
“ไม่เอาค่ะ น้องเหนือไม่อยากอยู่ไกลๆ คุณหนาวนี่คะ อีกอย่างน้องเหนือไม่ชอบอากาศหนาวๆ ค่ะ”
ทำเอาอีกคนถึงกับยิ้มออกมาด้วยความขำ เพราะทุกครั้งที่เขาเข้ามาในห้องนี้ก็มักจะเห็นสาวน้อยนอนห่มผ้ากับระดับองศายี่สิบหกของเครื่องปรับอากาศตลอด จนเขาต้องขอลดระดับลง แล้วสาวน้อยก็จะยินยอมพร้อมกับคว้าเสื้อหนาวหรือผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างไว้แทน
“ไม่เหมือนคุณหนาวนะคะที่ออกจะขี้ร้อนตรงข้ามกับชื่อ”
สาวน้อยยิ้มออกมาเพราะตรงกับใจคิดพอดิบพอดี จากท่านั่งหันข้างให้เขาเลยเปลี่ยนมาเป็นหันหน้า ทว่ายังคงพับเพียบเรียบร้อยอยู่ แล้วก็รีบเอ่ยถามในเรื่องที่ค้างคาใจมานานแต่ไม่เคยกล้า ครั้งนี้เด็กสาวคิดว่าคนตรงหน้าคงไม่ว่าอะไรแน่
“ทำไมคุณหนาวชื่อคุณหนาวล่ะคะ ใครตั้งให้คะ”
“ก็พ่อแม่ของคุณหนาวสิคะ ตอนคุณหนาวเกิดเป็นหน้าหนาวพอดี และวันนั้นอากาศหนาวเย็นมาก มีแม่คะนิ๊งตั้งแต่เช้ามืดไปจนสายๆ วันทั้งวันไม่มีแดดเลย อากาศครึ้มลมก็พัดแรง ท่านเลยตั้งชื่อนี้ค่ะ”
“เหรอคะ”
“ใช่ค่ะ ว่าแต่ทำไมน้องเหนือถึงได้ชื่อนี้ล่ะคะ” เมื่อเห็นสาวน้อยมีท่าทีผ่อนคลายและใกล้จะลืมเลือนความเสียใจลงไปบ้างแล้ว เขาเลยถามในเรื่องที่ค้างคาใจมานานเช่นกัน
“คุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวเชียงรายค่ะ พอกลับมาก็ท้องเลยค่ะ”
“จริงเหรอคะ แล้วชื่อปรารถนานี่ใครตั้งให้คะ มีที่มายังไงคะ”
“ตอนแรกคุณแม่บอกว่าคุณพ่ออยากตั้งชื่อเต็มของน้องเหนือว่า ‘เหนือปรารถนา’ ค่ะ แต่ชื่อยาวไปคุณแม่ไม่ยอมเลยแยกเป็นชื่อจริงกับชื่อเล่น เพราะน้องเหนือมาเกิดกับท่านแบบเหนือความคาดหมาย แล้วก็เลยเวลาที่ท่านอยากจะมีลูกมาเป็นปีๆ แล้วค่ะ ท่านไปหาหมอหลายครั้งเพื่อทำ...เอ่อ...อะไรน้า! น้องเหนือลืมชื่อค่ะ”
“ทำกิ๊ปหรือเปล่าคะ หรือว่าเด็กหลอดแก้ว” อีกคนที่พอจะเดาได้เลยต่อให้
“ใช่ค่ะ! ทำกิ๊ปค่ะ คุณแม่บอกว่าทำหลายครั้งด้วยนะคะหมดเงินสี่ห้าล้านแต่ไม่ได้สักครั้งค่ะ จนท่านล้มเลิกความคิดแล้วทำใจว่าจะไม่มีลูกแล้ว แต่พอไปเที่ยวพักผ่อนภาคเหนือเท่านั้นกลับมาก็ท้องค่ะ”
“อ้อ! อย่างนี้นี่เอง”
นี่กระมังที่ทำให้สองผัวเมียรักและเลี้ยงดูลูกคนเดียวอย่างดิบดี ยุงไม่ให้ไต่ริ้นไรไม่ให้ตอม อยากได้อะไรก็จัดหาให้พร้อมสรรพ และไม่เคยให้ทำอะไรนอกจากเรียนหนังสือ เจ้าของใบหน้าขาวสวยครุ่นคิดอยู่นิดหนึ่งขณะจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของผู้ปกครองหนุ่มที่ไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก
“แล้วทำไมคุณหนาวถึงขี้ร้อนจังล่ะคะ ไม่เห็นเหมือนกับชื่อเลย”
“น้องเหนือก็ขี้หนาว ไม่สมกับตอนเกิดที่คุณพ่อกับคุณแม่ไปอยู่เมืองเหนือสักนิดนี่คะ” เสียงหัวเราะคิกของเด็กสาว ทำเอาคนนั่งปลอบอุ่นใจขึ้นมาเป็นกอง
“ทำไมคุณหนาวใจดีจังเลยคะ ไม่เคยดุน้องเหนือหรือทุกคนในบ้านเลยค่ะ”
จู่ๆ เด็กสาวก็เอ่ยคำนี้ขึ้นมา แล้วจ้องมองผู้ปกครองหนุ่มที่ส่งยิ้มให้ขณะคิดว่าจะตอบอะไรออกไปดี “ก็น้องเหนือหรือทุกคนไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ คุณหนาวจะดุทำไหมคะ”