ตอนที่ 6 : พี่รหัส
ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
หลังจากกินข้าวกับเพื่อนใหม่เสร็จ พวกเราชั้นปีหนึ่งก็มารวมตัวกันใต้อาคารของคณะเพื่อทำความรู้จักรุ่นพี่ ในช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่มีอาจารย์สอน มีแต่ให้แนะนำกับเพื่อนสมาชิกในห้องที่จะอยู่ด้วยกันหนึ่งปีเต็มก่อนจะแยกย้ายกันไปคนละสาขา หรือไม่แน่อาจมีเพื่อนสนิทติดพ่วงไปตามๆกันในปีที่สอง
"ยินดีต้อนรับน้องๆทุกคนนะคะ กิจกรรมรับน้องของคณะเราจะไม่ได้รุนแรงเหมือนคณะอื่น เราเน้นสร้างสัมพันธไมตรีพี่น้องได้สนิทกันมากกว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปน้องๆทุกคนจะมีพี่รหัสของตัวเอง แต่การที่จะบอกเฉยๆมันก็คงไม่สนุก พวกพี่จะให้คำใบ้พี่รหัสกับน้องๆ และไปตามหาพี่รหัสตัวเองให้เจอ ในอาทิตย์หน้าเราจะมาเฉลยพี่รหัสกัน และถ้าใครตอบไม่ถูก ก็จะมีบทลงโทษ ทางที่ดีน้องๆควรตั้งใจหาพี่รหัสตัวเองจะดีกว่า"
"นอกจากบทลงโทษแล้ว พี่รหัสตัวเองจะทำโทษด้วยการไม่รับเข้าสายรหัส คราวนี้เวลาปรึกษางานหรือเรื่องต่างๆก็จะลำบาก"
บรรดารุ่นพี่ปีสี่ที่ยืนล้อมพวกฉันไว้พูดด้วยท่าทางเคร่งขรึมและเรียบนิ่ง ใบหน้าของแต่ละคนบ่งบอกถึงความจริงจังและไร้ซึ่งรอยยิ้ม ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคณะเราจะไม่รับน้องที่รุนแรงจริงเหรอ เพราะคำขู่ของรุ่นพี่ทำเอาเสียวสันหลัง ในฐานะเด็กต่างจังหวัดพอได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำก็ดูตื่นเต้นไม่น้อย
"เดี๋ยวพี่จะเรียกชื่อน้องปีหนึ่งนะคะ แล้วจะบอกคำใบ้ จำคำใบ้ของพี่รหัสตัวเองให้ดี ในระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้ทุกคนจะได้รับคำใบ้ทุกวัน เราจะมาเจอกันหลังเลิกเรียนแบบนี้ทุกวัน เข้าใจสิ่งที่พี่พูดไหมคะ"
"เข้าใจค่ะ/ครับ"
เสียงขานรับของเด็กปีหนึ่งตอบรับรุ่นพี่สาวสวยปีสี่อย่างพร้อมเพรียงกัน
ฉันนั่งฟังเสียงรุ่นพี่เรียกชื่ออย่างใจจดใจจ่อ คำใบ้แต่ละคำที่บอกเพื่อนคนอื่นไม่มีใครหาคำตอบได้
"น้องน้อยหน่า"
ฮู้ว...แปะ แปะ แปะ
ฉันรีบลุกขึ้นทันทีเมื่อได้ยินรุ่นพี่ที่อยู่ด้านหน้าเรียกชื่อตัวเอง แต่ก็งุนงงที่รุ่นพี่ผู้ชายหลายคนส่งเสียงโห่ร้องแถมปรบมือตามๆกัน ทั้งที่คนอื่นไม่ได้ส่งเสียงโห่ร้องขนาดนี้ มือบางประสานกันไว้ตรงหน้าด้วยความประหม่าเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแลดูทุกคนส่งยิ้มมาให้ฉัน ราวกับฉันเป็นตัวตลก ดวงตากลมโตเลือกที่จะจับจ้องรุ่นพี่ผู้หญิงที่เป็นคนบอกคำใบ้แทนการมองรุ่นพี่คนอื่น
"น้องเขากลัวหมดแล้ว พวกเอ็งก็เปิดเผยจนออกนอกหน้า" หญิงสาวปีสี่อดจะแซวเพื่อนไม่ได้
"ไม่ต้องกลัวมันลูก พวกนี้มันอดอยากปากแห้งไปนาน พอเจอของสวยงามก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา"
ใบหน้าหวานพยักหน้าส่งตรงไปยังรุ่นพี่สาวสวยที่พูดออกไมค์
"คำใบ้ของน้อยหน่าคือ...หล่อ ขาว สูง นายแบบ"
"คะ?" คิ้วบางขมวดเป็นปมเมื่อได้คำใบ้ที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคือรุ่นพี่คนไหนในนี้ ถ้าเท่าที่รู้ก็คือเป็นรุ่นพี่ผู้ชาย แต่ถ้าคำใบ้พวกนั้นโกหกเป็นตรงกันข้ามขึ้นมาละ ริมฝีปากบางยิ้มแหยๆเพราะไม่ได้อะไรกับคำใบ้เลย ดวงตากลมโตมองไปรอบๆก็เจอรุ่นพี่หนุ่มหลายคนส่งยิ้มมาให้ และแต่ละคนก็ผิวพรรณดีทั้งนั้น ราวกับมหาวิทยาลัยเอกชนที่นี่คัดผู้ชายหน้าตาดีเข้าเรียนอย่างไงอย่างงั้น แต่ละคนก็สูงร้อยเจ็ดสิบอัพหุ่นนายแบบกันทั้งนั้น
"พี่ว่าคำใบ้ของน้องน้อยหน่าชัดเจนสุดแล้วนะ น้องรหัสก็สวย พี่รหัสก็หล่อ"
ฮิ้ววว...
"แม่งโคตรโชคดีที่จับได้น้องรหัสคนนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นมากกว่าน้องรหัสหรือเปล่า" ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาพูดแซว
"ขอบคุณค่ะ" ฉันเลือกที่จะขอบคุณสำหรับคำใบ้ของรุ่นพี่ปีสี่และรีบนั่งลงก่อนที่จะโดนแซวไปมากกว่านี้ ฉันยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางสายตาของเพื่อนหลายสิบคนถึงกับทำตัวไม่ถูก คำพูดของรุ่นพี่ไม่ได้ช่วยให้ฉันเจอพี่รหัสของตัวเองเลยสักนิด หวังว่าอาทิตย์หน้าฉันจะทายว่าใครคือพี่รหัสตัวเองได้ถูก ไม่รู้ว่าบทลงโทษคืออะไรแต่เลือกที่จะไม่โดนลงโทษดีกว่า
"นิๆ น้อยหน่า เลิกเรียนแล้วไปร้านนั่งชิลใกล้มหาวิทยาลัยไหม แถวนี้ร้านนั่งกินเพียบ"
"นั่นสิ ไปด้วยกันไหม เรากับเดวารู้จักแถวนี้ดี เผื่ออยากไปเปิดหูเปิดตา"
"ร้านนั่งชิล?"
เดวาสะกิดฉันหลังจากนั่งลงแล้ว ในระหว่างนั้นรุ่นพี่ก็เรียกคนอื่นต่อ แต่เราสามคนนั่งติดกันเลยแอบพูดคุยกันได้ แต่สิ่งที่เดวากับพิมพ์พูดทำเอาเด็กต่างจังหวัดอย่างฉันไม่ค่อยเข้าใจ ส่วนใหญ่หลังเลิกเรียนถ้าไม่มีกิจกรรมของโรงเรียนฉันก็จะนั่งรถกลับบ้านขึ้นดอย
"ไม่รู้จักร้านนั่งชิลเหรอ ร้านนั่งกินยามเย็นแบบมีเพลงฟัง มีเบียร์จิบเย็นๆ"
"เราคงไปไม่ได้หรอก ไม่อยากมีปัญหากับพี่เรา อีกอย่างเราก็ดื่มเบียร์ไม่เป็นด้วย ร้านพวกนี้คงไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่"
"ไม่ได้มีแค่เบียร์สักหน่อย น้ำส้ม น้ำเปล่า น้ำที่ไม่มีแอลกอฮอล์มีหมด ไปด้วยกันเถอะถือว่าทำความสนิทกันไว้ โทรบอกพี่ก็ได้ว่าขอไปนั่งคุยกับเพื่อนสักสองชั่วโมง"
"อ่อเหรอ...งั้นเราลองคุยกับพี่เราก่อนนะ"
ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนกับคำชวนเพื่อนใหม่ ใจหนึ่งก็อยากไปนั่งพูดคุยตีสนิทอย่างที่เดวาบอก เราจะได้รู้จักกันมากขึ้น แต่อีกใจก็ไม่อยากให้พี่ไอร์ต้องรู้สึกไม่ดี ที่พึ่งมาเรียนวันแรกก็ออกนอกลู่นอกทาง และยังผู้ชายคนนั้นที่เขาต้องมารอรับฉันอีก มือบางหยิบโทรศัพท์มาถือไว้อย่างใช้ความคิด ไม่ได้สนใจกับกิจกรรมของรุ่นพี่ที่กำลังดำเนินอยู่เลย ริมฝีปากบางเม้มหากันแน่นก่อนจะตัดสินใจส่งข้อความหาเขา
LINE
น้อยหน่า : หนูขอไปนั่งคุยกับเพื่อนใกล้ๆมหาวิทยาลัยสักสองชั่วโมงนะคะ
น้อยหน่า : กว่าจะเลิกกิจกรรมรับน้องก็น่าจะห้าโมงเย็น ถ้าสองชั่วโมงก็ประมาณหนึ่งทุ่มพี่เทเลอร์ค่อยมารับหนูนะคะ
คิ้วบางขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาอ่านแต่ไม่ตอบ ฉันไม่รู้ว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดหรือเปล่า
น้อยหน่า : ถ้าพี่ไม่ว่างหนูกลับเองก็ได้ค่ะ
ฉันทำเหมือนเก่งแต่ความจริงคือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องกลับยังไง แต่เขาก็ยังอ่านและไม่ตอบเหมือนเดิม
"คนอะไรเย็นชาชะมัด ถือว่าหนูบอกพี่แล้วนะ จะมารอเก้อก็ตามสบายหนูมีหลักฐาน"