ระหว่างที่กำลังนั่งทานข้าว อลิเซียเอาแต่เขี่ยจานไปมาไม่ยอมตักอาหารเข้าปาก ทุกคนสังเกตเห็นแต่ไม่มีใครพูดขึ้นเพราะไม่อยากทำให้เธอต้องอึดอัดหรือรู้สึกว่าถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลา
“ทานนี่หน่อยสิ ของโปรดเธอ” ลูคัสตักกุ้งผัดพริกเกลือวางลงในจานข้าวของอลิเซียเพียงแค่ชั่วครู่ทำเอาอาการพะอืดพะอมเล่นงานเธออย่างหนัก ร่างบางยกมือปิดปากก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยความรวดเร็วท่ามกลางสายตาความเป็นห่วงของทุกคน
“เดี๋ยวเอมิไปดูเองค่ะ” หนุ่ม ๆ พยักหน้าก่อนเมียสาวของแลนซัสจะลุกออกจากโต๊ะไปอีกคน
“เซียไม่อยากทานอาหารที่ฉันตักให้เหรอ? ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า?” แฝดคนเล็กถามด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีมากนัก
“ไม่หรอก อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปเลย เซียคงนอนพักผ่อนน้อย” ลัมบาน่าแก้ต่างให้ลูกสาว เพราะช่วงนี้ลูกชายเขาค่อนข้างอ่อนไหวเอาเรื่อง
“รู้อยู่แล้วแหละ อยากรับบทนางนอยด์ไม่ได้เลยเหรอ” ก็นั่นสินะ จะไปคาดหวังอะไรกับคนคลั่งรักอย่างลูคัสกัน ผู้ชายคนนี้น้อยใจก็แต่กับเมียเท่านั้น
“พี่เซีย พี่ไหวมั้ยคะ?” เอมิเดินตามเข้ามาถึงห้องน้ำและช่วยลูบหลัง ก่อนเอ่ยถามอย่างห่วงใย
“วะ..ไหว อึก”
“พี่ดูหน้าซีด คืนนี้นอนบ้านมั้ย เอมิจะมาเฝ้าเอง” อลิเซียรีบส่ายหัวเป็นคำตอบ เธอค้างไม่ได้
“พี่จะกลับไหวเหรอคะ?”
“ไหว ขอบใจมากนะ” ร่างบางค่อย ๆ พาตัวเองลุกขึ้นยืนและเดินไปล้างปากที่อ่างล้างมือ
“มีอะไรอยากระบายกับเอมิมั้ย?” สะใภ้คนกลางถาม อลิเซียทำได้เพียงส่ายหัวไปมาเบา ๆ
“งั้นออกไปกันเถอะค่ะ ป่านนี้หนุ่ม ๆ เป็นห่วงแย่แล้ว” เธอยิ้มให้เอมิ ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำด้วยความระมัดระวัง
“เป็นไงบ้างน้องเซีย?” ลูเซียโน่ลุกขึ้นไปประคองเป็นคนแรกหลังจากเห็นหน้า
“ไม่เป็นไรแล้ว เซียแค่ไม่ค่อยได้นอนน่ะคนโต” เธอเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยคำโกหกออกมาหน้าตาย
“งั้นเหรอ นี่ถ้ามีแฟนพี่คิดว่าท้องแล้วนะเนี้ย” ขาของเธอถึงกับหยุดชะงัก ก่อนจะยิ้มแหยะ ๆ
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน”
“ก็นั่นนะสิ” แฝดคนโตพูดพร้อมรอยยิ้มที่ส่งให้น้องสาว
“มาทานข้าวต่อสักหน่อยมั้ย?” แลนซัสวางช้อนลงแล้วถามต่อ
“ไม่แล้วดีกว่า เซียกินไม่ค่อยลงน่ะ” เธอดึงเก้าอี้นั่งลงที่เดิม แต่ทุกครั้งเวลาที่หายใจเข้า พยายามจะเบือนหน้าไปทางอื่นเสมอ
“อิ่มกันหมดหรือยัง?” ลัมบาน่าถามขึ้น
“เรียบร้อยแล้วครับ,ค่ะ” ลูกชายและลูกสะใภ้ตอบอย่างพร้อมเพรียง
“งั้นก็ไปนั่งที่ห้องรับแขกดีกว่า แม่บ้านจะได้มาเก็บจานชามไปล้าง” คนเป็นพ่อลุกคนแรก ตามด้วยคนอื่น ๆ
“ได้ข่าวว่ากำลังปรับปรุงห้อง งานเดินไปถึงไหนแล้วครับ?”
“เหลือแค่ไม่ถึง 40% แล้ว” คนตัวเล็กตอบพี่ชาย
“มีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะ” แลนซัสโอบไหล่อลิเซียเบา ๆ
“เหมือนกันจริง ๆ ผู้ชายบ้านนี้ แต่สบายใจได้เซียไหว”
“รู้แล้วว่าไหว แต่ไม่อยากให้เหนื่อย”
“คิดมากไปแล้วคนเล็ก เซียจะเหนื่อยอะไร แค่จ่ายเงินเอง”
“เซ็นเช็คเหนื่อยไง ให้พวกเราช่วยเซ็นก็ได้ใช่มั้ย?” ลัมบาน่า แลนซัส และลูเซียโน่พากันพยักหน้าเป็นอันว่าเห็นด้วยกับลูคัส
“เฮ้อ รู้แล้วว่ารวย เก็บเงินไว้เลี้ยงลูกกันบ้าง”
“งั้นแด๊ดเซ็นให้ได้ เพราะไม่มีลูกคนไหนต้องเลี้ยงแล้ว”
“อย่าให้เห็นว่ามีน้องมาให้เซียอีกคนนะคะ”
“ฮ่า ๆ” ทุกคนถึงกับหลุดหัวเราะเมื่อลัมบาน่าก็ไม่วายโดนอลิเซียเล่นงานเข้าแล้ว
“หนูใจร้ายกับแด๊ดจังเลยน้องเซีย” แด๊ดของเธอแสร้งทำท่าน้อยอกน้อยใจ
“ไว้เซ็นจ่ายอย่างอื่นแทนแล้วกันนะคะ”
“ก็ได้ ๆ งั้นอยากให้จ่ายอะไรให้ ขอแค่บอกเข้าใจมั้ย”
“อลิเซียรับทราบ” เธอยิ้มก่อนมองทุก ๆ คนด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจรู้สึกผิดแทบแย่ ไม่คิดเหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วจะต้องกลายเป็นคนที่มีเรื่องปกปิดครอบครัว
“เดี๋ยวเซียว่าจะกลับเลย งานที่ค้างไว้ยังไม่เสร็จ”
“ไม่นอนค้างหน่อยเหรอ มืดแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรดีกว่า เช้าไม่อยากออกจากบ้านแต่เช้า” เธอเอ่ยปฏิเสธน้องชาย
“งั้นเดี๋ยวเราไปส่งที่รถ” แลนซัสมีบางอย่างอยากพูดกับแฝดสาวสักหน่อย
“งั้นเซียลาทุกคนเลยนะคะ” ทุกคนโบกมือลาเธอ ส่วนแลนซัสเดินตามหลังอลิเซียมาหน้าบ้าน
“เซีย”
“หื้ม?”
“ทุกคนรักเซียมากนะ และอยากเห็นเซียใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด เพราะงั้นแบกอะไรไว้โยนมันมาทิ้งให้พวกเราบ้างก็ได้” คนตัวเล็กไม่ได้พูดอะไร แต่เลือกจะเดินเข้าไปกอดแลนซัสเอาไว้แน่น
“ขอบคุณนะคนกลาง ขอบคุณจริง ๆ” น้ำเสียงที่สั่นเครือแบบนั้นทำเอาคนเป็นน้องเจ็บปวดใจไม่แพ้กัน
“ฝากดูแลอลิเซียด้วยนะไวฟาย”
“คุณแลนซัสไม่ต้องเป็นห่วงครับ” เขาพยักหน้ารับคำพูดของการ์ด ก่อนผละกอดออกจากเธอ
“เรากลับก่อนนะ”
“เดินทางปลอดภัยครับ กลับถึงที่พักแล้วทักมาบอกเราหน่อยนะ”
“ได้สิ” เธอรับปากก่อนเดินขึ้นรถไป
“คุณหนูครับ”
“ว่า?”
“ผมรู้สึกว่าช่วงนี้มีคนตามดูเราอยู่ครับ”
“ฉันรู้แล้วแหละ” เธอตอบนิ่ง ๆ มีอะไรบ้างที่แด๊ดของเธอจะทำได้เนียน
“งั้น…”
“พวกเขารู้บ้างแล้ว แต่น่าจะยังไม่ทั้งหมด ถามเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที”