แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ช็อคสำหรับเธอ เมื่อได้รับรู้ว่าผู้หญิงที่เสียงโผล่เข้ามาในโทรศัพท์ กลายเป็นภรรยาของธเนศเสียอย่างนั้น เธอเองก็ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน คิดเองเออเองจนเป็นนิสัย ก็เลยทำให้พลาดการไปกินข้าวกับเขา
"ก็เราไม่รู้นี่นา"
"ไม่รู้ก็ถาม โวยวายไปก่อนทำไม นิสัยแบบนี้มันแก้ไม่หายใช่ไหม"
"ขอโทษค่ะ"
หญิงสาวก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด ยื่นมือไปจิ้มไหล่ชายหนุ่มเพื่อง้อให้เขาหายโกรธ แต่ทว่าธนัสรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ที่เธอเป็นคนนิสัยคิดเล็กคิดน้อย แถมยังคิดเองเออเองไม่เคยถามอะไรเลยสักอย่าง บางเรื่องก็คิดว่าเธอมีนิสัยที่ไม่สามารถเข้ากันกับเขาได้เลย การที่คนสองคนจะคบกันได้มันไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามภายนอก ลักษณะนิสัยต้องไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเขายังมองไม่เห็นว่าเราสองคนสามารถเข้ากันได้แม้แต่นิดเดียว
"มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาขอโทษ ถ้าไม่ไว้ใจกันแบบนี้ จะไปกันได้ไหม"
"ตัวเองหมายความว่าไง ไอ้ที่บอกว่าจะไปด้วยกันได้ไหมเนี่ย อย่าบอกนะว่าใจอ่อนให้เราแล้ว กรี๊ส...!"
ตัวจี๊ดถึงกับรีบเอามือปิดปากตัวเอง ดีดดิ้นไปมาด้วยความดีใจ เมื่อได้ยินประโยคที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจะเปิดใจให้เธออยู่ ธนัสถอนหายใจออกมาเล็กน้อย พูดขนาดนี้ยังไม่รู้จักสำนึกเลย เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นเฉย จนเขาไม่รู้จะเอายังไงกับผู้หญิงคนนี้ดี
"ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย คราวหลังมีอะไรก็ต้องถาม คิดเองเออเองแบบนี้ คนอื่นเขาไม่รู้ด้วยหรอก"
"รู้แล้วค่ะ เค้าขอโทษได้ไหมล่ะ"
"ขอโทษอยู่นั่นแหละ แล้วถ้าวันนี้ไม่บังเอิญมาเจอกันจะรู้ไหมว่าคิดอะไรอยู่ ก่อนหน้านี้ที่คุยโทรศัพท์ก็ตัดสาย ทั้งที่ฉันยังไม่ได้อธิบายอะไรเลย เธอจะเป็นแบบนี้อีกนานไหมล่ะ จะได้ไม่คุยด้วยแล้ว"
"แงๆ เค้าขอโทษ เพื่อเป็นการไถ่โทษเดี๋ยวเราไปเดินเล่นกันนะ ตอนนี้เขากินข้าวก่อนเราหิว"
ชายหนุ่มกุมขมับเล็กน้อย จ้องมองหม้อที่เดือดตรงหน้า แต่ไม่มีวี่แววว่าจะแตะมัน เพราะยังรู้สึกหงุดหงิดกับผู้หญิงข้างกายอยู่
อุตส่าห์รอจะไปกินข้าวด้วยไม่ยอมไปทานอะไร สุดท้ายก็โดนเท แล้วดูตอนนี้สิกินของอร่อยหน้าระรื่น ดูอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้
"ตัวเองกินกุ้งไหมเดี๋ยวเขาหยิบให้"
"ไม่ต้องหยิบมา แพ้ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน เดี๋ยวได้ไปนอนโรงพยาบาลอีก เป็นหมอไม่ใช่เหรอรู้จักป้องกันตัวเองหน่อย"
"เราไม่ได้กินสักหน่อย ก็แค่จะเอามาให้ตัวเองกินไง ไม่เห็นจะต้องบ่นเลยงั้นกินอย่างอื่นนะเดี๋ยวเราตักให้"
นายที่นั่งอยู่ข้างตัวจี๊ด เริ่มรู้สึกว่าหญิงสาวไม่สนใจเขาแล้ว มัวแต่หันไปคุยกับผู้ชายข้างกาย ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะรู้จักสนิทสนมกันพอสมควร เขาขยับเข้าไปใกล้แฟนของเพื่อน จากนั้นก็เอ่ยถามในสิ่งที่อยากรู้
"ใครอ่ะ รู้จักหรือเปล่าเพียวเร่"
"หือ..."
เพียวเร่ที่ตั้งใจกินชาบูตรงหน้า ไม่ได้สนใจว่ากำลังเกิดเรื่องอะไรขึ้น ในบริเวณรอบข้าง หญิงสาวเหลือบสายตามองไปโดยรอบก่อนจะเห็นธนัส ที่กำลังนั่งอยู่ข้างเพื่อนของเธอ
"หมอนี่มาได้ยังไงอ่ะ"
"รู้จักเหรอ เขาเป็นใครทำตัวสนิทสนมกับตัวจี๊ด"
"คนนี้ไงที่ตัวจี๊ดชอบอยู่ นายทำยังไงก็ได้ให้ตัวจี๊ดหยุดชอบหมอนั่นเลยนะ แต่ว่าไม่ต้องห่วง ธนัสไม่ได้ชอบยัยจี๊ด"
"แต่ทำไมดูหึงหวงแปลกๆ ไว้ใจไม่ได้เลยนะเว้ย"
ทั้งสามคนเริ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ และโดยปกติก็ไม่ได้มีท่าทีแบบนี้ หรือว่าหมอนี่จะคิดได้ และเริ่มชอบเพื่อนของเธอขึ้นมา
"ไม่หรอกมั้ง ไอ้จี๊ดชอบมาตั้งหลายปีแล้วอ่ะ ถ้าจะรักก็คงรักนานแล้วมั้ง ไม่ปล่อยให้เวลามานานขนาดนี้หรอก"
"เชื่อได้ใช่ไหมเนี่ย"
"เออน่าไม่มีอะไรหรอก ปล่อยไปก่อน นายก็กินของตัวเองไปเลย ยัยจี๊ดแพ้กุ้งนะอย่าไปหยิบไปให้เชียวล่ะ"
และเมื่อจบประโยคนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาทันที ถ้าบอกตั้งแต่แรกก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพียวเร่เห็นสีหน้าของเพื่อนแฟน ก็คิดว่าน่าจะเตือนไม่ทันแล้ว
"อย่าบอกนะว่า..."
"เออดิ...ถามไปเรียบร้อยแล้ว ไม่บอกตั้งแต่แรกแล้วเสียหน้าหมดเลยเนี่ย"
"ขอโทษๆ"
ทั้งสามคนกระซิบกระซาบกันก่อนจะหันไปมองอีก สองคนที่ตอนนี้ดูกระหนุงกระหนิงกันมาก เหมือนว่าไม่มีคนอื่นอยู่ตรงนั้น
"ตัวเองกินหมูเด้งไหม"
"อืม... ต้มให้หน่อยสิขี้เกียจละ"
"ได้ค่ะเดี๋ยวเราทำให้"
ตัวจี๊ดยิ้มอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ที่ชายหนุ่มยอมมานั่งกินข้าวด้วย และอธิบายในสิ่งที่เธอค้างคาใจ อย่างน้อยเขาก็ยังแคร์ความรู้สึกเธออยู่บ้าง ตามอธิบายถึงที่นี่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะไม่สนใจ และปล่อยผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าเราสองคนจะไม่เคยมากินข้าวด้วยกันแบบสองต่อสอง แต่ก็มีโอกาสที่จะกินข้าวด้วยกันในรั้วโรงเรียน หรือในงานรวมตัวเพื่อนฝูงตามแต่ที่จะนัดกัน จึงทำให้เธอทำให้เธอแอบสังเกต ความชอบหรือไม่ชอบอะไรในตัวของเขาได้
"อันนี้ก็อร่อยนะกินไหม แต่ว่าอันนี้ไม่ต้องกินนะมันมีส่วนผสมของกุ้ง"
"อันนี้เหรอ เราไม่รู้ก็เลยเผลอกินไปตอนนั้น ผื่นขึ้นนอนโรงพยาบาลตั้งวันหนึ่งแหนะ"
"เป็นคุณหมอที่ไม่มีความรู้อะไรเลย เธอนี่มันฉลาดในทางที่ผิดจริงๆ"
"ด่าเค้าทำไมเล่า"
หญิงสาวทำหน้างอน้ำใส่ จากนั้นก็ตักหมูเด้งใส่ชามให้เขา เหมือนว่าตอนนี้ตัวจี๊ดมากับธนัสเพียงแค่สองคน ส่วนคนอื่นๆ แทบไม่มีตัวตนแล้ว
"ตัวจี๊ดเดี๋ยวกินเสร็จแล้วไปดูหนังกันนะ"
เพียวเร่ตะโกนไปหาเพื่อนเพื่อเอ่ยชักชวน เธอตั้งใจที่จะแยกเพื่อนออกจากผู้ชายอีกคน แต่ทว่าตัวจี๊ดยังลังเล หันไปมองชายหนุ่มอย่างขอความเห็น เขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้เธอก่อนจะกระซิบกระซาบเสียงเบา
"เลือกเอาว่าจะไปดูหนังกับเพื่อน หรือจะไปดู netflix ที่ห้องฉัน"
และเมื่อจบประโยคนั้นหญิงสาวก็หันไปหาเพื่อนสนิท ก่อนจะปฏิเสธการไปดูหนังกับพวกเขาทันที ได้โอกาสในการอยู่กับเขาสองต่อสอง ที่คนอย่างเธอจะไม่ไป จะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปได้ยังไงล่ะ
"ฉันมีธุระต่อไปไม่ได้จ้ะ"
"แกจะไปไหน"
หญิงสาวอ้ำอึ้งไม่กล้าตอบ เพราะว่าเธอเองก็ไม่เคยมีประวัติไปดูหนังที่ห้องผู้ชายมาก่อน ตัวจี๊ดดูลุกลี้ลุกลนจนน่าสงสัย แต่ด้วยความที่ฉลาดหลักแหลม จึงสามารถหาทางออกให้ตัวเองได้
"แม่โทรเรียกให้กลับบ้านน่ะ เอาไว้วันอื่นนะ ขอโทษด้วยนะนาย ขอโทษด้วยนะคิงส์ เอาไว้วันอื่นนะวันนี้เราไม่ว่างจริงๆ"
ธนัสหันไปมองนายก่อนจะยักคิ้วใส่อย่างกวนประสาท ก่อนจะยื่นมือไปหมุนผมหญิงสาวเล่นอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ไม่มีทางที่ตัวจี๊ดจะเลือกไปกับคนอื่นถ้าเขายังยืนอยู่ตรงนี้ การที่ผู้หญิงคนหนึ่งชอบผู้ชายมาหลายปี มันไม่ใช่แค่ความหลง แต่มันคือความรัก และมันมากจนใครก็ไม่สามารถแยกออกไปได้ง่ายๆ ซึ่งเขารู้ดีไม่งั้นเธอไปนานแล้ว
นายรู้สึกว่าตัวจี๊ดกำลังโกหก เพราะเมื่อกี้แอบได้ยินธนัสกระซิบอะไรบางอย่าง ซึ่งคาดว่าเธอน่าจะเลือกที่จะไปกับผู้ชายอีกคน สงสัยต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถได้ตัวจี๊ดมาครอบครองแน่นอน