‘คุณหนาวไปไหนคะแม่จ๋า น้องเหนือไม่เห็นตั้งหลายวันแล้ว’
อยู่เสมอๆ แม้จะเรียนหนักเพราะเป็นปีสุดท้าย แต่ก็ไม่วายคอยถามไถ่หา ‘คุณหนาว’ อยู่ดี กันยาไม่อยากค้นหาคำตอบใดๆ ถือเป็นเรื่องของเจ้านาย เลยเดินเข้าครัวเพื่อเช็คข้าวของที่ต้องจัดหามาไว้ ไม่นานก็ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นใครยิ่งรีบรับสาย
‘สวัสดีครับป้าจ๋า’
“คุณหนาวเหรอคะ กำลังคิดอยู่พอดีว่าวันนี้คุณหนาวจะกลับบ้านหรือเปล่าน่ะค่ะ”
‘กลับครับ แม่กับออมก็จะมาด้วย คงพักสองสามวัน ฝากป้าดูแลเรื่องห้องกับอาหารด้วยนะครับ บ่ายๆ ผมถึงครับ’
“ค่ะ” ความเป็นคนพูดน้อยและรู้ฐานะของตัวเองดี ทำให้กันยาไม่อยากบอกหรือถามอะไรมากนัก นอกจากรับคำแล้วทำงานตามปกติ ห่วงก็แต่อีกคนที่ไม่รู้จะดีใจหรือคิดยังไง ถ้าเห็นผู้ปกครองสุดรักสุดบูชาพาใครมาด้วย
“คุณยาย! สวัสดีค่ะ” แต่พอตกเย็น หลังกลับจากโรงเรียนแล้วเห็นว่าใครมา คุณหนูของกันยาก็ยังมีสีหน้าและท่าทางเป็นปกติดี แถมยังยิ้มร่า แล้วโผเข้ากอดภีมภาด้วยความดีอกดีใจยิ่ง
“ไหว้พระเถอะลูก เป็นไงบ้างวันนี้เรียนหนักหรือเปล่า นี่คุณยายทำของกินไว้ให้เยอะแยะเลย คุณหนาวกับพี่ออมก็จะซื้ออะไรกลับมาอีกเพียบ หิวหรือยังคะ” ส่วนคุณยายนั้นไม่ต้องถามถึง ทั้งกอดทั้งหอมแก้มนุ่มๆ ด้วยความรักและเอ็นดูเด็กอยู่แล้ว
“นิดหน่อยค่ะ แล้วคุณหนาวไปไหนล่ะคะ”
“พาพี่ออมออกไปช้อปปิ้งห้างแถวๆ นี้ล่ะค่ะ โน่นไงถามถึงก็มาเลย” คุณยายขนุนชะเง้อคอมองออกไปตรงประตู เมื่อได้ยินเสียงรถลูก ไม่นานก็เดินเข้าบ้านมา มือมีสารพัดถุงหิ้วมาด้วย
“น้องเหนือกลับมาแล้วเหรอคะ พี่ออมซื้อของมาฝากเยอะแยะเลยค่ะ” ญาติกานั้นยิ้มแป้นทักทายสาวน้อยด้วยท่าทีดีใจ และบ่นหาตั้งแต่ลงเครื่องแล้วด้วยซ้ำ
“สวัสดีค่ะคุณหนาว สวัสดีค่ะพี่ออม มีอะไรมาฝากน้องเหนือบ้างคะ”
กันยาเห็นสาวน้อยถลาเข้าไปหาญาติกาพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม แล้วช่วยรับของในมือด้วยท่าทีปกติ ก็สบายใจหายห่วง เพราะอะไรที่หวาดกลัวเอาไว้ คงเป็นเพียงแค่ที่ตัวคิดไปฝ่ายเดียวมากกว่า แต่ก็ไม่อยากวางใจมากมาย และไม่กระโตกกระตาก นอกจากสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เท่านั้น
“แล้วน้องเหนือจะสอบเสร็จเมื่อไหร่คะ หมดเทอมนี้น้องเหนือก็จะจบแล้วใช่ไหมคะ”
คุณนายขนุนถามลูกสาวคนเล็กนอกสายเลือดที่ทรุดกายลงนั่งข้างๆ ทันที “น้องเหนือจะสอบไอจีซีเอสอี ระหว่างเดือนเมษาถึงพฤษภานี่ล่ะค่ะ ต้องรอแจ้งวันที่มาอีกที ผลสอบจะออกเดือนสิงหาถ้าไม่ตกก็จบค่ะคุณยาย”
“เหรอคะ แล้วตกลงจะเรียนต่อการโรงแรมในเมืองไทยอย่างที่เคยบอกคุณยายไว้หรือเปล่าคะ หรือว่าเปลี่ยนใจไปเรียนเมืองนอกตามเพื่อนๆ แล้ว”
“ไม่เปลี่ยนค่ะคุณยาย”
“ดีๆ งั้นพอผลสอบออกมาผ่าน คุณยายจะเลี้ยงฉลองให้นะคะ แล้วก็จะให้ของขวัญใหญ่ด้วย น้องเหนือต้องตั้งใจเรียนแล้วก็สอบให้ผ่านนะคะ”
“ค่ะคุณยาย”
“น่ารักจริงๆ เอ! ว่าแต่ทำไมน้องเหนือไม่อยากไปเรียนเมืองนอกล่ะคะ คุณยายว่าน่าสนุกออก ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ อยู่ที่ใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ น่าจะดีกว่าเมืองไทยนะคะ”
“ดีค่ะ แต่น้องเหนืออยากเรียนเมืองไทยมากกว่า ตอนปิดเทอมจะได้ไปช่วยคุณหนาวทำงานที่โรงแรมไงคะ อีกอย่างน้องเหนือไม่ชอบอากาศหนาวๆ ค่ะ”
“ตายจริงแม่คุณ! อายุแค่นี้รู้จักอยากช่วยงานแล้ว น่ารักจริงๆ ลูกสาวคนเล็กของฉัน ไม่เห็นจะเหมือนเจ้าลูกชายเลยที่บอกอะไรก็ไม่ฟังท่าเดียว” คนนั่งนิ่งมองแม่กับเด็กในปกครองคุยกันต้องสะดุ้งโหยง
“เป็นงั้นไป เฮ้อ!”
ตามด้วยการเหน็บกลับแม่แล้วส่ายหน้าประหนึ่งเอือมระอาเต็มที เลยโดนแม่แหวใส่ไม่ยั้ง “หรือไม่จริงล่ะ อายุอานามเท่าไหร่แล้วยะเรา ทำเป็นเดินลอยชายไปมาไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่อีก ระวังอะไรดีๆ ที่มีในมือจะหลุดไปอยู่มือคนอื่นแทนล่ะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะยะ”
“เฮ้อ! ออมเราไปเข้าครัวดีกว่า ผมอยากกินของที่ซื้อมาเต็มทีแล้ว เย็นนี้ทำอะไรกินครับป้า”
ไม่ว่าเปล่าเขากลับลุกขึ้นแล้วหันไปหาสองสาวต่างวัยที่รีบลุกขึ้นตามเขาอย่างรวดเร็ว “มีหลายอย่างค่ะ เดี๋ยวป้าเอาไปจัดใส่จานให้ดีกว่าค่ะ คุณหนาวกับคุณออมไปนั่งรอในห้องอาหารเลยค่ะ”
เสียงหัวเราะคิกคักเรียกให้ภีมวัจน์ไปยืนอยู่ตรงระเบียงหน้าห้อง มองลงไปก็เห็นคนผอมบางมีกางเกงขาสั้นสีฟ้า เสื้อทีเชิ้ตพอดีตัวสีขาวหุ้มไว้ ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นผ้าคอตตอนเนื้อนุ่มยีห้อพีเคที่ ‘ยัยหน่อย’ น้องรักใช้สาวน้อย ‘ปรารถนา’ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้มาร่วมปีแล้ว และแบบสบายกระเป๋าคือไม่ต้องเสียสตางค์จ้าง ห้องเสื้อของญาติกาก็พลอยขอใช้บริการนางแบบน่ารักด้วย แต่มีค่าเหนื่อยเป็นสินน้ำใจไม่ใช่ใช้ฟรีเหมือนน้องเขา
“แตงไทย! วิ่งตามมาเร็วๆ เข้า!”
เขายืนกอดอกจ้องมองไปยังรูปร่างผอมเพรียว ช่วงขาขาวยาวเรียวงามกำลังวิ่งนำเจ้าสี่ขา ไม่ว่าเจ้านายจะไปไหนมันไม่เคยพลาด ยิ่งตอนนี้เรียนจบแล้ว รอเวลาเข้าเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย ยิ่งมีเวลาอยู่กับมันทั้งวัน มันก็ยิ่งชอบใจและไม่เคยห่างไปไหนเลย
“คุณหนาว! ตื่นแล้วเหรอคะ ลงมาเร็วๆ สิคะ น้องเหนือรอกินมื้อเช้าอยู่ค่ะ”
รอยยิ้มสว่างไสวของสาวน้อยเมื่อแหงนมาเห็นเขา ปากก็ร้องเรียกมือก็โบกให้นั้น ช่างสวยช่างน่ารัก สดใสร่าเริงและจริงใจไร้เดียงสาจนเขาไม่กล้าปฏิเสธ เลยโบกมือให้เป็นคำตอบ ก่อนจะหมุนตัวเดินผละจากระเบียงไป ไม่นานก็ลงมายืนอยู่บันไดขั้นสุดท้ายแล้วเลี้ยวเข้าไปทางครัวเพื่อหมายจะออกไปสนามข้างบ้านซึ่งใกล้กว่าจะออกทางประตูใหญ่