CHAPTER 5

1437 คำ
CHAPTER 5 ม.ร.ว.รังสิมันต์ สัตบรรณ : TALK “เฮ้ยๆ ทางนี้ครับคุณชาย” “เรียกผิด เรียกว่าท่านชาย” ผมบอกให้พวกมันก่อนที่จะทรุดนั่งลงโซฟาสีเข้มถ้ามาร้านแห่งนี้ที่ประจำก็คือตรงนี้แหละ ไอ้พวกนี้มันรู้ดีว่าเป็นการประชดของตัวเองจึงไม่สนเท่าไหร่นักกับสนใจชงเหล้าเคลื่อนมาวางตรงหน้า “ขอบใจ” “มาก็ส่องสาวเลยนะเว้ย” “ธรรมดาว่ะ” ธรรมดาที่หมายถึงมองไปเรื่อยๆ ไม่ได้เจาะจงอะไรเป็นพิเศษนักอีกอย่างที่ตรงที่ผมนั่งมันเป็นโซน VIP เนื่องด้วยทุกอย่างของผมไม่เหมือนคนอื่นเท่าไหร่จึงต้องรักษาหน้าให้ตระกูลหน่อยแต่ก็ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้ขนาดนั้นหรอกแค่อยากทำตามกฎให้มันจบๆ ไปค้านมีเรื่องมากกว่า “ธรรมดาแค่เหวี่ยงสายตาก็ได้แดก” ผมไม่ตอบหรอกแค่ยกยิ้มขึ้นตรงมุมปากจากนั้นแก้วเหล้าที่อยู่ในมือก็ยกขึ้นชนทางไกลกับพี่รหัสของตัวเอง วันนี้เลี้ยงสายรหัสของผมเองส่วนไอ้พวกที่เหลือก็ตามนั้นอยากมาแดกของฟรีพอดีว่าร้านนี้เป็นของพี่รหัสของผมเองซึ่งนั้นก็ได้จบไปแล้วเรียบร้อย “หึ... ไม่ใช่แล้ว” ผมเลือกปฏิเสธพร้อมกับแกว่งแก้วเหล้าในมือแล้วมองไปรอบวงก่อนหยุดที่คนคุ้นหน้ามากที่สุดและคงสนิทกว่าใครในระยะนี้ “ไหนหลานและน้องรหัสมึงอ่ะไอ้ชา” กลายเป็นว่าสายตากับคำถามของผมเปลี่ยนพุ่งเป้าไปหาน้องรหัสของตัวเองที่กำลังยกเม็ดถั่วเข้าปากมันหันมาสบสายตากับผมแล้วยกยิ้มขึ้นตามประสาเด็กที่ยังโตแต่ตัว “นั่นไงครับ” คนหนึ่งที่เดินนำเดินเป็นผู้ชายตัวไม่ใหญ่มากผมรู้จักเมื่อปีที่แล้วในฐานะหลานรหัสส่วนคนที่เดินตามยังไม่รู้จักแต่คงเป็นเหลนรหัสมั้งที่สำคัญเป็นผู้หญิง “เหี้ยผู้หญิงเหรอวะ กูจบมาไม่เคยมีผู้หญิงเลยไอ้สัส” อดีตพี่รหัสของผมเอ่ยขึ้น “สวัสดีครับพี่ต้า” “เออๆ หวัดดี” ทำทักทายและการไหว้เกิดขึ้นจากหลานรหัส “มิ้นนี่ทวดรหัสนะชื่อพี่ต้ารุ่นพี่ปี 4 ส่วน...” ผมไม่สนใจแค่รับไหว้จากคนชื่อมิ้นที่เป็นสายรหัสแล้วไม่ได้สนใจเสียงเหลนแนะนำอีกเพราะสายตาหันไปมองด้านล่างที่กำลังมีคนวาดลวดลายการโยกย้ายส่ายสะโพกเต้นไม่หยุดหย่อนหนึ่งในนั้นมีร่างหนึ่งเรียกสายตาของผมอยู่ “ไอ้เหี้ยเอ้ยสวยสัดๆ” “พอบ้างเถอะพี่อ่ะ แก่แล้วนะ” “ไอ้ห่าถ้าไม่มียศนำกูตบหัวมึงแล้วนะไอ้เหี้ยต้า” “ขนาดนี้แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจแล้วแหละพี่” เพราะพี่รหัสตัวดีไม่รู้ว่าย้ายที่นั่งจากไหนมายัดใกล้ผมจนไม่รู้จะใกล้ยังไงแล้วแหละ “เชื่อเลยว่ะ” “อะไรของมึง” “เปล่า” “ปฏิเสธแต่มึงก็ดูน้องเขาเว้ยไอ้ห่า” “คนไหน?” ผมถามไอ้พี่รหัสของตัวเองทว่ามันไม่ทันตอบหรอกเพราะไอ้เพื่อนอีกคนที่นั่งอีกฝั่งหนึ่งแหกปากขึ้นมาก่อนจะได้รับรู้จากปากมัน “เฮ้ยๆ ทางโน้นว่ะออร่าสัสๆ” “เออใช่ คนเดียวที่กูมองเลย” ไม่ใช่ผมนะที่ตอบแต่เป็นไอ้พี่รหัสคนเดิมแล้วมันยังมีหน้ากันมายักคิ้วส่งให้ผมอีกพร้อมพ่นคำถามมา “สวยเนอะว่ามั้ย” “ก็ไม่เท่าไหร่” ก็แค่สะดุดสายตาใครหลายคน ก็แค่เด่นในหมู่มาก ก็แค่มีผิวขาวซีดเหมือนกระดาษ ก็แค่มีริมฝีปากแดงเรียกสายตาแค่นั้นจริงๆ “มั้ง” “กูงงทำไมมึงมีมั้งด้วยวะไอ้ต้า” “งงต่อไปดิ” “แต่ดูท่าทางเมาแล้วจะโคตรเซ็กซี่แน่ๆ” “อ้อเหรอ?” ริมฝีปากของผมกระตุกขึ้นตามมาด้วยรอยยิ้มเหยียดอย่างเช่นทุกครั้งที่ได้ยินอะไรจำพวกนี้ในวงเหล้ากับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้มีความสนิทอะไรกันขนาดนั้น “หลายสายตาจดจ้องไปที่น้องเขาคนเดียวเลยว่ะ” ครั้งนี้ไม่ใช่พี่รหัสตัวเองนะประโยคนี้แต่เป็นไอ้พวกตรงข้ามที่นั่งอีกฝั่ง “ชอบก็จีบดิ” ผมพูดขึ้น “สวยอย่างนางฟ้าลองเหล้าเข้าปากขึ้นมาคราบนางฟ้าหายไปแน่” เป็นอันทุกอย่างจึงยุติลงไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีกกับเรื่องมองผู้หญิงมีแต่พูดคุยเรื่องต่างๆ กันอย่างออกนอกหน้าทว่าแป๊บเดียวกับมีสายตาหนึ่งจ้องผมแบบนั้นไม่ไปไหน เป็นสายตาใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่หนึ่งเดียวในกลุ่มที่เป็นผู้หญิงนั่งใกล้หลานรหัสและน้องรหัสของผม “จ้องมึงแทบแดกไอ้สัส” “รู้” ผมตอบไอ้พี่รหัสของตัวเองแสดงว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่เห็น “สานต่อดิวะกลัวอะไร” “กลัวเหี้ย” “อันนี้มึงตั้งใจด่ากูแล้วไอ้ต้า” “ฉลาดครับ” “แล้วนั่นอะไร?” สายตาของไอ้พี่รหัสตัวเองหยุดไปยังนิ้วมือข้างซ้ายของผมที่ถือแก้วเหล้าอยู่มันจดจ้องมันอยู่แบบนั้นไม่วางสายตาใดๆ ทั้งสิ้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนเหี้ยเริ่มออกทำงานออกโดยทันทีกระทั่งพูดเสียงดังกลางวงเหล้าว่า “ไอ้ท่านคุณชายต้าใส่แหวนนิ้วนางข้างซ้ายเว้ยไอ้เหี้ย!” แหวนแบรน์ดังบนนิ้วนางข้างซ้ายผมกลายเป็นข้อสงสัย แหวนที่ผมไม่เคยใส่นิ้วนี้เลยยกเว้นสองอาทิตย์มานี้ ใช่ครับผมใส่จริงๆ มันไม่ได้แปลกอะไรขนาดนั้นถ้าไม่ใช่ใส่นิ้วนางข้างซ้ายใช่ไหม สำหรับผมแล้วมันก็พอมีอะไรอยู่บ้างแต่ในสายตาของคนอื่นๆ มันกับใหญ่โตมากกว่าปกติ “ยังไงครับพี่รหัส” ไอ้ชาเอ่ยมาเลย “นั่นสิครับทวดรหัส” ตามด้วยเหลนรหัส “จะมีข่าวดีแล้วใช่ไหมครับเนี่ย” ตบท้ายด้วยไอ้ชาอีกรอบหนึ่ง “กูอยากรู้ใครเป็นเจ้าของแหวนมึงใส่เองหรือสาวใส่” “มันยังไงนัก” “กูอยากรู้กูพี่รหัสมึงนะเว้ย” “แล้วแต่จะคิดก็แล้วกัน” ผมไม่อยากสร้างปริศนาอะไรแค่เบื่อการตอบในเมื่อถ้าตอบไปก็ยังโดนถามไม่เลิกแน่นอนและคงสาวยาวมากกว่าเดิมหลายเท่า “จะคิดอะไรก็คิด” “งั้นตอนนี้กูคิดว่ามึงไม่โสดแล้วไอ้คุณชายต้า มึงเข้าวังไปไม่ใช่หรือไงวะ” “ก็ที่นั่นบ้านผมก็กลับบ้านไม่เห็นแปลกอะไรสักหน่อย พี่ไม่เคยกลับบ้านเหรอถึงได้ถามแบบนี้” “มึงแย้งไม่ถูกหรอกใช่บ้านของมึงแต่ทุกครั้งไม่มีแหวนนี่โว้ย” “แค่นี้เหรอไม่นึกว่าจะช่างสังเกตขนาดนี้” เพราะผมไม่ทุกข์ร้อนอะไรมั้งเลยเลยทำให้อีกฝ่ายยิ่งเฉยไม่ได้ไปกันใหญ่ก็ถือว่าเป็นปกติของมนุษย์แล้วกัน จะคิดว่าเป็นความสงสัยจริงๆ “ไอ้คุณชายต้า!” “ให้ผมพูดมั้ยครับ” แต่แล้วไอ้ชาน้องรหัสของผมมันก็พูดขึ้นทำให้ทุกคนเงียบเพื่อที่จะฟังมันคนเดียว เงียบที่แบบว่าโคตรเงียบ “แบบนี้นะครับที่พี่รัชสงสัยพี่ต้าเพราะแหวนที่ใส่นิ้วนางนั้นเขาให้คนที่แต่งงานหรือว่าหมั้นกันครับ” “แสดงว่ากูหมั้นและแต่งงานแล้วงั้นสิ” “แล้วใช่มั้ยล่ะครับพี่ต้า” “ไม่อ่ะไม่หมั้นไม่แต่งอะไรทั้งนั้นแหละ” “กูหวังอะไรอยู่วะเนี่ย” “ให้เลิกหวังจะได้ไม่ผิดหวัง” ความจริงที่ผมซ้ำเข้าไป “แต่มีเจ้าของแล้ว” “ห้ะ!/ห้ะ!” “ความจริงไงอยากรู้ไม่ใช่เหรอ” “ใครเมียมึงใคร” “ให้โควต้ารู้แค่มีเจ้าของแล้วก็พอ” รู้แค่นั้นก็คือรู้แค่นั้นจริงๆ ไม่นานหรอกที่พวกนั้นจะหยุดเซ้าซี้เอ่ยถามเรื่องของผมเพราะรู้ว่ามันไม่ได้คำตอบต่างจากเดิมนักส่วนผมที่เริ่มเบื่อหน่ายสถานการณ์เดิมๆ จึงปลีกตัวบอกพวกนั้นว่าจะเข้าห้องน้ำพร้อมกับคนตามหลังมาอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นไอ้ชาน้องรหัสของตัวเอง “ตามกูมาเพื่อ?” ผมหยุดถามข้างโซนไว้สูบบุหรี่โดยเฉพาะเพราะปกติแล้วน้องรหัสตัวเองไม่ได้จะขี้เสือกอะไรขนาดนี้ “จะเสือกอะไร” “เกลียดนักคนรู้ทัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม