มหาวิทยาลัย...
และนี่ก็ผ่านมาเกือบ 4 ปีแล้ว ที่นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ได้เข้ามาร่ำเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย ธนัสสอบเข้าในคณะนิเทศศาสตร์ เนื่องจากที่บ้านของเขาเป็นเจ้าของช่อง 88 ทำให้สังคมในชีวิตความเป็นอยู่ ต้องจับกล้องถือไมค์ด้วยความคุ้นชิน ส่วนสาวเฉิ่มที่คอยมาบอกรักกับเขาในทุกปี ตอนนี้ได้เรียนแพทย์ตามที่เธอคาดหวัง ตัวจี๊ดเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 และไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาก่อกวนเขาเท่าไหร่
แต่ยังขยันส่งข้อความมา ทุกเทศกาลก็เอาของขวัญมาให้ตลอด กลับกลายเป็นความเคยชินที่เขาต้องได้รับในทุกปี แต่ทว่าธนัสไม่เคยให้เธอกลับเลยแม้สักครั้งเดียว
"เทอมนี้ก็จบแล้ว ก็คงต้องแยกย้ายกันไปเติบโต แกก็คงเข้ารับตำแหน่งท่านรองประธานสินะไอ้ธนัส"
"อืม... ก็รับด้วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ พ่อบอกว่าให้ไปช่วยกันบริหารกิจการ แต่หลักๆ กูน่าจะไปช่วยงานเบื้องหลัง ส่วนไอ้ธเนศมันจบบริหาร ให้มันไปช่วยงานคุณพ่อแล้วกัน"
"ก็ดีนะ พวกมึงสองคนเรียนมาคนละด้าน ช่วยงานที่ช่องได้ทั้งสองแบบเลย ดีว่ะเป็นฝาแฝดกันมีคนมาช่วยการบริหาร มึงหยุดงานไอ้ธเนศก็ช่วยงานได้"
เขาพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบสายตามองไปเห็นยัยเฉิ่ม ที่ตอนนี้กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าตึก คณะแพทย์ศาสตร์อยู่ใกล้กับคณะนิเทศศาสตร์ มันทำให้เราสองคนเจอกันบ่อย
"มองอะไรวะ"
เคเอ่ยถามพร้อมกับเหลือสายตามองตามเขา และเมื่อเห็นใบหน้าสวยที่สวมแว่นตาหนาเตอะปกปิด ก็ร้องอ๋อออกมาทันที
"ว่าที่คุณหมอนี่หว่า"
"อืม... แยกกันตรงนี้เลยนะ"
"โอเค... เจอกันนะ"
เขาเดินตรงไปที่รถ และไม่รู้ว่าอะไรดลใจ ทำให้เฉียดกรายเข้าไปใกล้โต๊ะที่ตัวจี๊ดนั่งอยู่ แล้วบังเอิญว่าหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาพอดี พอได้เห็นใบหน้าของผู้ชายที่ชอบ ก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะรีบวางทุกอย่างลง แล้ววิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มทันที
"ธนัส ตัวเองมาได้ยังไง"
ชายหนุ่มหยุดชะงักก่อนจะหันกลับมา ปรายสายตามองด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
"จะไปที่ลานจอดรถ ก็เลยผ่านมาทางนี้"
"คิดถึงจัง ช่วงนี้เราเรียนหนักมากๆ เลย ไม่มีเวลาไปหาเลย ขอโทษนะ"
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน มือเล็กกอดแขนชายหนุ่มเอาไว้ ก่อนจะโน้มไปซบลงกับไหล่กว้าง
"ตัวเองกอดเราหน่อยได้ไหม อยากได้กำลังใจจังเลย"
"เหนื่อยไหม"
ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน เธอรีบพยักหน้าทันที เอาจริงอยากจะระบายกับใครสักคนหนึ่ง เพราะการเรียนหมอไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ในเมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา
"เหนื่อยสิ... ไม่งั้นเราจะขอกำลังใจเหรอ"
"ไม่มีให้หรอก"
เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ และนั่นทำให้หญิงสาวถึงกับมีสีหน้าที่สลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ชายหนุ่มก็ยังใช้คำพูดที่เย็นชา ทำเอาคนฟังเจ็บปวดจนรู้สึกแย่
"ตัวเองก็แบบนี้ตลอดแหละ ไม่เคยจะใจอ่อนกับเราสักที"
"ก็บอกว่าไม่ชอบผู้หญิงเฉิ่มไง สวยเมื่อไหร่ค่อยมาบอกรักแล้วกัน"
"แล้วถ้าเกิดว่าเราสวยขึ้นมา ตัวเองจะรักเราเหรอ จี๊ดก็มาคิดๆ ดูว่า ตกลงตัวเองจะทำตามที่พูดหรือเปล่า ตอนนี้เราเข้าใจแล้ว ว่าตัวเองไม่ได้ชอบคนสวย ตัวเองแค่ไม่ชอบเรา"
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เคยคิดมาตลอดว่าถ้าวันหนึ่งเธอสวยขึ้นมา เขาคงจะรับรักแน่นอน แต่พอเวลาผ่านไป แล้วเพิ่งมาคิดได้ว่าเขาแค่พูดเพื่อให้ความหวังเท่านั้น สุดท้ายแล้วชายหนุ่มก็แค่พูดปฏิเสธแบบไม่ให้เสียน้ำใจก็เท่านั้น
"แล้วแต่จะคิดแล้วกัน ต้องกลับแล้วมีงานต้องทำ"
"อืม... เอาไว้เจอกันนะ เดี๋ยวเราต้องกลับไปเรียนต่อแล้ว ธนัสดูแลตัวเองด้วยนะคะ อากาศเริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายเอา"
หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสลดลงอยากเห็นได้ชัดเจน จนชายหนุ่มสัมผัสได้ แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้เขาดึงรั้งมือของเธอเอาไว้ ตัวจี๊ดหยุดชะงักนิ่งไป หันกลับมามองเขาเพื่อความแปลกใจ
"มีอะไรเหรอ"
"เลิกเรียนกี่โมงไปกินข้าวกันไหม"
และเมื่อได้ยินประโยคนั้นหญิงสาวกลับยิ้มได้เสียอย่างนั้น เธอไม่เคยคิดเลยว่าชายหนุ่มจะชวนไปกินข้าว ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่แม้แต่จะชวนไปไหนเลยด้วยซ้ำ
"ไปสิ ต้องไปเรียนอีกประมาณสองชั่วโมง ตัวเองจะรอเราเหรอ"
"โทรมาแล้วกัน มีเบอร์นิเดี๋ยวมารับ"
"ได้ค่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวเจอกันนะ"
เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะปล่อยข้อมือเธอ และเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ตัวจี๊ดยิ้มออกมาด้วยความดีใจ รีบหยิบหนังสือ และกระเป๋าวิ่งขึ้นไปเรียนที่ตึก มีความตื่นเต้นที่จะได้ไปกินข้าวกับผู้ชายที่รักมาตลอดหลายปี เธอเองก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้สมหวัง อย่างน้อยขอแค่เขาทำดีกับเธอบ้างแค่นี้ก็ดีมากแล้ว
หลังจากนั้นเธอก็ไปตั้งใจเรียนหนังสือ และมีความสุขที่จะได้ไปกินข้าวกับผู้ชายที่รักมานานหลายปี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รักไม่สนใจหรือไม่แคร์ก็เถอะ แต่อย่างน้อยการได้เห็นเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแต่ละวัน เธอเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย
"ยัยจี๊ดเย็นนี้ไปกินข้าวกันไหม เดี๋ยวฉันเลี้ยงแกเอง"
เพื่อนสนิทของเธอเอ่ยชักชวน เห็นว่าวันนี้มีนัดกินข้าวกับแฟน แต่ลากเธอไปด้วยเพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
"ไม่อ่ะแกไปกับแฟน"
"ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แฟนฉันก็พาเพื่อนมาด้วย ไปกันหลายคนสนุกนะ"
"แต่ฉันมีนัดแล้วนะ"
และเมื่อเพื่อนสนิทได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าเสียอดเสียดายเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเพื่อนของแฟนที่มาด้วยเขาชอบตัวจี๊ด แล้วอยากทำความรู้จักจึงนัดให้ไปเจอกัน ถ้าเป็นแบบนี้นัดคงล่มแล้วแหละ
"แกนัดใครไว้ไม่บอกกันเลยนะ"
"ก็นัดกับธนัสไงแก เขาชวนฉันไปกินข้าวด้วย ดีใจมากเลยอ่ะ"
"นี่ยังไม่เลิกชอบมันอีกเหรอ หลายปีมันนี้มันไม่แม้แต่จะมองแกเลยนะ ทำไมอดทนขนาดนี้ล่ะ"
เพียวเร่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด หมอนั่นก็กระไร ผู้หญิงดีๆ เพอร์เฟคแทบทุกอย่าง กลับปฏิเสธไม่ชายตามองแม้แต่น้อย ชอบนักนะนมโตๆแต่ไร้สมองเนี่ย
"ตามใจแล้วกัน แล้วถ้าเกิดอยู่ๆ มันเทนัดแก รีบโทรหาฉันเลยนะ"
"แกกำลังแช่งฉันนะเพียว...!"
"ขอให้มันเทนัดแก จะได้หลาบจำเลิกชอบมันสักที"
"เพียว..!"