ณ สนามบินที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน พริมารีบวิ่งฝ่าฝูงชนตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ทางเข้าของสนามบินมากที่สุด
เธอทิ้งสัมภาระทั้งหมดไว้กับรถแท็กซี่ที่มาส่งโดยไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปด้วยเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ความรีบร้อนของหญิงสาวทำให้เธอกลายเป็นจุดเด่นของสนามบินทันที
หลายสายตาเพ่งมองมาที่เธอพร้อมกับตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
พริมาวิ่งตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำที่ยังไม่มีคนเข้าเธอปิดประตูห้องน้ำลงและนั่งลงกอดชักโครกอาเจียนออกมาอย่างหนัก
เสียงโอ้กอ้ากของหญิงสาวดังไปทั่วบริเวณอย่างไม่เกรงใจใคร
และไม่มีแววว่าจะเงียบเสียงลงจนเวลาผ่านไปนานนับครึ่งชั่วโมง
"คุณหนูหายไปไหนมาครับ"
ลุงคนขับแท็กซี่ที่มักจะได้มารับทนายสาวคนนี้อยู่บ่อยๆเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอเดินกลับมา
พร้อมกับรีบยกกระเป๋าที่อยู่ด้านหลังของรถลงให้ เพราะเข้าใจว่าเธอคงจะรีบไปขึ้นเครื่อง
"ส่งหนูกลับคอนโดด้วยค่ะ"
พริมาเดินอย่างคนหมดแรงกลับขึ้นไปบนรถแท็กซี่ที่เรียกใช้บริการอยู่บ่อยๆจนเกิดความสนิทสนมกัน
เธอนั่งลงอย่างหมดแรงและค่อยๆปล่อยน้ำตาให้ไหลซึมลงมาบนพวงแก้มขาวที่ซีดเซียว
ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่ด้วยสภาพกายที่เป็นแบบนี้คงทำให้เธอยังเดินทางตอนนี้ไม่ได้ คงต้องเลื่อนทุกอย่างออกไปก่อน
โชคดีที่วันนี้ครอบครัวของเธอติดงานเลยยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้
เธอคงต้องโกหกว่าออกเดินทางแล้วไปก่อน เพราะถ้าพ่อกับแม่รู้เรื่องเข้าต้องมิวายเข้ามาต่อว่าเธอ
"ครับๆ"
ลุงคนขับแท็กซี่ยกกระเป๋าขึ้นใส่ท้ายรถตามเดิมแล้วรีบขึ้นประจำที่ตำแหน่งคนขับ ก่อนจะขับรถออกไปตามที่ลูกค้าต้องการ
"แวะโรงพยาบาลให้หนูหน่อยนะคะ"
ระหว่างทางกลับคอนโดหญิงสาวก็เกิดอาการพะอืดพะอมขึ้นมาอีก
อาการก่อตัวรุนแรงขึ้นทุกทีเธอคงปล่อยเอาไว้ไม่ได้
ต้องไปตรวจให้มันรู้ไปเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ จะใช่สิ่งที่เธอกำลังกลัวอยู่หรือเปล่า
"ครับๆ"
ลุงคนขับแท็กซี่รีบทำตามที่ผู้โดยสารบอกโดยไม่ปากมากถามอะไรกลับ เพราะเขามีหน้าที่บริการพอรับเงินทุกอย่างก็จบ ส่วนอื่นๆถือเป็นเรื่องส่วนตัวของลูกค้า
"ฮืออออออ"
เสียงร้องไห้ดังแว่วมาแต่ไกลบนระเบียงของคอนโดชั้นที่ยี่สิบ
หญิงสาวกำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนน้ำตาเปียกปอนไปยังชุดสวยที่ใส่เพื่อเตรียมตัวจะเดินทางไปต่างประเทศ
ความเสียใจกำลังถาโถมเข้าหาเธออย่างหนักจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน
หมอที่โรงพยาบาลได้ตรวจร่างกายเธอแล้ว และผลออกมาว่าเธอตั้งครรภ์
เป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะดีใจมาก
แต่กับเธอคงไม่ใช่เพราะเธอถูกข่มขืนไม่ได้ตั้งใจอยากจะมีเด็ก
เธอป้องกันอย่างดี กินยาคุมฉุกเฉินไม่พลาดไปเลยสักเม็ดเดียว แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน
แล้วท้องมาตั้งสิบสามสัปดาห์แล้วถึงมามีอาการแพ้ท้อง
ครอบครัวเธอคงรับไม่ได้เพราะพวกเขาต่างมีหน้ามีตาในสังคม จะมามีลูกที่ตั้งท้องโดยไม่มีพ่อของเด็กคงเป็นเรื่องขายหน้า
"ไอ้คนใจร้าย คนใจมาร คุณต้องรับผิดชอบ"
พริมาร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ปล่อยตัวเองจมอยู่กับน้ำตาเป็นวันเป็นคืนจนร่างกายที่กำลังตั้งครรภ์เริ่มรับไม่ไหว
เธอจึงเริ่มต้นที่จะคิดใหม่เพราะยังไงเสียเธอก็ไม่คิดจะเอาเด็กออก มันบาปเกินไป
และทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือต้องให้พ่อของเด็กมารับผิดชอบ
เธอจะเดินท้องโตไปไหนมาไหนโดยไม่มีพ่อของเด็กในท้องไม่ได้ พ่อแม่ของเธอคงตัดเธอออกจากความเป็นลูก
ถึงแม้ว่าพ่อของเด็กจะใจร้ายใจมารเกินคนธรรมดาทั่วไปก็ตาม แต่จะมาให้เธอรับกรรมคนเดียวไม่ได้
หญิงสาววางแผนหลอกทางครอบครัวว่าเธอเดินทางถึงที่หมายแล้ว
โดยให้เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศส่งรูปถ่ายวิวทิวทัศน์แถวนั้นมาให้เธอเพื่อส่งต่อไปให้ครอบครัวของเธอ
เธออาจดูเป็นลูกที่นิสัยไม่ดีแต่เธอจะให้พ่อกับแม่มาขายขี้หน้าใครต่อใครไม่ได้ว่าลูกสาวท้องโดยไม่มีสามี
อย่างน้อยเธอจะต้องตามคนใจยักษ์ใจมารนั้นมาเซ็นรับรองบุตรให้ได้ก็ยังดีเพราะมันยังการันตีว่าเขายอมรับ
ถ้าลำพังตัวเธอคนเดียวคงไม่คิดจะทำอะไรเพราะหน้าที่การงานของเธอก็พอจะมีเงินเลี้ยงเด็กคนหนึ่งได้สบาย
แต่เธอยังขึ้นชื่อว่าเป็นลูกที่มีพ่อแม่ คงจะมามั่นหน้าคิดว่าจะท้องโดยไม่มีพ่อของลูกไม่ได้
พ่อแม่ของเธอก็ไม่เหมือนใคร พวกท่านแคร์คนอื่นมากกว่าเธอมาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นคงไม่บังคับเธอไปเสียทุกอย่างขนาดนี้
"ไปกันเจ้าจิ๋ว"
หญิงสาวขับรถที่หาเช่ามาออกจากคอนโดทันทีด้วยความรีบร้อนเพราะกลัวคนรู้จักจะมาเจอเธอเข้าก่อนและอาจจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับครอบครัวเธอ
จุดหมายของการเดินทางครั้งนี้คือเกาะส่วนตัวของเวฆา
"นายครับ มีคนมาลงเรือที่หน้าเกาะครับ"
เร็นผู้มีหน้าที่เฝ้าหน้าเกาะวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามารายงานผู้เป็นเจ้านายเมื่อมีคนแปลกหน้ามาเยือนบนเกาะ
"ใคร"
เวฆาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองผู้มาใหม่ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อความหงุดหงิดเริ่มก่อนตัวขึ้นที่มีคนเข้ามาขัดจังหวะการทำงาน
"ไม่ทราบครับ"
หนุ่มผู้ประจำการที่หอคอยสูงหน้าเกาะคิดหนักด้วยเขาไม่เคยเห็นสาวสวยคนนั้นจริงๆ
มองจากกล้องส่องทางไกลตั้งหลายทีก็ยังไม่รู้สึกคุ้นหน้าเธอเลย
"ยิงได้เลย"
คำสั่งตายหลุดออกมาอย่างง่ายดายจากปากของเวฆา เขาไม่สนว่าจะเป็นใครหน้าไหนแต่ถ้ามาก้าวขึ้นเกาะเขาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก็ต้องตายเท่านั้น
"เป็นผู้หญิงนะครับ"
เร็นหันไปมองหน้าดีนที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้านายเพื่อหาตัวช่วยเพราะเขาไม่อยากยิงผู้หญิง
แต่ดีนกลับพยักหน้าไล่ให้เร็นนั้นออกไปก่อนที่เจ้านายจะอารมณ์เสียและยิงมันแทน
"กูบอกให้ยิง"
เวฆาเสียงดังขึ้นเมื่อลูกน้องที่เขาสั่งงานไปแล้วยังยืนนิ่งอยู่
เขาเงยหน้าขึ้นตวัดสายตาดุดันจ้องมองไปยังลูกน้อง
"ครับ"
เร็นวิ่งกลับไปยังด้านหน้าของเกาะตามเดิม ขึ้นไปบนหอคอยสูงที่เคยประจำการ
มือหนาจับปืนคู่ใจเล็งออกไปยังหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่บนผืนทรายบนเกาะ สองมือรับกระเป๋าจากคนขับเรือ