“ยิ้มอะไรอ่ะ”
“ยิ้มกับลมกับฟ้าไปแบบนั้นเองแหละ” แม่ตอบแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “แม่ยังไม่ได้ถามเลยว่าพี่บุหงาไปด้วยหรือไม่ได้ไป แล้วทำไมจะต้องอ้างพี่บุหงาว่าไปด้วยล่ะ เจ้านายคนนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่านะ”
พร้อมพรห่อปากพร้อมกับส่ายหน้าให้แม่อย่างเร็วไว
“โหยแม่ เป็นไปไม่ได้เลย เจ้านายก็คือเจ้านาย เขาไม่มองผู้ช่วยเลขาบ้านๆ แบบเมยหรอก”
แม่ของเธอยิ้มแล้วเข้ามาโอบไหล่เอาไปกอด
“หย่าแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเข็ดหราบกับความรักหรอกนะลูก”
พร้อมพรยิ้มแล้วมองแม่ด้วยสายตาเศร้าๆ เล็กน้อย
เรื่องหย่าของเธอกับรัฐศาสตร์ พ่อกับแม่รู้แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง
และแม้ว่าเวลาจะผ่านมาขนาดนี้แล้ว แต่เธอก็ยังลืมผู้ชายที่เป็นสามี เป็นความรักแบบชายหญิงครั้งแรกไม่ลง
“เมยกำลังจะลืมแล้วนะ นี่แม่พูดขึ้นมาทำไมอีกเนี่ย”
พร้อมพรแกล้งพูดต่อว่าแม่ แม่ของเธอก็เหมือนจะรู้นิสัยของเธอดี ท่านยิ้มแล้วพูดปลอบอย่างอ่อนโยน แบบที่แม่ทำเสมอเวลาที่เธอเจอเรื่องทุกข์ใจ
“แม่กับพ่ออยู่ข้างๆ เมยแบบนี้เสมอนะลูก สัญญานะว่ามีเรื่องอะไร เมยจะต้องบอกแม่บ้าง ไม่ต้องไปบอกพ่อก็ได้ แต่ต้องบอกแม่ก่อนใครเลย เข้าใจไหมลูก”
พร้อมพรฝืนยิ้ม กลั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลลงมาได้เสมอแล้วตอบแม่กลับไปด้วยเสียงสั่นๆ “ค่ะ”
“ไปอาบน้ำแล้วก็นอนได้แล้ว เดี๋ยวสิวสาวขึ้น พรุ่งนี้ไปทำงานต้องมานั่งเสียเวลากลบสิวอีก”
พร้อมพรหัวเราะออกมาปนรอยยิ้มแล้วเดินกลับเข้าห้องเพื่ออาบน้ำแล้วเข้านอนในเวลาต่อมา
อรุณวดีเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเมื่อเธอยังไม่ได้คำตอบจากรัฐศาสตร์ เมื่อครู่นี้จะถามเขาว่าจะจัดงานแต่งงานกันวันไหน เดือนไหนดี เพราะท้องก็กำลังจะโตขึ้นทุกวัน แต่รัฐศาสตร์ก็เอาแต่เงียบ ยังไม่ตอบคำถามนี้เลย อรุณวดีจึงถามเขาอีกเรื่องจดทะเบียนสมรส ยังไม่ได้คำตอบ อรุณวดีก็ต้องหยุดคำถามเหล่านั้น แล้วเลี่ยงไปรับสายตรงระเบียงของห้องพัก หญิงสาวใช้เวลาคุยสายไม่นานประมาณ 15 นาทีก็วางสายแล้วเดินกลับเข้ามา
เธอส่งเสียงถามรัฐศาสตร์อีกครั้งถึงคำถามเมื่อครู่นี้ แต่แล้วก็ยังไม่ได้คำตอบอีกเหมือนเคย จึงเดินเลยไปหยิบน้ำมะนาวคั้นขึ้นจิบแล้วมองเขาด้วยสายตาครุ่นคิด
พร้อมกับเดินเลยเข้าไปที่ด้านหลัง เลยเห็นว่ารัฐศาสตร์กำลังเลื่อนดูรูปภาพของลูกชายของเขาอยู่
“คิดถึงมากหรอคะ”
อรุณวดีส่งเสียงถามอย่างกระแทกกระทั้น สีหน้าของอรุณวดีไม่พอใจอย่างที่แสดงออกให้รู้อย่างชัดเจน รัฐศาสตร์เลื่อนปิด application รูปภาพลงแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาด้วย
“ลูกของผมทั้งคนนะหนูดี”
“แล้วในท้องของหนูดีเนี่ย ไม่ใช่ลูกคุณหรือไงคะ” อรุณวดีจิ้มนิ้วใส่ท้องตัวเองไปพลางตอนเอ่ยถามเขา
“ก็ใช่ไง แต่ลูกก็ยังไม่คลอดออกนี่”
“หนูดีก็ได้แต่หวังนะคะ ว่าลูกคลอดออกมาเมื่อไหร่ คุณจะรักและก็ใส่ใจลูกของหนูดีแบบลูกชายคนแรกของคุณบ้างน่ะ”
รัฐศาสตร์ขยับตัวนั่งใหม่ ตอบกลับด้วยเสียงเอือมระอา “อย่าหาเรื่องทะเลาะกับผมเลยหนูดี ผมเหนื่อย”
อรุณวดีเห็นท่าทางของชายที่ตนเองรักดูเนือยๆ เหนื่อยหน่ายก็จำต้องส่งเสียงอ่อนลงอย่างเอาใจเขา ออดอ้อนเขาใหม่อีกครั้ง “ก็หนูดีถามว่าเมื่อไหร่เราจะจัดงานแต่งงานกันสักทีละคะ คุณก็ตอบหนูดีมาสิ แค่นี้เอง”
“แล้วแต่คุณเลย” รัฐศาสตร์บอกเสียงเนือยแบบเดิม รอบนี้อรุณวดีทำใจเย็นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว หญิงสาวกรีดเสียงดังลั่นห้องตะโกนโวยวายกลับไปในทันที
“แล้วแต่ แล้วแต่! อะไรก็แล้วแต่ทั้งนั้นเลย หนูดีอยากให้คุณช่วยคิดบ้าง นี่มันงานแต่งงานของเรานะคะ ไม่ใช่แค่งานแต่งงานของหนูดีคนเดียว”
“ผมว่าเราเก็บเงินไว้เลี้ยงลูกไม่ดีกว่าหรอ ถ้าหนูดีอยากจัดก็จัดเป็นงานเล็กๆ ดีกว่ามั้ย”
“หนูดีพอมีเงินอยู่บ้างหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายหรอก”
รัฐศาสตร์ไม่ได้พูดออกไปว่าอะไร ช่วงนี้เขาไม่มีความหลงใหลหรือคลั่งไคล้ในตัวของอรุณวดีอย่างที่เคยเป็นมาเลย
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นด้วยสาเหตุอะไร
อรุณวดีบอกว่าตัวเองท้องได้ 3 เดือนแล้ว แต่รูปร่าง ทรวดทรงของเธอนั้นยังคงเดิม ท้องยังแบนราบเรียบ เนื้อตัวยังกระชับแบบเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
ไม่เหมือนตอนที่พร้อมพรตั้งครรภ์
แค่เดือนที่ 2 เท่านั้น ที่พร้อมพรตรวจพบว่าตั้งครรภ์แล้วรัฐศาสตร์จำได้ว่ารูปร่างของพร้อมพรค่อยๆ เปลี่ยนไป เธอดูมีน้ำมีนวลขึ้น ใบหน้าอิ่มเอิบและท้องของเธอก็ไม่ได้แบนราบอย่างอรุณวดี
อรุณวดีไม่รู้ว่ารัฐศาสตร์เป็นอะไร เขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่กันแน่ แต่ที่รู้ๆ คือตนเองนั้นไม่พอใจเอามากๆ
ตั้งแต่รัฐศาสตร์จดทะเบียนหย่ากับภรรยาเก่า เขาก็ดูซึมลงไปมาก เขาไม่ช่างพูด ช่างเอาใจเหมือนอย่างเดิม และที่เห็นเขานั่งดูรูปภาพในโทรศัพท์ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก
อรุณวดีเห็นเขาเป็นแบบนี้หลายครั้งแล้ว คราวก่อนเขาไม่รู้ตัวว่าเธอเห็นเขาเปิดดูรูปของภรรยาเก่า และในประวัติค้นหา social media ก็ยังเห็นว่ารัฐศาสตร์เข้าไปดูความเคลื่อนไหวของภรรยาเก่าอีกด้วย
แบบนี้ไม่ดีอย่างแน่นอน
อรุณวดีก้มลงมองที่หน้าท้องของตัวเองพร้อมกับยกมือลูบผ่านหน้าท้องของตัวเองไปมาช้าๆ
คงจะต้องจัดการให้เห็นว่าเลิกรากันแล้ว และก็จะไม่มีทางกลับไปหากันอีก อย่าได้คิดเชียว อย่าได้คิดที่จะหวนกลับไปคืนดีกัน เพราะตนนั้นก็ไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน
“ตามทันไหมครับ”
วัชระเศรษฐ์ก้มหน้าลงถามเธอ ตอนที่เดินขนาบข้างกันออกมาจากห้องประชุมใหญ่ พร้อมพรอึกอักเล็กน้อย เพราะเขาถามเหมือนกับจะรู้เลยว่าเธอจดรายงานการประชุมเกือบไม่ทัน แล้วค่อยแหงนหน้าขึ้นเพื่อตอบเขา
“ทันบ้างค่ะบอส แต่มีช่วงท้ายที่ตามไม่ทันค่ะ”
“เก่งแล้วที่ตามทันได้ขนาดนี้ ตอนคุณบุหงาเริ่มงานใหม่ๆ เกือบปีเลยนะกว่าจะตามทัน คุณหัวไวอย่างที่บุหงาบอกเอาไว้เลย”