EP.6 ความทรงจำที่ขาดหาย
“ผมก็คิดว่าใครที่ไหนนายอำเภอพชรนี่เอง คิดยังไงล่ะครับถึงมาเยี่ยมเมียผมถึงโรงพยาบาล”
ชายหนุ่มยังคงกำข้อมือหญิงสาวไว้แน่น ฐิตารีย์พยายามแกะมือหนาราวกับคีมเหล็กออก เธออยากเข้าห้องน้ำจะแย่อยู่แล้วแต่ดูทีท่าแล้วเห็นจะยากเมื่อสองหนุ่มยังคงจ้องมองหน้ากันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“คุณเป็นสามีของเธอ” พชรทวนถามซ้ำราวกับไม่เชื่อหู หญิงสาวตรงหน้าน่าจะอายุราวยี่สิบต้นๆ เธอมีสามีแล้วหรือนี่ เขาหันมามองจิณณวัตรหรือที่ใครๆ ต่างก็เรียกเขาว่านายหัวเพราะเป็นเจ้าของที่ดินเกือบครึ่งอำเภอ ปลูกยางพารากว่าหลายพันไร่เรียกว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุด เขาเคยรู้มาคร่าวๆ จากคำบอกเล่าของชาวบ้านว่านายหัวจิณณวัตรเป็นพ่อหม้ายลูกติดเพราะภรรยาสาวหนีไปกับหนุ่มเมืองกรุง เขาหันไปมองหญิงสาว...ผู้หญิงบอบบางคนนี้น่ะเหรอจะหนีตามผู้ชาย อมพระประธานมาพูดเขาก็ไม่เชื่อ ดูจากวิธีการปฏิบัติที่นายหัวทำกับเธอแล้ว เขาคิดว่าที่เธอหนีไปเพราะทนผู้ชายบ้าอำนาจคนนี้ไม่ได้มากกว่า
“คุณหมายความว่าอะไร ใครเป็นเมียคุณ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความมึนงง สับสนจนไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ถูก หากเธอเป็นภรรยาของเขาแล้วเหตุใดเขาจึงมีท่าทีเย็นชากับเธอนัก
“เธอจะรู้อะไร ชื่อตัวเองจำได้หรือเปล่า” นายหัวหนุ่มตะคอกจนหญิงสาวหงอด้วยความหวาดกลัว
“ว่ายังไงนายอำเภอ คุณมาที่นี่ทำไม” นายหัวจิณณวัตรหันมาถามนายอำเภอหนุ่มอย่างเอาเรื่อง ใบหน้ายียวนกวนประสาท
“ผมมาเยี่ยมเอ่อ...” ชายหนุ่มเพิ่งคิดได้ว่ายังไม่ทราบชื่อของหญิงสาวเลย
“ฉันชื่อฐิตารีย์ค่ะคุณพชร” หญิงสาวตอบออกไป นึกนิยมความใจเย็นของพชร ทั้งที่ผู้ชายข้างกายเธอจ้องมองหน้านายอำเภอหนุ่มราวกับจะแล่เนื้อเถือหนัง นายหัวหนุ่มมองมาทางหญิงสาวอย่างขัดใจ
“นี่ไปสนิทสนมกันตั้งแต่เมื่อไหร่” ชายหนุ่มตะคอกถาม สายตาดูแคลนมองหญิงสาวอย่างจับผิด
“หรือคิดหาลู่ทางไว้แล้วว่าจะเอาไอ้นายอำเภอนี่มาเป็นผัวคนใหม่”
“กรุณาให้เกียรติกันหน่อยนะคุณจิณณวัตร อย่างน้อยก็ให้เกียรติภรรยาของคุณบ้าง” พชรกัดฟันกรอดมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว
“ขนาดเพิ่งเจอกันเธอยังทำให้นายอำเภอหลงขนาดนี้ นี่ถ้าฉันมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อยคงแพ้มารยาสาไถย ช่างออดอ้อนเอาใจ หลอกให้หลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ”
ผัวะ! หมัดลุ่นๆ เสยเข้าที่มุมปากของจิณณวัตรเต็มแรง ชายหนุ่มร่างสูงถึงกับเซถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะเดินเข้าหาพชรอย่างเอาเรื่องฐิตารีย์รีบวิ่งเข้าไปขวางทันที
“อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ คุณพชรกลับไปก่อนเถอะค่ะ นะคะ” หญิงสาวพยายามไกล่เกลี่ยไม่อยากให้คนทั้งคู่ทะเลาะกันเพราะเธอ
“ผมเห็นแก่คุณนะฐิตารีย์ ถ้าวันไหนคุณทนผู้ชายอย่างนายจิณณวัตรไม่ได้ ไปหาผมได้ทุกเมื่อ”
พชรทิ้งท้ายด้วยการกระตุกหนวดนายหัวที่ขึ้นชื่อว่าดุและเด็ดขาดที่สุด จิณณวัตรกัดฟันกรอดมองไล่หลังนายอำเภอหนุ่มอย่างไม่ชอบใจ เมื่อหันมาหมายจะไล่เบี้ยตัวต้นเหตุก็พบว่าเธอหนีเข้าห้องน้ำไปเสียแล้ว
ชายหนุ่มนั่งรอหญิงสาวที่โซฟา สายตาจดจ้องที่ประตูห้องน้ำ เมื่อได้ยินเสียงคลายกลอนประตูเขาก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วตรงเข้าไปเปิดประตูกระชากร่างบางให้ออกมาจากห้องน้ำทันที
“โอ๊ย!” หญิงสาวร้องเสียงหลง เมื่อเสาน้ำเกลือตกไปบนพื้นรั้งสายน้ำเกลือที่เชื่อมต่อมายังแขนจนตึง
“นี่ขนาดความจำเสื่อมเธอยังไม่ทิ้งนิสัยร่าน” ชายหนุ่มจับที่ไหล่ทั้งสองข้าง บีบแน่นจนหญิงสาวนิ่วหน้า มองผู้ชายอารมณ์ร้ายด้วยความหวาดกลัว
“คุณพชรเขาเป็นคนช่วยพาฉันมาส่งโรงพยาบาล ตอนที่ฉันประสบอุบัติเหตุ” หญิงสาวตะคอกกลับอย่างไม่ชอบใจ
“แล้วยังไง เธอต้องทดแทนบุญคุณโดยการให้ไอ้นายอำเภอนั่นกอดเธออย่างนั้นเหรอ” ชายหนุ่มพูดเสียงลอดไรฟัน มองใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาว
รู้สึกปวดที่หัวใจ...
อยากให้เรื่องราวทุกอย่างมันจบลงเสียที อยากให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา เธอจะไปนอนกับใครที่ไหนเขาไม่คิดแยแส แต่ต้องไม่ใช่ต่อหน้าต่อตาเขา และต้องไม่ใช่ที่นี่!
“จิตใจคุณมันคิดแต่เรื่องใต้สะดือ หัดมองคนอื่นในแง่ดีหน่อยได้มั้ย” น้ำเสียงเครือนึกน้อยใจในโชคชะตา ทำไมเธอต้องพบเจอผู้ชายป่าเถื่อนเช่นนี้ด้วย
ชายหนุ่มดึงเธอเข้ามากอด จ้องมองริมฝีปากอิ่มที่เริ่มมีปากเสียงขึ้นมาบ้างแล้ว “ก็เธอเองไม่ใช่เหรอที่ชอบเรื่องใต้สะดือพวกนี้” เขากระซิบแผ่วข้างใบหู “เมื่อก่อนเธอยังรบเร้าให้ฉันปรนเปรอให้เธอแทบทุกคืน”
เพียะ! ฐิตารีย์ดิ้นหลุดจากอ้อมกอดแล้วสะบัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของชายหนุ่มเต็มแรง
“สกปรก ฉันไม่ใช่เมียคุณ” หญิงสาวถอยหนีจนชิดผนังห้องเมื่อเห็นสายตาแวววาวน่ากลัวของเขา ชายหนุ่มไม่ได้โต้ตอบแต่ตรงเข้ากระชากร่างบางเข้ามากอดและตะโบมจูบไซ้ซอกคอขาวนวลอย่างถือสิทธิ์ ฐิตารีย์พยายามดันร่างสูงให้ออกห่าง
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วย...”
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เธอได้โวยวายเขาปิดเรียวปากหวานเสียสนิท บดขยี้เรียวปากอวบอิ่มรุนแรง ร่างบางเบิกตาโพลงตกใจกับสัมผัสหยาบกระด้าง เธอพยายามผลักไสทว่าเขากลับดึงดันทั้งยังแทรกปลายลิ้นร้อนผ่านกลีบปากสีกุหลาบเข้ามาควานหารสหอมหวานอย่างตะกละตะกลาม
“อย่า” หญิงสาวร้องได้เพียงเท่านั้นเมื่อริมฝีปากถูกครอบครองโดยคนป่าเถื่อน เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัวมือไม้อ่อนแรง หากเขาไม่กอดเธอไว้เธอคงล้มลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย
“ปล่อยฉันนะ” แสบที่ริมฝีปากเมื่อมันแตกยับจากรสจูบกักขฬะ เธอสะดุ้งเฮือกอีกครั้งเมื่อมือหนาสอดเข้ามาในสาบเสื้อกอบกุมทรวงอกปราศจากบราเซียร์ของเธอเอาไว้ ก่อนจะเคล้าคลึงจนหญิงสาวสะท้านไปทั้งตัว เขาดันเอวบางเข้าหาลำตัวแล้วกอดเธอไว้จนแทบจะหลอมรวมร่างกายแข็งแกร่งของเขาให้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับร่างบอบบางไร้หนทางสู้
“ตารีย์” ชายหนุ่มครางเสียงแหบพร่า เมื่อเรือนร่างหอมหวานภายใต้อ้อมกอดอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งลนไฟปลุกให้ไฟพิศวาสโชติช่วงยากจะต้านทาน จมูกคมซุกไซ้ลงมายังร่องอกอวบอิ่ม ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นร้อนลากวนไปยังยอดอกอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ มือหนึ่งยังคงเกาะกุมทรวงอกอีกข้างไว้ไม่ยอมปล่อย ในขณะที่จมูกและลิ้นกำลังทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นระริก