CHAPTER 3

1676 คำ
CHAPTER 3 ไอ้ตุลย์กลับมาแล้วนะฟาง เสียงสะท้อนของประโยคนี้วนเวียนอยู่ภายในหัวของฉันอย่างไม่รู้จักจบสิ้นแม้แต่วินาทีเดียวที่ได้รับรู้ ใบหน้าที่เคร่งเครียดไม่เหมือนเดิมมาตลอดสุดทางแม้แต่เข้ามาในวังตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ การคิดมากของตัวเองเริ่มหายไปเมื่อมีนิ้วมือยาวดีดกลางหน้าผากเพื่อให้รู้สึกตัว “ตื่น เครียดอะไรนักหนาเรียกเป็นสิบครั้งแล้ว” “พี่...” เสียงฉันเอ่ยได้แค่นี้แล้วก็หยุดลงเมื่อเสี้ยวใบหน้าเรียวเข้ามาใกล้ระดับที่หายใจรดลงบริเวณแก้มของฉัน เขาไม่ทำอะไรมากกว่ากระตุกยิ้มแล้วปลดสายเบลท์ออกให้ก่อนถอยออกไป “นี่ไม่...” “มันกลับมาแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้หรอก” “…” “เชื่อดิ” ถึงจะเป็นคำยืนยันแต่มันทำให้มั่นใจไม่ได้เพราะเกือบสามปีที่ผ่านมาทุกอย่างทำให้ฉันไม่สามารถวางใจสักนิดเดียว อะไรมันเกิดขึ้นได้เสมอแม้แต่สิ่งที่คิดว่าจะควบคุมได้ก็เถอะ ที่ผ่านมามันเป็นบทเรียนให้ทั้งชีวิตฉันและก็เขาโดยไม่ใช่เรื่องของตัวเองทุกอย่างเป็นเรื่องของคนอื่นที่มักถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อนทว่าพอมันลงตัวไอ้พายุลูกเก่าก็เหมือนกลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่งแล้วครั้งนี้ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเบาหรือว่าแรงหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม “แต่...” ฉันกำลังจะแย้งขึ้น “สิทธิของมันหายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วฟาง มาตอนนี้มันก็ไม่ได้อะไรนอกจากความเจ็บปวดหรอก” “…” “แค่มันมองความเจ็บปวดก็เล่นเข้าตัวมันหมดแล้วอย่ากังวลเลยไม่มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้น เข้าบ้านกัน” เขาลงจากรถอ้อมเดินมาฝั่งฉันแล้วเปิดประตูให้พร้อมกับยิ้มหวานออกมาทั้งที่เป็นคนยิ้มยากอยู่แล้ว ทุกคนที่รู้จักเขาผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งราวกับนายแบบผิวขาวๆ จนเห็นเส้นเลือดเด่นออกสะท้อนกับเรือนผมสีดำสนิทเป็นอย่างดียังไม่รวมจมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากหยักได้รูปเรียกว่าใบหน้าครบเครื่องเรื่องความดูดี ภายนอกภาพคุณชายออร่าจับมากทว่านิสัยด้านในล้วนสวนทาง เขาไม่ได้มาดคุณชายตลอดเวลา เขาไม่ได้สุภาพอะไรขนาดนั้น และเขาก็ไม่ได้ใจดี “พ่อ!” เด็กชายวันสามขวบกว่าเมื่อเห็นเขาที่เดินนำหน้าฉันเข้ามาใบบ้านหลังใหญ่ก็รีบทิ้งปืนของเล่นในมือลงกระทบพื้นอย่างไม่ใส่ใจนัก สองเท้าเล็กที่สวมสลิปเปอร์เด็กสีเทาด้านหน้ามีลวดลายเป็นใยแมงมุมก็รีบวิ่งอ้าแขนเข้ามากระโดดใส่คนเป็นพ่อในทันที สองแขนในชุดเรียบแขนยาวสีเทากับกางเกงขาสั้นสีขาวเมื่อโดดคนเป็นพ่ออุ้มตัวลอยแบบนั้นมีเหรอที่จะไม่กอดคอคนเป็นพ่อแน่นอีกทั้งสองขายังกอดรัดเอวแน่น “คิดถึงพ่อขนาดนั้นเลยใช่มั้ยครับ” “คิดถึงมากเลยครับ” ภาพนี้ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างยิ้มไปตามๆ กันไม่เว้นแม้แต่สาวใช้เว้นเสียแต่ว่าคนเดียวเมื่อฉันหันไปมองเขาที่นั่งอยู่นั้นที่ไม่มีรอยยิ้มเลยคงเป็นคนที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศคนนี้ “เห็นคนเป็นพ่อรีบวิ่งทิ้งปืนที่พี่ชายตุลย์ซื้อมาให้เลย” อ่าแบบนี้นี่เอง ลูกชายฉันเล่นทิ้งแบบไม่แคร์เสียด้วยสิแต่ไม่เป็นไรหรอกฉันปล่อยให้พ่อลูกเขาหยอกล้อกันแบบนั้นเดี๋ยวเหนื่อยสองคนนี้ก็หยุดเองส่วนตัวเองก็เดินออกมาส่งยิ้มให้กับคนที่ส่งยิ้มหวานท่าทางผู้รากมากดีแบบสุดๆ แทน ผู้หญิงวัยกลางคนที่คาดผมตรงหน้าแล้วปล่อยผมยาวดำจรดไปตามแผ่นหลังใส่เสื้อแบรนด์ดังมองแค่ตาก็รับรู้ว่ามันราคาแพงเครื่องประดับมุกบนตัวถึงจะเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทว่าพออยู่บนตัวมันกับเด่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ดูดีเหมือนมาจากผู้ดีอังกฤษ น่าเกรงขามและก็น่าให้ความเคารพ ยิ่งมีรอยยิ้มหวานแสดงขึ้นความอ่อนโยนก็ปกคลุม ท่านคือหม่อมเจ้าดารุณี สัตบรรณภริยาของพระองค์เจ้ารัชกรณ์ สัตบรรณ ผู้ที่เป็นใหญ่ในวังสัตบรรณแห่งนี้อีกบุคคลหนึ่ง “สวัสดีค่ะคุณแม่” ใช่ฉันเรียกหม่อมเจ้าดารุณี สัตบรรณว่าคุณแม่เหมือนที่ท่านเคยบอกถึงแม้จะยังไม่ชินก็ตามพร้อมกับเข้าไปนั่งข้างอีกฟากหนึ่งจากนั้นก็หันไปมองคนๆ นั้นที่ยังมองสองพ่อลูกหยอกล้อกัน ฉันรู้จักเขามานานแล้วแหละคนๆ นี้คือหม่อมราชวงค์ตุลย์ สัตบรรณ “สวัสดีค่ะพี่ชายตุลย์” “สวัสดีจ๊ะหนูฟาง แม่คิดถึงหนูมากเลย” “ฟางก็คิดถึงคุณแม่ค่ะ คิดถึงมากๆ เช่นกันค่ะ” หม่อมดารุณีขยับตัวเข้ามาโอบกอดฉันพร้อมกับรอยยิ้มหวานของท่าน ยิ้มที่ฉันชอบเป็นพิเศษเพราะมันทำให้ตัวเองยิ้มตามได้อย่างง่ายดายที่สุด “สวัสดีครับน้องฟาง” ก่อนหน้าพี่ชายตุลย์ชะงักเมื่อได้ยินเสียงทักทายของฉันเข้าไปให้ได้ยิน ใบหน้าได้รูปหันมายิ้มพร้อมกับรับไหว้ฉัน พี่ชายตุลย์ไปเรียนต่อที่อังกฤษพึ่งกลับมาเองอายุก็ห่างกันกับฉันเกือบสองปีเท่ากันกับพี่แฟแหละถ้าจะให้เปรียบ “น้องฟางสบายดีนะครับ” “สบายดีค่ะ” “หนูฟาง... วันนี้แม่ทำของโปรดเตรียมไว้เยอะลูก มีของโปรดชายเตด้วย” “งั้นฝากท้องที่วังด้วยนะคะเย็นนี้ ฝากทั้งสามท้องเลย” “ได้สิลูก” แต่แล้วทุกสายตาก็หันไปมองกับสองพ่อลูกที่ยังกอดอุ้มกันไม่เลิกเสียงหัวเราะคิกคักเกิดขึ้นตามๆ กันซึ่งเมื่อคนที่ได้ชื่อว่าพ่อหันมาเห็นจึงวางร่างเล็กของลูกชายลงโดยยังทิ้งท้ายประโยคนี้ด้วย “หื้ม... พ่อไปไม่นานเลยเห็นมั้ยครับ” “นานมากเลยครับเตเล่นของกับท่านยายนานมาก” “แล้วเบื่อยายมั้ยชายเต” “ไม่เบื่อครับ” ร่างเด็กขี้อ้อนวิ่งจากคนเป็นพ่อมานั่งข้างกายของฉัน แขนของตัวเองถูกจับจองด้วยมือเล็กทั้งสองข้างหมดอีกทั้งยังเอาศีรษะเอียงมาซบฉันด้วยไม่นานคนเป็นพ่อก็เดินเข้ามานั่งข้างกัน เป็นว่าตอนนี้เตได้นั่งคั่นกลางระหว่างฉันกับเขา “สวัสดีครับหม่อมแม่” มารยาทต่างกันมากเลยว่าไหมมาอยู่ในวังเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้เชียว “สวัสดีครับพี่ชายตุลย์ เมื่อกี้รีบไปรับฟางจึงไม่ได้ทำความเคารพขอประทานโทษด้วยนะครับ” “นึกว่ารีบไปเบิกพยานให้หนูฟางมาอธิบายอะไรให้แม่เสียอีก” “โธ่... ไม่มีหรอกครับ” “แม่ครับ...” แต่แล้วเสียงเด็กเล็กข้างฉันก็เอ่ยพูดดังขึ้น “แม่ฟางค้าบ” “ขี้อ้อน” ปลายนิ้วเกลี่ยปลายจมูกเล็กแต่โด่งทักทาย “จะอ้อนอะไรแม่อีกเรา ถ้าจะอ้อนซื้อของเล่นบอกเลยว่าไม่ได้ผลนะเต คราวนี้แม่ไม่ยอมลูกจริงๆ ดูสิเยอะแยะ” “แต่เตไม่ชอบปืนนิครับ ปืนที่ลุงตุลย์ซื้อเตไม่ชอบเลย” “...” แล้วฉันจะพูดอะไรได้ล่ะทีนี้เมื่อลูกชายตัวดีเอ่ยพูดออกไปแบบนั้นอีกทั้งยังต่อหน้าทุกคนโดยเฉพาะคนที่ซื้อปืนของเล่นมาให้ตอนนี้ใบหน้าถอดสีลงมากกว่าปกติ นัยน์ตาคู่นั้นก็หมองหม่นลงแต่มันก็แค่วินาทีเดียวเท่านั้นเพราะไม่นานก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม “พ่อครับ...” เมื่ออ้อนฉันไม่ได้ผลเตก็หันไปอ้อนคนเป็นพ่อเป็นแบบนี้ทุกครั้งเพราะเตรู้ว่าอีกคนจะตามใจตัวเองมากกว่าฉันหลายเท่า ถ้าขออะไรแล้วได้ง่ายเตก็จะจำเอาไว้และก็ใช้ไม้เดิมเวลาอยากได้ของเล่น เป็นแบบนี้ประจำเลย น่าตีนัก “ครับ” “สัญญาครับ” “แอบไปเกี่ยวก้อยสัญญาอะไรกันอีก” ฉันขัดขึ้นด้วยประโยคคำถาม “พ่อบอกเตว่าจะซื้อกล้องถ่ายรูปให้ครับแม่ฟาง” กล้องงั้นเหรอ เชื่อเขาเลย สิ้นสุดประโยคลูกฉันก็มองไปยังตัวการที่ยังมีหน้าหันเสี้ยวใบหน้ามายิ้มให้นิดๆ ก่อนก้มลงมองลูกชายพร้อมกับยกฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะด้วยความเอ็นดูเป็นที่สุด ไม่เคยเห็นเขาขัดใจอะไรลูกชายคนนี้เลยสักนิดเดียวมีแต่คอยตามใจทุกครั้งเมื่อสบโอกาส “บอกแม่ฟางอย่าพึ่งดุพ่อนะ พ่อสัญญาจริงๆ พ่อต้องทำตามใช่มั้ยครับเต” นั่นใจเขาพยายามหาตัวช่วย และคนที่ช่วยได้ก็คือเตลูกชายตัวเอง “แม่ฟาง... แม่ฟางอย่าดุพ่อนะครับ” เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยไม่เกรงใจสายตาหลายคู่ในที่นี้ “เตขอพ่อ เตอยากถ่ายรูปครับ” “แน่ใจนะครับเพราะถ้าซื้อมาแล้วเบื่อทิ้งไว้เป็นกองในกล่องแม่ตีเตแน่ๆ” “อย่าถึงกับตีกันเลยหนูฟาง” “คุณแม่” “ท่านยาย... ชายเตรักท่านยายมากเลย” เพราะหม่อมดารุณีเอ่ยขึ้นและกางแขนรอรับหลานสุดที่รักที่พึ่งพุ่งตัวเข้าไปกอดออดอ้อนคนเป็นยายยิ่งกว่าเดิม “รักมากๆ เลยครับ” “งั้นไปกับยายดีกว่าขนมของโปรดที่ยายทำเตรียมให้ชายเตคงจะเรียบร้อยแล้ว เราทั้งสองคนไปดูด้วยกันนะครับ” “ครับท่านยาย” หม่อมดารุณียิ้มให้พวกเราที่เหลือจากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมจูงมือเตเดินเพื่อแยกออกไปทว่าพอผ่านหน้าฉันลูกชายตัวดีก็รั้งมือผู้เป็นยายแล้วใช้มือเล็กข้างหนึ่งยื่นเข้ามาแตะปลายจมูกด้วยการเขย่งเท้าสุดฤทธิ์ “แม่ฟางคนสวย เตรักแม่ฟางกับพ่อมากนะครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม