แต่หูนั้นกลับฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างตั้งใจ ยิ่งสองเพื่อนกับหนึ่งทนายกลับไปแล้ว เขายิ่งไม่มีใครมาดึงความสนใจไปหาเรื่องอื่น เลยตั้งใจฟังได้เต็มที่ แต่ไม่นานก็มีเพื่อนหมอของน้องสาวที่รู้จักกัน เคยเห็นหน้ากันครั้งสองครั้งมานั่งด้วย เขาเลยต้องคุย แต่หูนั้นไม่ได้ห่างหายจากหนุ่มเภสัชที่บังอาจมาจีบเด็กในปกครองของเขาเลย ใจก็อยากให้งานจบไวๆ พ่อหนุ่มผู้อาจหาญอยากมาเด็ดดอกฟ้าจะได้รีบๆ กลับ
“น้องเหนือไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่ยกเอง”
“ค่ะ” แต่พ่อหนุ่มเภสัชกรกลับไม่ยอมหนีหายไปไหน แม้งานจะเลิกก็ยังช่วยเก็บของอยู่ไม่ห่างเด็กในปกครองของเขาเอาเสียเลย แถมยังคอยช่วยยกนั่นหยิบนี่แทนอย่างออกนอกหน้า
“น้องเหนือคะมาช่วยแม่จ๋าเช็ดจานชามทางนี้หน่อยค่ะ” เขาดีใจที่ได้ยินประโยคนี้ พอดีกับเห็นวรินทรกำลังจะตามไป
“โอ๊ตๆ มาช่วยหนานวงศ์ยกลำโพงไปเก็บหน่อยลูก”
แต่ถูกพี่สาวเรียกไว้ก่อน ประหนึ่งจะรู้ว่าน้องดูจะเอาจริงเอาจังกับการจีบเกินงามไปแล้ว แม้จะนั่งคุยกับหมอคนเดิมทำเป็นไม่ได้สนใจอะไร แต่เขาก็แอบดีใจที่งานเก็บกวาดจบลงได้ หนุ่มเภสัชกรถูกแม่และพี่ๆ พากลับเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ นอกจากคุยด้วยเรื่องสัพเพเหระต่อ จนคู่สนทนาลากลับโดยมีน้องคนเล็กเดินไปส่งถึงรถ
“ภาสไม่เมาแน่นะ ขับกลับไหวหรือเปล่า หรือจะให้หนานวงศ์ไปส่งที่โรงแรมไหมล่ะ หรือไม่ก็นอนนี่เลย แต่ห้องไม่มีแล้วนะ ต้องปูฟูกนอนห้องรับแขก จะเอาแบบนั้นมั้ย”
เขาได้ยินน้องสาวคาดคั้นจากสองเพื่อนไปด้วย ระหว่างทางเดินไปหารถ แต่ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากไปกว่าหันไปหาเด็กในปกครอง ที่หมดงานเก็บกวาดแล้ว ส่วนแม่เขาก็กำลังเดินมาหาพอดี “งั้นเราก็ขึ้นบ้านเถอะเสร็จหมดแล้ว น้องเหนือตามมา คุณยายมีอะไรจะให้ ทุกคนด้วยมาเร็ว”
“ค่ะ” เป็นอันรู้กันว่าถึงเวลาที่คุณนายขนุนจะตบรางวัลให้ทุกคน ที่อุตส่าห์อดทนให้บ่นให้ด่ามาทั้งปี ของที่เตรียมไว้ก็ไม่พ้นเครื่องทองแน่ และเป็นจริงอย่างที่คาดไว้
“ได้แล้วก็หัดเอามาใส่ให้แม่ชื่นใจบ้างสิเราน่ะ ไม่ใช่เก็บอย่างเดียวเดี๋ยวก็ขึ้นรากันพอดี” คุณนายเหน็บลูกสาวทั้งสอง ที่ได้สร้อยข้อมือเส้นละสองบาทไปครอบครองเหมือนทุกปี
“น้องเหนือมานี่ลูก”
สาวน้อยเป็นคนสุดท้ายที่คุณยายเรียกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลสายตารักและเอ็นดูมากขึ้นเรื่อยๆ พอเห็นกล่องไม่ต่างจากทุกคนที่ได้แล้ว มือบางก็พนมขึ้นก้มลงกราบแทบตักคุณยายโดยไม่ต้องมีใครคอยบอก ฝ่ามือของผู้ผ่านร้อนหนาวมานาน ลูบลงไปบนกลุ่มผมนุ่มสลวยพร้อมกับคำอวยพรที่กลั่นกรองออกมาจากใจคุณนายเอง
“ยื่นแขนมาสิคะคุณยายจะใส่ให้ ของน้องเหนือไม่ต้องเส้นใหญ่นะคะ จะได้ไม่ดึงดูดสายตาใครๆ เดี๋ยวเป็นอันตรายเปล่าๆ”
ภีมภาเปิดกล่องแล้วจับสร้อยข้อมือทองคำขาวหนักหนึ่งบาทออกมา คล้องไปกับข้อมือซ้ายเล็กๆ ขาวๆ น่ารักน่าเอ็นดูอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนคนได้รับก็ก้มลงกราบแทบตักอีก “แล้วของพี่หนาวล่ะมีอะไรจะให้พวกเราบ้าง”
น้องสาวคนเล็กหันไปหาพี่ที่นั่งอยู่โซฟาห่างออกไปจากคนอื่น “ไม่มีหรอก แม่ให้แล้วพี่ก็ไม่ต้องให้อีกหรอก”
“ทั้งปี! เบื่อ! งกจริงๆ”
น้องสาวคนกลางที่คาดเดาอยู่แล้วว่าพี่ต้องตอบอีหรอบนี้ แต่ก็ไม่วายบ่นออกมาอย่างไม่ปิดบังอยู่ดี นั่นทำให้มือพี่ชายเคาะลงไปตรงกลางกระหม่อมพอดิบพอดีจนต้องร้อง “โอ๊ย! พี่หนาวอะ เจ็บนะ!”
ออกมาดังเกินความจำเป็น แต่ใบหน้านั้นยิ้มร่ามากกว่าเจ็บ “ของน้องเหนือก็ไม่มีเหรอคะคุณหนาว”
สาวน้อยหันมาหาพร้อมสายตาเว้าวอน มือเล็กเรียวก็แบไปหาเขา เพราะสองพี่ต่างสายเลือดสะกิดน้องเล็กทำแบบนั้น “ไม่มีค่ะ คุณหนาวไม่ได้เตรียมอะไรให้ใครทั้งนั้น เพราะที่คุณหนาวทำงานเหนื่อยมาตลอดปีก็เป็นการทำเพื่อทุกคนอยู่แล้วค่ะ”
จมูกโด่งแต่พองามย่นขึ้นเล็กน้อย หน้าก็ม่อยลงถนัดตาเมื่อหันไปหาสองพี่ “เฮ้อ! เป็นอันจบข่าว งั้นเราสลายม๊อบเหอะ ง่วงละ พรุ่งนี้ใครอย่ามาปลุกนะจะนอนตื่นสายๆ ให้ดู”
ทุกคนต่างเดินหนีเข้าห้องใครห้องมัน โดยไม่หันมามองเขาอีกเลย ยกเว้นแม่ที่นั่งยิ้มให้ด้วยท่าทีหมั่นไส้ปนเอ็นดูลูกชายคนเดียวนิดๆ “ปีใหม่อีกแล้วนะพ่อคุณ แล้วเมื่อไหร่จะมีข่าวดีให้แม่สักทีล่ะ”
“ว้า! ง่วงนอนละ ไปดีกว่า!”
แม้ตั้งใจจะนั่งคุยกับแม่ต่อ แต่พอเจอไม้นี้เข้า เขาเลยขอถอยไปตั้งหลักในห้องก่อน เพราะยังไม่อยากตอบคำถามใดๆ คนเป็นแม่ได้แต่มองตามแผ่นหลังลูกชายแล้วส่ายหน้าน้อยๆ กังวลหน่อยๆ แต่ก็อิ่มใจที่มีลูกดีๆ ไม่เคยสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจใดๆ มาให้แม้แต่คนเดียว
“ขับรถดีๆ นะบุญ ส่งน้องเหนือเสร็จแล้วรีบกลับมาพาป้าไปซื้อของเข้าบ้านด้วย เผื่อคุณหนาวจะกลับวันนี้”
“ครับๆ” บุญมารับคำแล้วรีบควบเมอร์เซเดส-เบนซ์ออกจากบ้านไป ทิ้งให้วิไลกับกันยามองตามจนรถแล่นลับประตูไป
“ทำไมพักนี้คุณหนาวไม่ค่อยค้างที่นี่เลยล่ะป้า เดือนนี้หนูว่าแกหายไปเกือบสามอาทิตย์เลยนะ สองอาทิตย์อยู่เชียงใหม่ อีกหนึ่งบอกว่าค้างโรงแรม” วิไลปากไวรีบหันไปถามแม่บ้านใหญ่ทันที
“ก็คุณหนาวมีงานเยอะนี่ อย่ามัวมาถามป้าอยู่เลย รีบๆ ไปทำงานเถอะ บุญกลับมาจะได้ออกไปช่วยหิ้วของหน่อย”
“ค่ะป้า” กันยามองตามหลังวิไลเดินไป แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับคำถามเมื่อครู่อยู่คนเดียว ปีใหม่ผ่านพ้นไปพร้อมกับอะไรใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นกับตัวเจ้านายหนุ่ม ดูเหมือนจะงานรัดตัวจนแทบไม่มีเวลากลับมาหาเด็กในปกครองที่เฝ้าถามตลอดเวลาว่า