อลิเซียตรงกลับบ้านใหญ่หลังจากมีปากมีเสียงกับเจ้าป่าจนพอใจ เธอถอนหายใจตั้งแต่ขึ้นรถเพราะภาพสีหน้าของชายหนุ่มแสดงออกความเจ็บปวดยังตราตรึงอยู่ในหัว ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีทำไมเขาถึงไม่เคยคิดจะตัดใจจากเธอเพื่อมารักเธอบ้าง เธอด้อยกว่าผู้หญิงคนนั้นตรงไหนกัน
“ผมว่าคุณหนูคลายเครียดหน่อยมั้ยครับ หากเข้าบ้านไปแบบนี้ไม่พ้นสายตาของคุณลูเซียโน่แน่ ๆ” การ์ดเอ่ยทัก เขาไม่สบายใจเช่นกันที่ต้องปิดบังพี่น้องของเธอ
“อืม ขอบใจที่เตือน นายช่วยฉันไว้มากจริง ๆ”
“เป็นหน้าที่ของผม เมื่อคุณผู้ชายไว้ใจให้ดูแลคุณหนู ผมควรทำให้ดีที่สุด”
“ไวฟาย” ร่างบางเอ่ยเรียกชื่อการ์ดของตัวเองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ครับ?”
“ความรู้สึกของนายหยุดไว้แค่นี้เถอะ ฉันไม่อยากให้นายเจ็บเหมือนที่ฉันเจ็บ” ไวฟายเม้มปากแน่น
“ผม…”
“ฉันรู้ว่าเจ้าป่าไม่มีวันรักฉัน แต่ฉันเองก็ไม่คิดมองใครนอกจากเขา” คำพูดของเธอถึงจะดูใจร้ายไปหน่อย แต่ไวฟายก็รู้ดีว่านั้นมันเป็นเพราะหญิงสาวหวังดีกับเขา
“ครับ ผมจะพยายามหยุดมันไว้เท่านี้”
“ขอบใจ ที่ไม่คิดจะทำให้ฉันอึดอัด”
“ความสบายใจของคุณหนูคือสิ่งที่ผมตั้งใจรักษาไว้ เพราะงั้นอะไรที่ทำให้คุณหนูไม่พอใจ ผมจะไม่ทำ”
“สักวันนายจะเจอคนนั้นของนาย” หลังเอ่ยจบ คนตัวเล็กเดินลงจากรถตรงเข้าบ้านไปเลย
“เฮ้อ หวังสูงอะไรขนาดนั้นว่ะไอ้ฟาย” การ์ดหนุ่มทึ้งหัวตัวเองแรง ๆ ก่อนถอนหายใจซ้ำ ๆ
“อ้าว น้องเซียมากแล้วเหรอครับ?” ลัมบาน่าเอ่ยทักลูกสาวด้วยรอยยิ้ม เธอก็ยิ้มตอบเช่นเดียวกัน
“คิดถึงแด๊ดจังเลยค่ะ” หญิงสาวสวมกอดพ่อของตัวเอง
“แด๊ดก็คิดถึงหนู ช่วงนี้พักผ่อนน้อยหรือเปล่า น้องเซียของแด๊ดถึงขอบตาช้ำไปหมด” ลัมบาน่าผละกอดออกแล้วมองสำรวจหน้าลูกของตน
“นิดหน่อยค่ะ พอดีเซียกำลังจะปรับปรุงห้องแดงสักหน่อย”
“ทำไมล่ะ ที่ทำไว้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ว่าจะเพิ่มโซน VIP ค่ะ มีแค่สองห้องเปิดให้ใช้บริการไม่พอ”
“น้องเซียของแด๊ด หนูควรพักผ่อนบ้างนะลูก เรื่องงานเต็มที่ก็ไม่ผิด แต่หากทำให้ตัวเองเหนื่อยล้ามันไม่เหมาะสมเอาเสียเลย”
“สปอยน้องเซียอีกแล้วนะคุณแด๊ด” เธออมยิ้มแซวพ่อตน
“เฮ้อ แด๊ดเป็นห่วงนะ” เขาลูบหัวลูกสาวเบา ๆ
“น้องเซียรู้แล้วค่ะ ว่าแต่พวกแฝดไปไหนหมดคะ?”
“อยู่บ้านตัวเองกันน่ะ เดี๋ยวสักหกโมงคงเข้ามา”
“อ่อ งั้นหนูขอไปพักข้างบนหน่อยนะคะ”
“ไปเถอะ เดี๋ยวแด๊ดให้คนไปตามทีหลัง” เธอพยักหน้ารับเบา ๆ และเดินตรงขึ้นห้องไปเลย
“ไดมอนด์” ลัมบาน่าเรียกการ์ดคนสนิทของตัวเองด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ครับนาย”
“ถอนคนออกมาก่อน เหลือไว้แค่คนเดียวพอ เดี๋ยวอลิเซียจับได้แล้วจะงานเข้า”
“แบบนั้นจะดีเหรอครับ?”
“อืม เซียดูแลตัวเองได้ ฉันเชื่อแบบนั้น”
“แล้วทำไมนายถึงยัง..”
“ฉันอยากปกป้องน้องเซียให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ คนเป็นพ่อไม่ให้ห่วงลูกสาวเลยก็คงยาก แต่ใช่ว่าฉันไม่รักเจ้าสามคนนั้นนะ เพียงแต่ลูเซียโน่ แลนซัส และลูคัสน่ะ เก่งพอแล้วจริง ๆ”
“งั้นผมจะรีบสั่งการ์ดที่เหลือให้ครับ”
“ขอบใจมาก มีนายช่วยฉันได้เยอะ”
“ด้วยความยินดีครับ” ไดมอนด์ก้มหัวและเดินออกไป
ช่วงเย็น แฝดทุกคนเข้ามาบ้านหลังใหญ่แต่อลิเซียยังหลับไม่ตื่นขึ้น ลัมบาน่าด้วยความที่อยากให้ลูกสาวพักผ่อนให้เพียงพอ จึงสั่งคนอื่น ๆ ให้รอก่อน แน่นอนว่าทุกคนก็เห็นด้วย
“แด๊ดครับ เราปล่อยไว้แบบนี้จะดีจริงเหรอ?” ลูคัสเปิดประเด็นขึ้น เมื่อตอนนี้เหล่าหนุ่ม ๆ ไม่มีคนรักข้างกาย
“นายกล้าขัดใจเซียมั้ยล่ะ?” แลนซัสเลิกคิ้วถาม
“ไม่กล้า”
“ก็นั่นแหละ ตอนนี้เซียโตแล้วตัดสินใจเองได้ทุกอย่างสักวันเซียจะรู้เองว่าท้ายที่สุดยังมีเราที่เป็นเกราะกำบัง” ลัมบาน่าพูดทั้งที่ตัวเองก็หนักใจเช่นเดียวกัน
“ให้ผมจัดการก็น่าจะจบเรื่อง” ลูเซียโน่พูดขึ้นนิ่ง ๆ ตามฉบับนิสัยเจ้าตัว
“นายจัดการคงได้เกิดเรื่องใหญ่เรื่องโต” แลนซัสเอ่ย
“ก็ดีกว่ามีใคร มาทำให้นางฟ้าเจ็บไม่ใช่เหรอ?” ลูคัสกังวลพี่ ๆ อย่างพวกเขาเข้าใจดี
“แล้วนายจะดีใจใช่มั้ย ถ้านางฟ้าต้องเสียใจเพราะเราไม่เชื่อใจในการตัดสินใจของเขา” ที่แลนซัสพูดก็มีเหตุผล จึงไม่มีใครแย้งขึ้นมาต่อ
“มายืนคุยอะไรกันตรงนี้คะ?” หลังจากที่เงียบได้ไม่นาน เสียงของอลิเซียก็ดังขึ้น
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ?” ลูเซียโน่เอ่ยทัก พร้อมเดินเข้าไปโอบไหล่น้องสาว
“ตื่นแล้ว ว่าแต่มากันนานหรือยัง ทำไมไม่ปลุกเซียล่ะ”
“เห็นแด๊ดบอกช่วงนี้เซียยุ่ง ๆ อยากให้นอนเต็มอิ่มมากว่า” แลนซัสตอบพร้อมเดินไปโอบไหล่อีกข้าง
“แล้วทำไมเราไม่ได้กอด?” แฝดคนเล็กเริ่มงอแงเมื่อตอนนี้ไม่มีที่เหลือให้ตน
“มาสิ มากอดกัน” ร่างบางอ้าแขนให้น้องชายเดินเข้ามา แน่นอนว่าลูคัสไม่รอช้า สวมกอดเธอเต็มแรง
“ระวังหน่อยเจ้าหมา เดี๋ยวเซียก็ล้มพอดี” ลัมบาน่าส่ายหัวไปมา เอ็นดูลูก ๆ ของตนไม่น้อย
“ไม่ทันได้ล้มหรอก” ลูเซียโน่และแลนซัสพูดพร้อมกัน อลิเซียก็เชื่อว่างั้นอยู่กับพวกเขาเธอรู้สึกปลอดภัยได้ตลอดเวลา
“รู้สึกดีจริง ๆ มีผู้ชายมารุมล้อม”
“กลับมาอยู่บ้านสิ พวกเราจะรุมล้อมเธอทุกวัน” หญิงสาวเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินประโยคที่ลูคัสพูดขึ้น
“ล้อเล่น ฮ่า ๆ อย่าทำหน้าเครียด รู้หรอกว่าเซียต้องทำงาน” เธอยิ้มให้น้องชายจาง ๆ
“ไปเตรียมทานข้าวกันเถอะ มัวแต่มายืนกอด น้องเซียหิวแล้ว” ลัมบาน่าทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี่ลง ค่อยพอให้เธอได้หายใจหายคอได้หน่อย นึกว่าความลับที่ปิดไว้จะแตกไปแล้วเสียอีก