บทที่ 2 บังเอิญ

1283 คำ
หลังจากที่เรียนเสร็จเรียบร้อย ตัวจี๊ดก็หยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาธนัส ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน หญิงสาวโทรอยู่หลายนาที และไม่นานชายหนุ่มก็กดรับสาย (ว่าไง) "ธนัสอยู่ไหนคะ เราเรียนเสร็จแล้วนะ จะมารับเลยไหม หรือว่าจะให้เราไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านแล้วค่อยไปเจอกัน" (พี่ธนัสคะ ครีมหวานอยากกินไอติมค่ะ แป๊บหนึ่งนะคะพี่คุยโทรศัพท์ก่อน หนูสั่งเลยค่ะ) และเมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงจากปลายสายเธอก็รู้สึกหน้าเสีย ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ได้อยู่คนเดียว และก็คงมีผู้หญิงที่เขาควงอยู่เคียงข้าง เอาจริงก็ทำใจมาสักพักใหญ่แล้ว เขาทั้งหล่อทั้งรวยผู้หญิงที่ไหนก็คงอยากเข้าหา นี่เป็นเหตุผลที่เธอเลือกที่จะไม่บอกรักเขา และพยายามที่จะตัดใจไม่ให้รักเขาอีก (ตัวจี๊ด...) "ถ้าธนัสไม่ว่างงั้นไม่เป็นไรนะ เราไม่ไปดีกว่า ถ้าอย่างนั้นเราไม่กวนแล้วนะ แค่นี้แหละ" หญิงสาวรีบกดวางสาย ไม่กล้าที่จะฟังประโยคถัดไปจากเขาอีก ความรู้สึกในตอนนี้มันเจ็บปวดร้าวไปทั่วหัวใจ กะพริบตาปริบๆ พยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมา คิดว่าตัวเองทำใจได้แล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ธนัสจ้องมองโทรศัพท์ด้วยความมึนงง กำลังจะบอกว่าจะออกไปรับที่มหาวิทยาลัย อยู่ๆ ก็ไม่ไปเสียอย่างนั้น ธเนศที่ไปห้องน้ำเพิ่งกลับมาถึง ก็มานั่งลงอยู่ข้างผู้หญิงที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากฝาแฝดของเขาเท่าไหร่ "ครีมหวานหนูสั่งหรือยังคะ" "ยังเลยค่ะ พี่ธนัสคุยโทรศัพท์ ครีมหวานก็เลยไม่อยากรบกวนค่ะ" "โธ่เอ้ย... เดี๋ยวพี่สั่งให้นะ จริงๆ หนูตะโกนเรียกพนักงานก็ได้เดี๋ยวเขาก็มารับออเดอร์" ธเนศยื่นมือไปลูบผมเด็กสาวด้วยความห่วงใย เนื่องจากเขาเองขับรถชนเธอจนเดินไม่ได้ จึงรับผิดชอบเธอด้วยการแต่งงาน อยู่กินกันแบบสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย โชคดีที่น้องอายุเกิน 18 ปี ในเช่นนั้นคงจะมีปัญหาตามมาหลายอย่าง ครีมหวานเป็นเด็กที่น่ารักมาก เขาพูดอะไรเธอก็เชื่อฟังทุกอย่าง นี่ก็ดีขึ้นเยอะแล้วเขาจึงพาออกมาเดินเล่นข้างนอกเผื่อว่าจะสบายใจขึ้น "ถ้างั้นพี่ธเนศสั่งไอติมช็อกโกแลตให้ครีมนะคะ" "เดี๋ยวพี่สั่งให้ ธนัสมึงมีธุระไม่ใช่เหรอ ไปดิ... กูไม่รบกวนแล้ว" และเมื่อจบประโยคนั้นของฝาแฝด เขาก็ถอนหายใจออกมาในทันที อยู่ๆ ก็ไม่ไปซะอย่างนั้น ทั้งที่นัดกันดิบดี อย่าให้เจอนะจะจัดการสักหน่อย เป็นถึงว่าที่หมอไม่มีสัจจะเอาเสียเลย นัดไม่เป็นนัดนิสัยไม่น่ารักที่สุด "ไม่ไปละ สั่งมาเผื่อด้วยถ้วยหนึ่ง" "อะไรของมัน... เออๆ" ธเนศกวักมือเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์ เขาสั่งไอศกรีมมาสองชามใหญ่ ให้ฝาแฝดชามหนึ่งส่วนเขากินกับน้องนั่นแหละ เพราะว่าสั่งมาค่อนข้างไซซ์ใหญ่ และคนตัวเล็กไม่ได้กินเยอะขนาดนั้น "พี่กินกับหนูได้ไหม" "ได้ค่ะ ถ้างั้นครีมหวานป้อนพี่ธเนศนะคะ" หญิงสาวยิ้มเขินก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางอื่น ไม่กล้าสบตากับชายหนุ่ม ธเนศยื่นมือไปเกลี่ยปอยผมให้หญิงสาว จ้องมองใบหน้าเล็กก่อนจะเผยยิ้มออกมา "พูดแล้วต้องป้อนด้วยนะ ไม่งั้นโดนลงโทษแน่" "เบาๆ หน่อย ไม่ได้อยู่กันสองคนนะเว้ย" "แล้วมึงมาอยู่ตรงนี้ทำไม ออกไปเลยไป๊" ธนัสจิปากใส่พี่ชายด้วยความหมั่นไส้ เขาเองยังรู้สึกหงุดหงิดตัวจี๊ดอยู่เลย ยังมาเจอผัวเมียหวานใส่กันอีก อย่าให้เจอจะจัดการจะให้เข็ด ทางด้านของตัวจี๊ด เธอเดินกลับไปหาเพื่อนเพื่อขอไปกินข้าวด้วย ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองอกหัก ทั้งที่พยายามบอกตัวเองตลอด ว่าเขาไม่เคยรักไม่เคยชอบ แล้วก็ไม่แคร์อะไรสักนิด "อ้าว... ลืมของเหรอ" "ไม่ได้ลืมหรอก แต่ว่าไม่ไปกินข้าวกับธนัสแล้ว ตอนนี้เขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น คงกินข้าวอร่อยอิ่มแล้วล่ะ ฉันมันไม่สวยเวลามองหน้าเขาคงกินข้าวไม่ลงล่ะมั้ง เขาถึงต้องไปมองคนอื่น" เพียวเร่มองสบตากับเพื่อน ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ พยายามเตือนตลอดแต่เธอก็ไม่เคยฟัง คงจะต้องโดนเองจนกว่าจะพอใจ ถึงตอนนั้นก็คงจะยอมแพ้ และเริ่มเห็นคุณค่าตัวเองในสักวัน "แกสวยจะตาย อย่ามาพูดว่าตัวเองไร้ค่าแบบนั้น เรียนก็เก่ง ดีกรีคุณหมอในอนาคต หุ่นก็สวยผิวพรรณก็ดี แกลองถอดแว่นแต่งตัวเซ็กซี่เหมือนชาวบ้านเขาสิ รับรองว่าหนุ่มๆ ตรึม" "ฉันต้องทำขนาดนั้นเพื่อให้ผู้ชายหันมามองเหรอ คนเราจะรักกัน มองเรื่องความสวยงามภายในไม่ได้เลยหรือไง" "คุณหมอคนสวยอย่าโลกสวยได้ไหม คนเราเจอกันภาพลักษณ์ภายนอกสำคัญที่สุดอยู่แล้ว เพราะมันเป็นการมองแค่มุมเดียวในการเจอกันครั้งแรก ส่วนการที่จะอยู่กันได้นานไหมมันก็คือนิสัยภายใน ซึ่งธนัสไม่เคยเปิดโอกาสให้แก แสดงความสวยงามภายในให้เห็น มันมองแค่ภายนอกว่าแกเป็นยัยเฉิ่ม ไปกันเถอะไปกินข้าวกันดีกว่า วันนี้จะพาแกไปรู้จักเพื่อนใหม่" "เพื่อนใหม่เหรอ... หมายถึงแฟนของแก" "แกรู้จักแฟนฉันอยู่แล้วป่ะ เฮ้อ...! อย่ามาอ๊องแถวนี้รีบไปได้แล้ว" เพียวเร่ลากแขนเพื่อนให้เดินออกไปจากตรงนั้นทันที เธอนัดกับแฟนและเพื่อนของเขาที่ห้างสรรพสินค้า ไม่ไกลจากที่นี่มาก และเมื่อทั้งสองคนมาถึงที่ห้างสรรพสินค้า เพียวเร่ก็จ้องหน้าเพื่อนด้วยความครุ่นคิดบางอย่าง ตัวจี๊ดจึงหันไปมองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย "อะไรของแกเนี่ยมองหน้าฉันทำไม" "ไหนลองถอดแว่นซิ" เพียวเร่ดึงแว่นที่อยู่บนใบหน้าของเพื่อนออก ต้องมองใบหน้าสวยอยู่นานก่อนจะยิ้มออกมา แต่ทว่าอีกคนที่สายตาสั้น ก็พยายามควานหาแว่นตามาสวมใส่ เนื่องจากสายตาค่อนข้างสั้นมาก จึงจำเป็นต้องใส่ไม่สามารถถอดได้เลยเพราะมันเบลอไปหมด "ขอแว่นตาหน่อยสิ เบลอไปหมดแล้วเนี่ย" "ฉันว่าแกไปเลสิกตาเถอะ เป็นคุณหมอต้องใช้สายตาเยอะ ถ้าเกิดวันหนึ่งแว่นตาหาย หรือหล่นไปอยู่ที่ไหน จะใช้ชีวิตลำบากนะ" "ก็คุยกับคุณพ่อคุณแม่เรื่องนี้อยู่ กะว่ารอให้ปิดเทอมก่อน แล้วค่อยไปทำทีเดียว จะได้พักผ่อนเยอะๆ ไง" "ดีแล้ว ป่ะลงไปกันเถอะ" สองสาวเดินลงจากรถพร้อมกัน จากนั้นก็จับมือการเดินเข้าไปในห้าง หญิงสาวเดินขึ้นไปยังชั้นห้าซึ่งเป็นร้านอาหารแทบทั้งชั้น เธอชายตามองไปโดยรอบก่อนจะชะงักไปเมื่อเจอธนัสกำลังนั่งอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง สวย และน่ารักมากยิ้มทีโลกสดใสไปหมด เขาคงชอบแบบนี้สินะ... หันกลับมามองตัวเองก็รู้สึกสิ้นหวัง เธอคงไม่ใช่สเปกของเขาแหละ... "สงสัยต้องตัดใจจริงจังแล้วมั่ง... เฮ้อ!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม